เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 975

เสียงของเขาแผ่วเบาเสียจนนอกจากตัวเองแล้ว คงไม่มีใครอื่นได้ยินเสียงนี้

แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะสิ่งสำคัญก็คือคนตรงหน้าเขาต่างหาก!

เชียงหว่านโจวแทบไม่อยากจะเชื่อ เขาหลับตาแล้วหยีตาแรงๆ เพื่อเพ่งมองภาพตรงหน้าให้ชัดเจน

ขณะเดียวกัน คนผู้นั้นก็ได้เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

นางยื่นมือออกมา

“เสี่ยวโจว เจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่?”

เขาเคยได้ยินเสียงนี้เมื่อหลายปีก่อน แต่มันก็นานแสนนานมาแล้ว

แม้แต่ยามหลับฝัน เขาก็ไม่เคยได้ยินมันอีกเลย

ทว่ายามนี้หน้าอกและช่องท้องของเชียงหว่านโจวกลับร้อนวูบวาบ ราวกับมีเปลวเพลิงพวยพุ่งอยู่ภายใน หัวใจดวงน้อยเต้นรำส่ำไม่เป็นจังหวะ แก้วหูด้านในสั่นสะเทือนจนรู้สึกเจ็บจี๊ด

เขารีบเอื้อมมือออกไปโดยไม่รู้ตัว

สัมผัสจากมือเรียวนั่นทั้งเย็นและอ่อนนุ่ม แต่ก็เต็มไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่เช่นกัน

ดวงตาของเชียงหว่านโจวเริ่มกระสับกระส่ายไปมา และภาพตรงหน้าก็พร่ามัวมากขึ้น

เขาหลับตาแน่นอีกครั้ง

และคราวนี้ ในที่สุดภาพทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น

เขาจับมือนั้นไว้แน่นราวกับกลัวว่านางจะทิ้งกันไปอย่างไร้คำบอกกล่าวอีก

ทว่าในขณะที่เขากำลังจะเอื้อนเอ่ยบางอย่าง ใบหน้าที่คุ้นเคยก็พลันปรากฏขึ้น

ฉู่หลิวเยว่

โอ้ ไม่สิ ซั่งกวนเยว่!

ท่าทีของเชียงหว่านโจวพลันหยุดชะงัก

ฉู่หลิวเยว่มองเขาด้วยความแปลกใจระคนสงสัย

ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่มา ทั่วทั้งร่างนั้นเต็มไปด้วยคราบเลือด อีกทั้งใบหน้าซีดเซียวไร้เรี่ยวแรง

ยามนี้ใบหน้าที่เคยผุดผ่องสดใสนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นดินและรอยเลือด ช่างดูน่าเวทนายิ่งนัก

และดวงตาอันงดงามนั้นก็ถูกย้อมด้วยสีแดงเล็กน้อยเช่นกัน

แต่นางเห็นว่าเมื่อครู่แววตาของเขาทอประกายความปิติยินดีออกมาอย่างชัดเจน

เสมือนนักเดินทางกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ที่ในที่สุดก็ได้พบกับบึงน้ำแห่งชีวิต และเช่นเดียวกับผู้ที่ตกอยู่ใความมืดมิดและได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

แต่มันก็แค่แวบเดียวเท่านั้น

พลันบึงน้ำและแสงสว่างนั่น ก็เหือดแห้งและหายวับไปกลับตา

ประกายความสดใสในดวงตาของเขาหม่นหมองลงทันที

ท่าทางแบบนี้… ดูผิดแปลกอย่างน่าฉงน

“เสี่ยวโจว?”

ฉู่หลิวเยว่ตะโกนเรียกอีกครั้ง

และคราวนี้ ในที่สุดเชียงหว่านโจวก็รู้สึกตัว

เขาเก็บสีหน้าเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว และกลับมาคืนสู่ร่างเด็กดื้อเงียบและชอบเก็บตัวอีกครั้ง

ฉู่หลิวเยว่แอบเดาอันใดบางอย่างในใจ

หรือเมื่อครู่… เชียงหว่านโจวจะคิดว่านางเป็นใครคนอื่น?

ซึ่งคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้ ก็เกรงว่าจะมีแต่คนผู้นั้นหรือเปล่านะ?

นางลอบถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ถาม

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะพาเจ้ากลับไปเอง”

นางกล่าวเสียงจริงจัง

เชียงหว่านโจวแอบรู้สึกประทับใจกับคำพูดนั้น พลางเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยสายตาลึกซึ้ง

“… อืม”

ฉู่หลิวเยว่เริ่มทำการตรวจวัดชีพจรของเขา และพบว่าพลังปราณดั้งเดิมในกายเขานั้นใกล้จะหมดลงแล้ว ความเสียหายภายในก็ร้ายแรงมากเช่นกัน!

นางตกตะลึงขั้นสุด

“เจ้าได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ได้อย่างใด?”

เชียงหว่านโจวขมวดคิ้ว

“เพราะที่นี่”

เพราะสถานที่แห่งนี้หรือ?

ฉู่หลิวเยว่กวาดตามองไปรอบๆ

นอกเหนือจากความผันผวนที่อันตรายของห้วงมิติบนชั้นอากาศแล้ว ก็เหมือนจะไม่มีอันใดน่ากลัวไปมากกว่านี้…

เขาได้รับบาดเจ็บภายนอกเพียงเล็กน้อย แต่อาการบาดเจ็บภายในของเขานั้นร้ายแรงกว่าบาดแผลภายนอกมาก

นี่มันไม่ธรรมดาแล้ว

“อย่างใดก็ตาม พวกเราออกไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ”

ฉู่หลิวเยว่เอ่ยพลางตั้งท่าจะเข้าไปพาตัวเขากลับ

ทว่าทันทีที่นางหันกลับมา ก็ต้องพบกับความผันผวนที่ก่อตัวขึ้นเป็นม่านพลังโปร่งแสงปิดกั้นขวางทางด้านหน้านางไว้

ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

นางจำได้ว่าตอนแรกที่เดินเข้ามายังไม่มีสิ่งนี้เลย…

พลังปราณทุกชนิดจากพื้นที่โดยรอบล้วนพุ่งเข้ามา เกิดเป็นระลอกคลื่นความผันผวนที่เคลื่อนตัวอยู่บนม่านพลังนั่น

ถ้าไม่ใช่เพราะอาการปวดตื้อๆ ที่ปลายนิ้ว มันแทบจะทำให้นางคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นแค่ภาพลวงตา!

ฉู่หลิวเยว่เริ่มกำหนดลมหายใจ แล้วคิดหาวิธีที่จะออกไปจากที่นี่

แต่ไม่นานก็มีจุดแสงปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตานาง

ราวกับดวงดาราที่สว่างไสวในคืนเดือนมืด

ร่างบางเพ่งมองอย่างตั้งใจ

ทว่าหลังจากนั้นก็มีดวงดาวดวงที่สอง และดวงที่สาม ปรากฏขึ้นข้างๆ ดาวดวงแรก…

ซึ่งตอนนี้นางก็ค้นพบแล้วว่าจุดแสงดาวนี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นเองในอากาศ แต่พวกมันมาจาก… ม่านพลังนั่นต่างหาก

จุดแสงเหล่านี้มีสีต่างๆ กัน ส่องแสงเจิดจ้า และค่อยๆ ปะติดปะต่อเข้าด้วยกันทีละนิด

ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย และมองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด

ก่อนจะพบว่าจุดแสงเหล่านี้ เหมือนจะค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปอันใดบางอย่าง

นางเห็นลางๆ ว่ามันเหมือนจะเป็นหน้าผา

ช่างเป็นผาที่ดูคุ้นเคยนัก

และทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็นึกถึงบางสิ่ง พลันสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

จากนั้นบนหน้าผาก็ปรากฏศาลาแปดเหลี่ยม!

มันเป็นหน้าผาลึกลับที่เคยปรากฏในฝันของนางหลายครั้งแล้ว!

ฉู่หลิวเยว่เผลอกำมือแน่น ร่างทั้งร่างเกร็งขึ้นทันตา

ในใจนางสังหรณ์ว่าภาพนี้…น่าจะเป็นหนึ่งในความทรงจำของนางแน่ๆ!

เหนือศาลาแปดเหลี่ยม ณ บริเวณที่ลำแสงบรรจบกัน มีร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นแก่สายตา

มันเป็นภาพของบุรุษที่กำลังหันหลังอยู่

แต่ยามนี้เขากำลังนั่งอยู่ที่นั่นพร้อมกระดานหมากรุกที่วางอยู่ตรงหน้า ราวกับว่าเขากำลังเล่นหมากรุกอยู่

และไม่นานก็มีอีกร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงข้ามเขา!

เห็นได้ชัดว่าคนผู้นั้นคือสตรีงาม ผู้เป็นเจ้าของเรือนผมเงางามนุ่มสลวย

ทว่าใบหน้าของนางถูกแผ่นหลังของชายหนุ่มบดบังไว้ ทำให้นางมองไม่เห็นสีหน้าคร่าตาของอีกคน

แต่พอฉู่หลิวเยว่มองไปที่ร่างของหญิงสาวคนนั้น หัวใจของนางก็พลันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ!

พร้อมความรู้สึกอันคุ้นเคยที่กำลังพวยพุ่งอยู่ในใจ!

ขณะเดียวกัน หญิงสาวคนนั้นก็เอียงศีรษะและแย้มยิ้มอย่างสดใส

“คราวนี้ถ้าข้ากลับไปแล้ว ข้าจะบอกท่านพ่อเรื่องที่เราอยู่ด้วยกัน ดีหรือไม่?”

ใบหน้างามสะโอดสะองที่แต่งแต้มไปด้วยร้อยยิ้มหวานเช่นนั้น เป็นใครไปไม่ได้นอกจากซั่งกวนเยว่!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์