บทที่ 791 เจ้าเป็นคนเปลี่ยนใช่หรือไม่ – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 791 เจ้าเป็นคนเปลี่ยนใช่หรือไม่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หรงซิวกระหยิ่มยิ้มเยาะราวกับไม่ได้ยินความไม่พอใจ และเจตนาฆ่าที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้น แล้วพยักหน้าเบาๆ
“คารวะท่านผู้อาวุโสทั้งสาม มิได้เจอกันนาน ดูเหมือนพลังวิญญาณของพวกท่านจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า”
ฟู่!
ทันใดนั้นทรายสีเหลืองก็พุ่งขึ้นมาจากพื้น พลันเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นกระบี่เล่มยาว แล้วแทงไปทางหรงซิว
ห้วงนิมิตสีดำถูกเปิดออกทันที ท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุของทะเลทราย
พร้อมลมหนาวที่พวยพุ่งออกมา
แล้วตรงดิ่งไปยังหว่างคิ้วของหรงซิว
หรงซิวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สีหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง ดวงตาเรียวคมประดุจปักษาที่ลึกล้ำของเขานั้น บริสุทธิ์และไม่อาจหยั่งรู้ได้ราวกับราตรีที่พร่างพราย
ขนงเรียวดกหนาแฝงด้วยความเย็นชา ก่อนจะเผยร่องรอยของความเคร่งขรึมออกมาในที่สุด
มือเรียวคว้ากระบี่ด้ามยาวขึ้นมาจับกระชับแน่น
พลัน…
ยกมันขึ้น แล้วฟาดฟันลงมาเต็มแรง
ชิ้ง!
การเคลื่อนไหวของกระบี่นี้เรียบง่ายมาก ไร้ซึ่งเล่ห์กลใดๆ และเพียงแค่รวบรวมพลังที่น่าสะพรึงกลัวแล้วฟาดลงมาตรงๆ
ประกายแสงของกระบี่พวยพุ่ง
กระจายไปทั่วชั้นอากาศ
ลมปราณของกระบี่ทั้งสองเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด
ทรายสีทองร้อนแรงราวกับพายุไต้ฝุ่น เม็ดทรายสีเหลืองทองปลิวว่อน
ร่องลึกสองร่องปรากฏขึ้นในชั้นอากาศทันที
ชิ้ง!
เสียงกระทบที่คมชัดจากการปะทะดังไม่หยุดหย่อน ลมปราณของกระบี่ทั้งสอง พัวพันกันจนกลายเป็นสายน้ำจำนวนนับไม่ถ้วน ที่กำลังสาดใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรง
ลมปราณที่รุนแรงปะทุขึ้นจากตรงกลาง และขยายไปยังบริเวณโดยรอบอย่างบ้าคลั่ง
เสวี่ยเสวี่ยที่เห็นแบบนั้น ก็รีบฝังหัวของมันไว้ในอุ้งเท้าอย่างรู้เท่าทัน
มันอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ถึงจะไม่ได้เรียนรู้อันใดเพิ่ม แต่มันกลับเป็นการฝึกสัญชาตญาณ ให้รู้จักเอาตัวรอดจากลมทะเลทราย
แม้ยามนี้มันจะรู้สึกอับอายอย่างมาก แต่ในเมื่อเจ้านายอยู่ที่นี่ด้วยแล้ว อย่างใดเขาก็ต้องช่วยให้มันรอดพ้นจากสภาพอันน่าสมเพชนี้ไปได้แน่นอน
ขนของเสวี่ยเสวี่ยถูกลมพัดไปมาจนยุ่งเหยิง แต่โชคดีที่ช่วงนี้ร่างกายของมันแข็งแกร่งขึ้นมาก มิเช่นนั้นคงยืนสู้ลมมิได้แน่
หลังจากนั้นไม่นาน คลื่นความผันผวนก็ค่อยๆ สงบลง
เสวี่ยเสวี่ยมุดออกมาจากกองทราย แล้วเขย่าสะบัดร่างกายอย่างแรง และมองไปยังผู้เป็นนายของตน
หรงซิวยังคงยืนอยู่ที่เดิม เท้าของเขาจมลงไปในทรายเล็กน้อยประมาณครึ่งนิ้ว
ชายร่างสูงจัดเสื้อผ้าของตนให้เข้าที่เข้าทาง
อันที่จริงร่างกายของเขายังสะอาดเอี่ยม ไร้ซึ่งเม็ดทรายเปรอะเปื้อนตามตัว
เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถจัดการกับการจู่โจมเมื่อครู่นี้ได้อย่างง่ายดาย
หรงซิวประสานหมัดสองข้างขึ้นแสดงความเคารพ พลางเอ่ยเสียงเรียบ
“ขอบพระคุณที่ชี้นำ ท่านผู้อาวุโส”
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงที่เหมือนทารกก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“หายหน้าไปเพียงไม่กี่ปี แต่เจ้ากลับฝึกฝนไปถึงขั้นนั้นแล้ว ไม่แปลกเลยที่จะอวดดีเช่นนี้…”
“ท่านผู้อาวุโสเข้าใจผิดแล้ว ผู้น้อยอย่างข้านั้น มิหาญกล้าท้าทายเหล่าผู้อาวุโส เช่นนั้นจักกล่าวว่าข้าอวดดีได้อย่างใด?” หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของเขาฟังดูจริงใจมาก
ตู๋กูโม่เป่ายิ้มเยาะ
พลันหลานเซียวก็เอ่ยแทรกอย่างอดไม่ได้
“อันที่จริง เจ้าจะอวดดีหรือไม่นั้นไม่สำคัญ แต่ใบหน้าของเจ้านี่สิ…ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ยังดูดีจนน่ารำคาญเหมือนเดิมไม่มีผิด!”
น้ำเสียงนั่นเต็มไปด้วยความหมั่นไส้ระคนอิจฉา
ผู้อาวุโสลำดับห้าพูดต่อ
“หลานเซียว เจ้าช่วยเลิกพูดเรื่องหน้าตายามพบปะผู้คนสักครั้งได้หรือไม่?”
หลานเซียวปฏิเสธเสียงแข็ง
“ไม่มีทาง”
“… คิดเสียว่าข้าไม่ได้ถามแล้วกัน”
ผู้อาวุโสลำดับห้าคิดว่าตนคงบ้าไปแล้ว ที่หวังว่าหลานเซียวคงจะเลิกนิสัยคลั่งรูปลักษณ์ได้
แต่ถ้าเปลี่ยนได้ง่ายๆ ก็คงไม่ใช่เจ้านั่น
หรงซิวที่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้นึกใส่ใจ และแทนที่จะโกรธ รอยยิ้มมุมปากของเขากลับกดลึกลงกว่าเดิม
“ท่านผู้อาวุโสก็ชมเกินไป”
หลานเซียว “…”
เขารู้สึกชอกช้ำระกำใจยิ่งนัก
“น่าเกลียดจริงๆ บนโลกนี้ยังมีบุรุษที่ไร้ยางอาย อวยยศตนเองออกนอกหน้าได้มากกว่าข้าอีกหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...