“ไม่ต้องสนใจพวกเขาหรอก พวกเราเองก็ไปเถอะ”
ฉู่หลิวเยว่ดึงสายตากลับมา พลางยกเท้าขึ้นและเดินไปข้างหน้า
เมื่อเหวินฝานได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ตอบสนองแล้วเดินนำไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
“เชิญท่านมาทางนี้”
ในลานกว้าง บริเวณด้านซ้ายและขวามีกำลังพลรออยู่สองหน่วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อรอรับคนเป็นกรณีพิเศษ
และแต่ละหน่วยได้จัดเตรียมรถม้าไว้รอหลายคัน
รถม้าคันที่อยู่ด้านหน้านั้นหรูหราที่สุด ส่วนคันหลังก็ลดความสง่างามลงเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับรถม้าทั่วไป ก็ถือว่าหรูหรามากแล้ว
บนรถม้าเหล่านี้มีสัญลักษณ์บางอย่างถูกสลักไว้
เห็นได้ชัดว่าราชวงศ์เป่ยหมิงจัดเตรียมทั้งหมดนี้ไว้อย่างเรียบร้อย
รถม้าสองคันแรกที่จอดประชันหน้ากันอยู่นั้น ถูกลากโดยม้าสีน้ำเงินแปดตัว
ม้าสีน้ำเงินเหล่านี้เป็นสัตว์อสูรระดับเจ็ด และถือว่าเป็นสัตว์อสูรคุณภาพสูงมาก ดังนั้นพวกมันจึงมีมูลค่าสูงมากเช่นกัน
ราชวงศ์เป่ยหมิงส่งรถม้าจำนวนมากมาที่นี่พร้อมกัน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของชาติบ้านเมืองของพวกเขา!
แต่ก็มีข้อแตกต่างเล็กๆ อยู่ นั่นคือในบรรดาม้าสีน้ำเงินแปดตัวทางด้านซ้าย จะมีตัวหนึ่งที่มีสีอ่อนกว่าเพื่อน ภายใต้แสงแดด ขนของมันสะท้อนแสงระยิบระยับเสมือนคลื่นทะเลและคลื่นธาราสีคราม
แค่ดูก็รู้แล้วว่ามันใกล้จะทะลวงขอบเขตพลังปราณได้แล้ว และแน่นอนว่ามันย่อมสูงส่งกว่าตัวอื่น
ในขณะที่เหวินฝานกำลังจะเดินไปที่ขบวนรถม้าทางด้านซ้าย ทันใดนั้นก็มีเสียงของอิ่นเฮ่าดังไล่ตามมาจากข้างหลัง
“เหวินฝาน พวกเจ้าไปนั่งขบวนทางขวาดีกว่านะ?”
แม้จะฟังดูเหมือนประโยคคำถาม แต่น้ำเสียงที่ใช้กลับเต็มไปด้วยคำสั่ง!
เหวินฝานขมวดคิ้ว แล้วหันกลับมามองเขาพลางเอ่ย
“หากยึดตามลำดับที่ระบุแล้ว ขบวนทางซ้ายคือหมายเลขสาม และขบวนทางขวาคือหมายเลขสี่ และพวกข้าต้องนั่งในขบวนหมายเลขสาม”
แต่อิ่นเฮ่ากลับหัวเราะเยาะ
“มันก็แค่ลำดับก่อนหลังเองมิใช่หรือ? สองขบวนก่อนหน้านี้เองก็ไปแล้ว เหลือแค่สองขบวนสุดท้ายเจ้ายังจะนับอีกเหตุใด? ยกขบวนทางซ้ายให้พวกข้าเสียดีๆ!”
เหวินฝานเริ่มมีน้ำโห เมื่อก่อนอีกฝ่ายก็ชอบบีบให้เขาแพ้แล้วเอาทุกอย่างไป แล้ววันนี้แม้แต่ขบวนรถม้าก็ยังจะแย่งมันไปจากเขาอีก!
ทว่าการที่เขาโดนแกล้งนะไม่สำคัญหรอก แต่ถ้าเขายอมถอยตอนนี้ มันก็จะพลอยทำให้คนจากราชวงศ์เทียนลิ่งเหล่านี้ ถูกดูหมิ่นไปด้วยมิใช่หรือ?
เสียงของเขาเย็นชาลงทันตา
“อิ่นเฮ่า ทุกคนล้วนรู้จักกฎมาก่อนได้ก่อน มาช้าต่อหลัง อีกทั้งความจริงแล้วคนของราชวงศ์เทียนลิ่งก็มาก่อน เป็นธรรมดาที่พวกเขาจักต้องได้นั่งขบวนที่สาม”
เมื่ออิ่นเฮ่าถูกอีกฝ่ายเถียงต่อหน้าประชาชี ก็รู้สึกเสียหน้าครั้งใหญ่ พลันหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที
“เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดเมื่อครู่หรือ? ฝ่าบาทกำลังรอเล่นหมากรุกกับจักรพรรดิไหวเหรินเพื่อรำลึกความหลังอยู่ หากล่าช้าเจ้าจะรับผิดชอบได้หรือไร?”
เหวินฝานเยาะเย้ยในใจ
ภารกิจของพวกเขาในวันนี้คือการรับคนและพาพวกเขาไปส่งให้ปลอดภัย
ที่ต้องเข้าพบฝ่าบาทน่ะ มันวันพรุ่งนี้ต่างหาก!
แต่อีกฝ่ายกลับใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง เห็นได้ชัดว่าเขาแค่ต้องการอันใดบางอย่าง!
“ไม่…”
“ไม่เป็นไร มันก็แค่ขบวนรถม้าเท่านั้น มีอันใดให้ต้องโต้เถียงกันด้วยหรือ ในเมื่อจักรพรรดิไหวเหรินรีบร้อน เช่นนั้นข้าจักเป็นฝ่ายถอยให้เอง”
ก่อนที่เหวินฝานจะพูดจบ ฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ข้างๆ ก็แย้มยิ้มแล้วเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
เกิดความตึงเครียดขึ้นทั่วทั้งบริเวณ เนื่องจากประโยคนี้ได้สร้างความร้าวฉานเล็กๆ ขึ้นมาแล้ว
ทุกคนล้วนหันมองพวกเขาเป็นตาเดียว
สงครามรถม้านี่ ใครๆ ก็ดูออกว่ามันเป็นสงครามบัลลังก์ต่างหาก?
แต่ฉู่หลิวเยว่ใช้สายตาส่งสัญญาณเตือนไม่ให้คนของตนวู่วาม
บรรยากาศที่เงียบงันและกดดันเช่นนี้ทำให้คนมองยิ่งทุกข์ระทม
เหวินฝานรีบกล่าวขออภัยเสียงแผ่ว
“ข้าขอประทานอภัยด้วย ทั้งหมดเป็นเพราะข้ามันไร้ความสามารถเกินไป…”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหัวและเดินไปที่ขบวนรถม้าทางด้านขวา
“พวกเราเองก็ไปกันเถอะ”
ถานไถเฉินและคนอื่นๆ รีบเดินไปยังด้านข้างของรถม้าที่หรูหราที่สุด ทว่าในขณะที่เขากำลังจะก้าวขึ้นไป เขากลับได้ยินเสียงใสที่ดังฟังชัดนั่นอีกครั้ง
“จักรพรรดิไหวเหริน โปรดหยุดก่อน”
ถานไถเฉินหันศีรษะไปมอง ก่อนจะเห็นฉู่หลิวเยว่ที่กำลังยืนยิ้มหวานอยู่ข้างรถม้าของตน
“ข้าไม่เคยมาเยือนหลินโจวมาก่อน และไม่เคยพบใครจากราชวงศ์เป่ยหมิง ทว่ายามนี้จักรพรรดิไหว
เหรินกำลังจะไปพบจักรพรรดิเป่ยหมิง และเล่นหมากรุกกับพระองค์ท่าน เพื่อเห็นแก่รถม้าคันนี้ โปรดช่วยพาข้าไปแนะนำกับฝ่าบาทสักสองสามประโยคด้วยเถิด หากทำเช่นนี้ยามได้พบกันอย่างเป็นทางการในอนาคต ข้าจะได้สนทนากับฝ่าบาทได้เยอะและราบรื่นด้วยดี”
ถานไถเฉินถึงกับผงะ
เพราะเขาไม่ได้บอกว่าจะเข้าวังวันนี้!
สถานะของจักรพรรดิเป่ยหมิงนั้นสูงส่งกว่าเขา จู่ๆ จะบอกว่าเขาขอเข้าพบ แล้วเข้าไปเลยได้ที่ไหนกันล่ะ!
แต่ในเมื่อซั่งกวนเยว่พูดแบบนี้แล้ว ถ้าวันนี้เขาไม่เข้าไป มันคงดูไม่ดีแน่!?
แล้วยัง…เอารถม้าของอีกฝ่ายมาแล้วด้วย!
ทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ทันทีว่าตัวเองกำลังจะตกลงไปในหลุมพรางที่อีกฝ่ายขุดไว้
จะโดดหนีก็ไม่ได้ จะโดดลงไปก็ตายสถานเดียว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...