รอยยิ้มเยาะบนใบหน้าของลู่เฟยเยี่ยนชะงักค้าง
“เจ้าอยู่ในฐานะอะไรถึงกล้ามาสั่งให้ข้าทำนู่นทำนี่ให้ฮะ!”
อย่าว่าแต่ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ออกจากตระกูลฉู่นางก็ไม่มีสิทธิ์ หรือต่อให้ตอนนี้นางยังเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ นางก็ไม่มีสิทธิ์เหมือนกัน
“ลู่เฟยเยี่ยน ที่นี่คือสถานศึกษาไม่ใช่บ้านตระกูลลู่! เจ้ามาทำเป็นคุณหนูใหญ่อวดเบ่งอะไรแถวนี้!”
ไป๋เชินเห็นเรื่องแบบนี้มานักต่อนัก เขาจึงไม่แปลกใจสักนิด ดังนั้นเขาจึงเอ็ดตะโรใส่ลู่เฟยเยี่ยน
“หากเจ้าอยากอวดเบ่งก็กลับไปเบ่งที่ตระกูลลู่!”
เมื่อลู่เฟยเยี่ยนถูกตำหนิ นางถึงได้เก็บอารมณ์
ถ้าจะให้นางไปเป็นขี้ข้าฉู่หลิวเยว่นั่นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
“อาจารย์ไป๋เชิน แต่ฉู่หลิวเยว่เพิ่งจะเข้าเรียนวันแรก แม้นางจะอยู่รุ่นเดียวกับพวกเรา แต่คงไม่ถึงกับต้องให้พวกเราทำเรื่องแบบนี้หรอกกระมังเจ้าคะ”
ไป๋เชินยิ้มเย็นชา
“แม้นางจะมาวันแรก แต่ไม่รู้ว่าพรสวรรค์และความสามารถของนางแข็งแกร่งกว่าพวกเจ้าตั้งเท่าไหร่! ในสำนักเทียนลู่ถือเอาพลังความสามารถเป็นที่เคารพนับถือ! ถึงกระนั้นก็แค่ให้พวกเจ้าช่วยขนของเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น พวกเจ้าดื้อรั้นขนาดนี้หรือเพราะพวกเจ้าไม่เชื่อฟังคำของอาจารย์แล้วหรือ”
พรรคพวกของลู่เฟยเยี่ยนไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงไป๋เชิน เมื่อเห็นว่าหนี่ไม่พ้น จึงทำได้เพียงเดินเข้ามาอย่างไม่เต็มใจนัก
ลู่เฟยเยี่ยนชำเลืองมองรถม้า
ก็แค่คนไร้ญาติขาดมิตรคนหนึ่งจะมีของดีๆ ใช้
นางยังกลัวว่าของพวกนั้นจะทำให้มือนางสกปรกด้วยซ้ำ!
ฉู่หลิวเยว่เดินเข้าไปแล้วหยิบกล่องไม้สีดำออกมา
กลิ่นหอมอ่อนๆ ค่อยๆ ฟุ้งกระจายออกมาตามเช่นกัน
ไป๋เชินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขารู้สึกว่ากลิ่นหอมได้เติมเต็มฟื้นฟูอวัยวะภายในในทันที ทำให้ร่างกายรู้สึกสบายและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
ดวงตาของเขาเป็นประกาย
“นี่คือไม้เหมยเขียวหรือ!”
“อาจารย์ไป๋เชินมีสายตาเฉียบคมยิ่งนัก”
เมื่อได้ยินคำว่า “ไม้เหมยเขียว” ลู่เฟยเยี่ยนก็ถึงกับขมวดคิ้วมุ่น
อันที่จริงบทที่ ฉู่หลิวเยว่หยิบกล่องไม้ออกมาเมื่อครู่นี้ นางก็ได้กลิ่นหอมราวกับดอกเหมยฟุ้งกระจายออกมา นางเดาว่าอาจจะเป็นไม้เหมยเขียว กระนั้นนางก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเสียเท่าไหร่
เนื่องจากของสิ่งนี้มีราคาแพงมาก มันเติบโตในที่สภาพอากาศเย็นจัดเท่านั้น สามปีถึงจะยาวแค่หนึ่งนิ้ว ต้องบ่มเพาะนานนับร้อยปีถึงจะมีดอกเหมยสีเขียวบานสะพรั่ง
คนธรรมดาอาจไม่เคยเห็นมันสักครั้งในชีวิต นับประสากับการได้ครอบครองเป็นเจ้าของ
“เยี่ยนเอ๋อร์ ดูเหมือนกำไลข้อมือของเจ้าก็ทำมาจากไม้เหมยเขียวแกะสลักใช่ไหม”
หญิงสาวที่อยู่ข้างกันนั้นแอบกระซิบถามอย่างอดไม่ได้
สีหน้าของลู่เฟยเยี่ยนบูดบึ้ง
ตอนนั้นท่านแม่ของนางตั้งใจซื้อกำไลข้อมือไม้เหมยเขี้ยวเพื่อมอบให้เป็นรางวัลที่นางสอบเข้าสำนักเทียนลู่ได้
นางชอบมันมากก็เลยมักจะสวมข้อมือเป็นประจำ ดังนั้นสหายใกล้ชิดของนางจึงรู้ดี
ตอนนั้นไม่รู้ว่ามีคนอิจฉานางที่ได้สวมกำลังนี้ตั้งกี่คน
ยามนี้ฉู่หลิวเยว่กลับหยิบกล่องไม้เหมยเขียวแกะสลักออกมาอย่างนั้นหรือ
วัสดุเรียบง่ายเพียงอย่างเดียวแต่ดีกว่ากำไลข้อมือนี่ของนางมากมายกี่เท่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์