“ฮ่าๆๆๆ! พี่ฉู่หนิง ยินดีด้วยนะ!”
ทันทีที่พวกผู้ชายเหล่านั้นเข้าไปในโรงเตี๊ยมเฟิ่งหวง เสียงหัวเราะก็ดังขึ้น
ฉู่หนิงระงับความตกใจและก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทายพวกเขา
“พี่เซี่ยงเทียน พวกท่านมาได้อย่างไร”
คนพวกนี้ต่างมีฐานะที่ไม่ธรรมดา ว่ากันตามเหตุผลพวกเขาไม่น่าจะมาที่นี่ด้วยซ้ำ…
“พี่ฉู่หนิงกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหลังห่างหายไปหลายปี ตอนนี้ท่านได้เลื่อนเป็นผู้บัญชาการราชองครักษ์แล้ว บุตรสาวที่รักของท่านก็เพิ่งสอบเข้าสำนักเทียนลู่ได้ ช่างมีพรสวรรค์น่าทึ่งจริงๆ พวกเราต้องมาร่วมฉลองให้ได้!”
เซี่ยงเทียนพูดพลางตบบ่าฉู่หนิง
คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วยอย่างชัดเจน
ความสงสัยในหัวใจของฉู่หนิงก็ยิ่งมีมากขึ้น
คนเหล่านี้และเขานั้นรู้จักกันจริงๆ ทว่าในแง่ของมิตรภาพก็ไม่นับว่าสนิทสนมแน่นแฟ้น
ถึงอย่างไรก็เป็นบุคคลที่โดดเด่นของแต่ละตระกูล พวกเขาจะสนิทสนมกันได้อย่างไร
ชีวิตเขาตกต่ำมาหลายปี เขาจึงปิดกั้นทุกคนและมีเพียงไม่กี่คนที่ใส่ใจเรื่องนี้
แม้ว่าเขาและเยว่เอ๋อร์จะต่างจากอดีต แต่ด้วยสถานะของคนเหล่านี้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาขนาดนี้
เขาอดเหลือบมองเหยียนเก๋อไม่ได้
เขาได้ยินคำพูดเมื่อครู่นี้อย่างชัดเจน
ผู้ดูแลเจินเป่าเก๋อคนนั้นพูดว่าจะต้องทำให้งานของเยว่เอ๋อร์ครึกครื้น นอกจากเหมาโรงเตี๊ยมเฟิ่งหวงให้แล้ว เขายังเชิญแขกพวกนี้มาด้วยหรือ
“พี่ฉู่หนิง นี่คือบุตรสาวของท่านใช่หรือไม่”
โอวเซี่ยงเทียนและคนอื่นๆ ต่างก็มองไปที่ฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่ทักทายคนพวกนั้น
“ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ พี่ฉู่หนิง ท่านมีลูกสาวเก่งขนาดนี้ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ!”
โอวเซี่ยงเทียนอุทานออกมา
คำพูดนี้มาจากใจจริงของเขา
วันนี้คนทั้งเมืองหลวงมีใครไม่รู้จักอัจฉริยะทั้งด้านผู้ฝึกยุทธ์และปรมาจารย์อย่างฉู่หลิวเยว่บ้าง
ที่สำคัญคือความสามารถของนางทั้งสองด้านนี้ยอดเยี่ยมมาก!
เพิ่งเข้าเรียนวันแรกก็คว้าคะแนนสอบอันดับหนึ่งผู้ฝึกยุทธ์และปรมาจารย์อันดับสองได้แล้ว
ใครจะไม่อิจฉากันบ้างเล่า!
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีแต่ข่าวลือว่าฉู่หลิวเยว่เป็นคนเพียงท่อนฟืนที่มิอาจฝึกยุทธ์ได้ ส่วนฉู่หนิงก็หมดอนาคตเพราะได้รับบาดเจ็บ ใครจะไปคาดคิดว่าวันนี้สองพ่อลูกจะพลิกชะตากลับขึ้นมาทะยายสู่ท้องฟ้าได้!
“พวกเราไม่ได้มาช้าไปใช่หรือไม่”
ซุนซย่าเอ่ยถาม
ฉู่หนิงยิ้มและส่ายหน้าให้
“ทุกท่านมาได้เวลาพอดี เชิญ…”
ในเวลานี้ เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวที่ชั้นล่าง บรรดาหนุ่มสาวที่อยู่ชั้นบนแล้วก็มีความวุ่นวายเช่นกัน
“ทำไม่ข้าถึงได้ยินมีคนเรียกชื่อท่านพ่อของข้าล่ะ”
โอวเจิ้นถามด้วยความมึนงง
“หรือว่าข้าโดนท่านพ่อตีตอนเช้าจนสมองเลอะเลือนไปหมดแล้ว”
“อาจเป็นไปได้ แต่…ข้าก็ได้ยินชื่อท่านพ่อของข้าเหมือนกัน”
ซุนเซี่ยวเซียงบุกขึ้นไปนอกประตู แล้วชะโงกหน้ามองลงไปจากตรงระเบียง
เมื่อเห็นเต็มตาแล้วเขาก็ตกใจทันที
“ท่านพ่อข้ามาจริงๆ ด้วย โอวเจิ้น พ่อเจ้าก็มาแล้วเหมือนกัน พวกเราไม่ได้หูฝาด!”
สีหน้าของโอวเจิ้นนิ่งค้างแล้วกุมขมับด้วยความปวดหัว
“ไม่หรอกมั้ง! หรือท่านพ่อตามข้ามา ตอนเช้าข้าบอกว่าจะมาที่นี่ พูดอย่างไรเขาก็ไม่ยอมเด็ดขาด กว่าข้าจะวิ่งออกมาได้มิใช่เรื่องง่าย จบเห่แล้วๆ คราวนี้ข้าต้องเจ็บหนักแน่ๆ…ไม่ได้การล่ะ! ข้าขอหลบก่อน!”
โอวเจิ้นลุกพรวดพราดแล้วต้องการจะกระโดดลงไปทางหน้าต่าง
“เจ้ากระวนกระวายอะไรเล่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์