เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 878

“พูดจาเหลวไหล!”

ซั่งกวนหว่านได้ยินคำพูดนี้ก็เอ่ยโต้แย้งออกมาเสียเดี๋ยวนั้น

“ไร้เหตุผลสิ้นดี เหตุใดคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งจึงเป็นเช่นนี้ไปได้! ตัวข้ามีสายเลือดราชวงศ์เทียนลิ่งนะ!”

กระทั่งคนที่เคยล้มเหลวจากการลองยกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง ก็มิเคยได้ยินว่าคทาอาญาสิทธิ์เทียน

ลิ่งโจมตีใครมาก่อน!

คำพูดนี้ของฉู่หลิวเยว่ทำเอาผู้คนพากันหัวเราะจนหัวโยก!โนเวล-พีดีเอฟ

“นั่นสิ ท่านมีสถานะเช่นนี้ มันเป็นเพราะอันใดกันแน่นะ ถึงยุให้คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งเป็นเช่นนี้ได้?”

ฉู่หลิวเยว่หัวเราะแผ่วเบาออกมาหนึ่งเสียง แล้วถามกลับ

“หากข้าจำไม่ผิด เมื่อครู่ตอนท่านลองยกคทาอาญาสิทธิ์ มันก็ดูจะต่อต้านอยู่บ้างนี่”

ซั่งกวนหว่านที่กำลังจะเอื้อมมือไปโจมตีฉู่หลิวเยว่ได้ยินเช่นนั้น กลับสำลักขึ้นมาทันทีทันใด!

คำพูดที่หลงเหลืออยู่ในลำคอนั้นอดรนทนไม่ไหวที่จะโพล่งออกมา ทว่าอย่างใดก็ล้วนพูดไม่ออก

นางพลันรู้สึกหวาดกลัวในความผิดขึ้นมา รีบหลบสายตาอย่างรวดเร็ว

แท้จริงแล้วนางเองก็รับรู้ได้ถึงปัญหาข้อนี้

ตั้งแต่แรกเริ่มคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งนั้นทำตัวหยาบคายกับนางมาตลอด มิมีความคิดที่จะเชื่อฟังหรือโอนอ่อนให้เลยแม้แต่น้อย ภายหลังที่นางไปขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโส มันก็ระเบิดออกทั้งอย่างนั้น ทำเอานางถูกระเบิดลอยตัวปลิวอย่างไร้เมตตา…

หรือจะเป็นเพราะสาเหตุนี้?

เมื่อครู่นางโมโหอย่างมาก จึงเอ่ยปากด่ากราดไปทั่ว ทว่าในตอนนี้คำพูดของฉู่หลิวเยว่กลับทำให้นางเริ่มสั่นไหวขึ้นมาทันที

ถ้าหากเป็นเพราะแบบนี้…

นางกัดฟันกรอด แล้วรวบรวมความกล้าเอ่ยออกไปว่า

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอันใด!”

สีหน้าของผู้คนโดยรอบพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าสับสน ราวพยายามเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ

ที่ฉู่หลิวเยว่พูดมาก็พอมีเหตุผลอยู่บ้าง!

ตั้งแต่ที่ซั่งกวนหว่านเริ่มลองยกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งขึ้นมาก็ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย ดูเหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง…

ต่อให้นางจะยกมันไม่ขึ้น ไม่ได้รับการยอมรับจากคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง ก็ไม่น่าถึงขั้นถูกตีจนหกคะเมนตกลงมาจากลานบันไดขั้นที่เก้าเลยนี่…

หรือว่าจะเป็นซั่งกวนหว่านที่มีปัญหาจริงๆ?

“เจ้า เจ้า…เจ้าหยุดแก้ต่างให้ตัวเองเดี๋ยวนี้นะ! เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าใบหน้านี้ของข้าเดิมทีก็ถูกสัตว์อสูรตัวนั้นของเจ้าข่วนจนกลายเป็นแบบนี้ บัดนี้เจ้ายังจะมาทำกับข้าแบบนี้ต่อหน้าฝูงชนอีก คิดจะทำให้ข้ากลายเป็นตัวโง่งมหรือไร!?”

ซั่งกวนหว่านเห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้องจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที นางรีบปัดเป่าความโกรธเกลียดเคียดแค้นออกจากใบหน้า แล้วก้มศีรษะต่อว่าพลางสะอื้นไห้ราวกับว่ากำลังเศร้าโศกอย่างมาก

ในใจฉู่หลิวเยว่คลี่ยิ้มเย็นยะเยือก

คิดจะสาดโคลนใส่นางหรือไรกัน?

มันขึ้นอยู่กับนางต่างหากว่าต้องการทำอันใด!

“องค์หญิงสาม ท่านคงเข้าใจข้าผิดไปแล้วจึงได้พูดเช่นนี้ ตอนที่ใบหน้าของท่านถูกข่วน ข้ายังมิได้ทำพันธะกับมันเลย สำหรับเรื่องนี้ข้ามิตั้งใจจริงๆ อีกทั้งปัญหาที่ถวนจื่อก่อเอาไว้ก่อนนี้ แม้ว่าจะไม่เกี่ยวอันใดกับข้า แต่ในใจข้ารู้สึกผิดอย่างมาก หลังจากที่ข้าตั้งใจกลับมา ก็เข้าวังเพื่อนำโลหิตของอสูรศักดิ์สิทธิ์ไปถวายแก่ฝ่าบาทและท่านโดยตรง หากข้าต้องการทำให้ท่านอับอายจริงๆ เหตุใดจึงต้องทำเรื่องมิจำเป็นมากมายถึงเพียงนี้ด้วยเล่า?”

น้ำเสียงของฉู่หลิวเยว่แผ่วเบานุ่มนวล พร้อมสีหน้าที่ดูบริสุทธิ์ใจ

ซั่งกวนหว่านโกรธเสียจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง ดวงตาเบิกกว้าง หน้าอกกระเพื่อมอย่างรุนแรง ทว่ากลับเอ่ยอันใดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

ชัดเจนแล้วว่าโลหิตของอสูรศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายยอมยกมันให้นางเอง แต่พอคำพูดเหล่านั้นออกมาจากปากฉู่หลิวเยว่ เหตุใดมันจึงกลายเป็นว่านางคือคนไปร้องขอเองเสียเล่า!?

คำโกหกโป้ปดล้วนพรั่งพรูออกมาทันทีที่เปิดปาก!

เพียงแต่ว่า แม้ในใจซั่งกวนหว่านจะโกรธจนถึงขีดสุด ทว่ากลับมิสามารถโต้แย้งอันใดกลับไปได้เลย

…หรือว่าต้องการให้นางยอมรับต่อหน้าฝูงชน ว่านางบีบบังคับให้ฉู่หลิวเยว่นำโลหิตของอสูรศักดิ์สิทธิ์มาให้อย่างนั้นหรือ?

มองดูสภาพซั่งกวนหว่านที่ไร้ซึ่งข้อแก้ตัวใด ในใจคนจำนวนไม่น้อยก็เริ่มหยามเหยียดนางอยู่เงียบๆ

ในเมื่อลงมือก่อปัญหาก่อนทำพันธะด้วยกัน เช่นนั้นเรื่องนี้ก็มิเกี่ยวข้องอันใดกับฉู่หลิวเยว่เลย

การที่นางยอมร้องขอความช่วยเหลือเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทว่าซั่งกวนหว่านกลับขุดคุ้ยเรื่องพวกนี้ขึ้นมา!

ลักษณะนิสัยของคนเป็นอย่างใด ณ จุดนี้สามารถเห็นได้ชัด!

ตอนนั้นเอง เจียงอวี่เฉิงก็เอ่ยปากขึ้นในที่สุด

“แม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังต้องรับผิดชอบความจริงที่ว่าเจ้าทำร้ายองค์หญิงสามอยู่ดี”

ต่อหน้าผู้คน เขาย่อมยืนอยู่ฝั่งเดียวกันกับซั่งกวนหว่าน

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขายังไม่รู้ถึงตัวตนที่แน่ชัดของฉู่หลิวเยว่ อีกทั้งยังไม่รู้ว่านางวางแผนคิดจะทำอันใดกันแน่ ในใจจึงระแวดระวังอย่างมาก

ฉู่หลิวเยว่ชำเลืองมองคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งแวบหนึ่ง

ช่างเป็นตัวสร้างปัญหาที่หนักยิ่งกว่านางโดยแท้…

พวกเขาจะเริ่มสืบสวนเรื่องการตายขององค์หญิงใหญ่ใหม่จริงๆ!

สองปีก่อน เรื่องทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเร็วเกินไป ย่อมเหลือจุดน่าสงสัยอยู่หลายจุด

มาตอนนี้… ในที่สุดก็จะได้สืบสวนตรวจสอบทุกอย่างแล้วใช่หรือไม่?

“พวกเจ้าว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่การตายขององค์หญิงใหญ่ในตอนนั้นจะมีเงื่อนงำบางอย่างจริงๆ? คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งยังจำได้ถึงความอยุติธรรมที่องค์หญิงใหญ่ได้รับ จึงทำให้ฉู่หลิวเยว่ประสบความสำเร็จและแลกมาซึ่งโอกาสครั้งนี้ได้?”

“ไม่มีทางน่า… ในตอนนั้นไม่ใช่ว่าทุกอย่างล้วนสรุปออกมาได้หมดแล้วหรอกหรือ? ขนาดคนสนิทข้างกายขององค์หญิงใหญ่ยังไม่มีทีท่าอันใดเลย… หากว่ามีปัญหาจริงๆ พวกเขาจะปล่อยให้มันคาราคาซังอยู่อย่างนั้นหรือ?”

“เหตุใดจะเป็นไปไม่ได้? คนสนิทขององค์หญิงใหญ่ในตอนนั้น บัดนี้ล้วนบาดเจ็บล้มตายกันไปเท่าไร โดยเฉพาะพวกสิบสามผู้พิทักษ์เยว่ ที่ยังถูกตามล่าตามจับมาจนถึงทุกวันนี้ คนที่ไว้ใจได้ก็เหลือเพียงนับนิ้วได้ หรือจะให้พูดก็คือ เหลือเพียงแค่มู่ชิงเห่อที่ชอบอวดร่ำอวดรวยผู้นั้นแล้ว…”

“ข้าก็ว่าอย่างนั้น! หากไม่ใช่ ก็คงไม่มีสิ่งใดมาอธิบายได้แล้วว่าเหตุใดฉู่หลิวเยว่จึงสามารถยกคทาอาญาสิทธิ์ขึ้นมาได้! นางยืนกรานถึงเพียงนี้ หรือว่านางเองก็เป็นคนขององค์หญิงใหญ่ในตอนนั้นเช่นกัน?”

ผู้คนต่างพากันพูดคุยด้วยเสียงเบา ความเห็นคาดเดาทุกชนิดล้วนผุดออกมา

เจียงอวี่เฉิงได้ยินคำพูดบางส่วนผสมปนเปกันไปหมด ในใจรุ่มร้อนว้าวุ่น

เขามองไปยังฉู่หลิวเยว่ แล้วเอ่ยเสียงต่ำ

“เจ้านำคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งไปวางคืนที่หินนิลทมิฬก่อนเถิด เรื่องหลังจากนี้ค่อยว่ากัน”

สรุปแล้ว การที่ของศักดิ์สิทธิ์ประจำราชวงศ์เทียนลิ่งไปอยู่ในมือฉู่หลิวเยว่เช่นนั้น นับเป็นเรื่องอันใดได้?

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อข้างกายยังมีซั่งกวนหว่านที่กระอักกระอ่วนเสียจนหน้าแทบไม่เหลือ!

เมื่อมาเทียบกันแล้วช่างขมขื่นยิ่ง! ราวกับเรื่องตลกก็มิปาน!

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ได้”

พูดจบ นางก็เหวี่ยงข้อมือคราหนึ่ง!

คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว!

ทว่า พุ่งออกไปได้ไม่เท่าไร คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งพลันวกกลับมาทางเดิมแล้วบินกลับมาลอยอยู่ข้างหน้าฉู่หลิวเยว่อีกครั้งหนึ่ง!

หัวมังกรมาคลอเคลียที่หลังมือของฉู่หลิวเยว่เบาๆ จากนั้นก็ดีดดิ้นกวัดแกว่งไปมาราวกับว่าต้องการออดอ้อนขอคำชมก็มิปาน

…ฮี่ฮี่! ข้ากลับมาแล้ว! คิดถึงข้าหรือไม่?

มุมปากของฉู่หลิวเยว่กระตุกคราหนึ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์