สิ่งของพวกนี้ล้วนเป็นของนายท่านผู้ลึกลับผู้นั้นของเจินเป่าเก๋อโดยไม่ต้องสงสัย
ฉู่หลิวเยว่เริ่มมีความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าคนคนนั้นคือใครมีสถานะเป็นเช่นไร แล้วเหตุใดถึงทำเรื่องมากมายให้นางขนาดนี้
นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเอาโฉนดที่ดินเป็นพื้นที่ล่าสัตว์ไปแลกเปลี่ยนได้อย่างแน่นอน
นางเคยลองถามเหยียนเก๋อไปเมื่อก่อนหน้านี้ว่าอยากขอพบนายท่านของเจินเป่าเก๋อ แต่กลับถูกเหยียนเก๋อปฏิเสธทางอ้อม เขาบอกว่านายท่านไม่ค่อยได้อยู่เมืองหลวง แม้กระทั่งเขาจะขอพบสักครั้งยังยาก
หากฉู่หลิวเยว่ต้องการพบจริงๆ คงต้องรอไปอีกสักพัก
ฉู่หลิวเยว่ก็พอจะคิดได้
ในเมื่ออีกฝ่ายส่งของล้ำค่าพวกนี้มาให้ นางจึงรับไว้
รอจนกว่าอีกฝ่ายอยากเจอนาง นางก็คงจะได้ไปเจอเขาเอง
เมื่อถึงคราวนั้นค่อยว่ากันก็ไม่เห็นจะเป็นอันใด
ถึงอย่างไรของพวกนี้ล้วนเป็นของที่นางชอบ เอามาใช้จะได้ไม่เสียเปล่า
ไป๋เชินเหลือบมองลู่เฟยเยี่ยนและคนอื่นๆ ก่อนจะหัวเราะร่วนออกมา
“ไป ข้าจะพาเจ้าไปดูที่พักของเจ้าเอง!”
…
ฉู่หลิวเยว่เดินตามไป๋เชินเข้ามาในสำนัก ส่วนพวกของลู่เฟยเยี่ยนก็ถือของเดินตามมาข้างหลัง มองผิวเผินก็เหมือนทาสรับใช้ของนางมิมีผิดเพี้ยน
คนกลุ่มหนึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนไม่น้อยมาตลอดทาง
แม้คนที่เคยเจอนางเมื่อวันสอบกลางภาคจะมีไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นศิษย์รุ่นเดียวกัน
ตอนนี้ชื่อของฉู่หลิวเยว่ก็พอจะคุ้นหูบรรดาศิษย์รุ่นพี่อีกสองรุ่นในสำนักแล้ว ในที่สุดก็รอนางมาจนถึงวันนี้ แน่นอนว่าพวกเขาก็ดูให้เต็มตาว่านางมีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร
ทว่าเพราะมีไป๋เชินอยู่ด้วยก็ไม่มีใครอยากเข้าวุ่นวายด้วย
เมื่อเข้ามาถึงด้านในของสำนัก ในไม่ช้าฉู่หลิวเยว่ก็เห็นเรือนหลังหนึ่ง
เรือนหลังนี้มีลานแบบบ้านเดี่ยว และมีระยะห่างระหว่างกันพอสมควร
“สำนักมีพื้นที่กว้างขวาง นักเรียนก็มีไม่มาก ดังนั้นนักเรียนทุกคนจึงมีบ้านเรือนเดี่ยวเป็นของตัวเอง เช่นนี้ ต่อให้ไม่ไปเข้าเรียนตามปกติก็ยังสามารถหาพื้นที่ฝึกยุทธ์ของตัวเองได้อย่างสบายใจ”
ไป๋เชินเดินไปพลางอธิบายให้ฉู่หลิวเยว่ฟัง
“ลานประลองและห้องสมุดในสำนักใช้ส่วนรวม แต่เนื่องจากการฝึกฝนที่แตกต่างกัน ดังนั้นพื้นที่ของผู้ฝึกยุทธ์และหมอเทวดาจึงแยกจากกัน ที่เราเพิ่งเดนผ่านมาเมื่อครู่นี้คืออาณาเขตของผู้ฝึกยุทธ์ พอข้ามแม่น้ำซวงชิงเหอนี่ไป ข้างหน้าก็จะเป็นพื้นที่ฝึกปรมาจารย์ของพวกเราแล้วล่ะ”
ฉู่หลิวเยว่มองไปทางข้างหน้า แม่น้ำใสไหลผ่านและมีสะพานหินเจ็ดอุโมงค์ทอดข้ามอยู่เหนือแม่น้ำสายนั้น
อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยังมีสนามหญ้าแยกต่างหากด้วย กระนั้นเห็นได้ชัดว่ามีขนาดใหญ่กว่าที่คิด
ฉู่หลิวเยว่ดูออกว่าเขาพูดจากใจจริง
แม้ไป๋เชินจะมีนิสัยโมโหร้าย แต่ก็เป็นคนปากร้ายใจดี เขารับผิดชอบหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในฐานะอาจารย์คนหนึ่ง
หลังจากมาถึงที่พักอา
ศัย ฉู่หลิวเยว่ก็กวาดตามองสำรวจพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียด และนางก็รู้สึกพอใจมากทีเดียว
เมื่อลู่เฟยเยี่ยนและผู้อื่นมาเห็นก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด ดังนั้นพอเอาของวางลงแล้วพวกนางก็ทำท่าฟึดฟัดแล้วจากไปทันที
ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
คนพวกนี้นางไม่ต้องคิดให้รกสมองเปล่าๆ
ไป๋เชินบอกเรื่องสำคัญที่ต้องระวังบางเรื่องให้ฉู่หลิวเยว่รับทราบ ฉู่หลิวเยว่ก็จำได้ขึ้นใจ
“นี่คือป้ายชื่อและชุดเครื่องแบบของเจ้า เดี๋ยวเจ้าเก็บของทางนี้เสร็จ หากว่างแล้วก็ไปที่สวนเถาหลี่สักหน่อย พวกอาจารย์มักจะคอยอยู่จัดการเรื่องต่างๆ ที่นั่น แม้เจ้าจะเลือกเส้นทางปรมาจารย์แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เลือกอาจารย์ รอเจ้าเลือกได้แล้วก็ไปกราบคารวะอาจารย์ที่สวยเถาหลี่ เมื่อไปรายงานตัวแล้วก็สามารถเริ่มฝึกฝนได้อย่างเป็นทางการ!”
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากถาม
“อาจารย์ไป๋เชิน ไม่เลือกอาจารย์…ไม่ได้หรือเจ้าคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...