ตอนที่112 ไม่จำเป็น
หลินชูวโม่ไม่ได้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉีเล่ยกับหลี่ถงซีเท่าไหร่นัก แต่จู่ๆจะมีผู้ชายคนหนึ่งบังเอิญไปเดินชนกับอาจารย์ที่ได้ชื่อว่า‘เทพธิดาน้ำแข็ง’ และสนิทสนมกันขนาดนี้ได้ยังไง? อย่างน้อยๆพวกเขาทั้งคู่จะต้องสนิทกันมาก่อนในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน
หญิงสาวสองคนนี้มีอย่างหนึ่งที่คล้ายคลึงกันนอกจากความสวย นั่นก็คือนิสัยอันแปลกประหลาดในทางลบ ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนบอกว่า หลี่ถงซีชอบตีตัวออกห่างจากสังคมและอยู่คนเดียว ความจริงแล้วตัวของหลิวชูวโม่เองก็เป็ฯเช่นนั้น ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเธอเป็นคนเข้าหาง่าย อัทยาศรัยดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนที่เข้าใกล้เธอกลับรู้สึกห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก
อีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนเลยก็คือ ตอนประชุมสัมมนาเรื่องการใช้ยาในระบบการศึกษา มีอาจารย์ผู้ชายจากมหาวิทยาลัยอื่นอยู่คนหนึ่ง พยายามชวนหลี่ถงซีพูดคุยอยู่สองสามคำ และนั่นก็ทำให้เธอเผยสีหน้าอันสุดแสนจะรังเกียจออกมาอย่างเปิดเผย ส่วนของหลินชูวโม่ก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองเช่นกัน ถึงแม้เธอจะดูคุยเก่งสนุกสนาน แต่เธอก็กำหนดสถานะและระยะห่างจากคู่สนทนาพอควร
สำหรับเรื่องความรักต้องห้ามระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ หลินชูวโม่กลับไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
เนื่องจากนิสัยอันแปลกประหลาดของเธออีกนั่นแหละ จึงเว้นระยะห่างกับคนอื่นเอาไว้ค่อนข้างมารก เธอจึงไม่มีเพื่อนอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเลย ไม่มีใครสักคนที่จะคอยเล่าเรื่องพวกนี้ให้เธอฟัง และตัวเธอเองก็ไม่สนใจที่จะฟังอีกด้วย นอกจากหน้าที่การงานในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว เธอยังมีธุรกิจคลินิกเสริมความงามอีก หรือพูดง่ายๆก็คือ วงสังคมโดยส่วนใหญ่ของเธอไม่ได้อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่หลินชูวโม่สัมผัสได้อย่างชัดแจ้งคือ ความกระวนกระวายใจของหลี่ถงซีที่มีต่อฉีเล่ย นี่ไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำ
หลินชูวโม่เป็นหญิงสาวที่ภาคภูมิใจในตัวเองที่สุดคนหนึ่ง ถ้าเธอไม่ได้สนใจฉีเล่ยมากขนาดนี้จริงๆ เธอคงไม่เลือกที่จะมีเรื่องกับหญิงสาวคนนี้อย่างแน่นอน
พวกเธอทั้งคู่สอนหนังสืออยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เธอทั้งสองกลับไม่เคยเอ่ยปากทักทายกันแม้แต่คำเดียว
หลินชูวโม่ไม่อยากยอมแพ้ทั้งแบบนี้เลย เธอจึงเอ่ยปากกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้มขึ้นว่า
“ทุกคนในมหาวิทยาลัยต่างพูดกันว่า อาจารย์หลี่เป็นสาวบริสุทธิ์ไม่เคยทำเรื่องไม่เหมาะสม ทั้งยังรักษาระยะห่างกับผู้ชายทุกคนที่เข้ามาใกล้ แต่ดูท่าข่าวลือนี้คงจะไม่เป็นความจริงสินะ?”
หลี่ถงซีเองก็ไม่ถอยเช่นกัน เธอโต้สวนกลับไปทันที
“ฉันเองก็ได้ยินมาว่า อาจารย์หลินเปลี่ยนผู้ชายเป็นว่าเล่น รสนิยมค่อนข้างบิดเบี้ยว อย่างกับว่าผู้ชายทุกคนในโลกต้องผ่านการขึ้นเตียงกับเธอมาก่อน จนถูกบางคนนินทาว่าทำตัวสำส่อน ดูท่าข่าวลือนี้ก็คงจะเป็นความจริงสินะ”
“อยู่แล้ว”
หลินชูวโม่ยักไหล่ราวกับไม่ได้แยแสคำพูดพวกนั้นนัก เธอหันไปมองฉีเล่ยแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ยังไงก็เถอะ ฉันรักอาจารย์ฉีจริงๆนะ”
หลี่ถงซีเอ่ยตอบกลับไปว่า
“เป็นคนตรงไปตรงมาดีนะ แต่มาบอกฉันทำไม?”
“โถ่…อาจารย์หลี่คิดมากเกินไปแล้ว ที่ฉันต้องบอก…เพราะเป็นมารยาทก่อนแย่ง!”
“คุณมาช้าเกินไป”
“ของแบบนี้มันแข่งกันที่ใครมาก่อนมาหลังเหรอคะ? ผลลัพธ์ยังไม่ออก อย่าเพิ่งด่วนตัดสินสิ?”
“ผลมันก็เห็นๆกันอยู่แล้ว อะไรนะ? หรือคุณก็แค่พวกขี้แพ้เอาแต่คร่ำครวญ?”
ฉีเล่ยได้แต่ยืนโง่อยู่แบบนั้น
“….”
เขาพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยสักคำ ทำได้เพียงกวาดตามองสองสาวที่ตั้งท่าราวกับจะตบตีกันอยู่แล้ว
คนหนึ่งแสยะยิ้มเย้ยเยาะอย่างกับดอกไม้ไฟที่พร้อมระเบิดอยู่ตลอดเวลา ส่วนอีกคนก็สีหน้าเยือกเย็นจนหนาวจับขั้วกระดูกดำ
ผู้หญิงคนหนึ่งร้อนเป็นไฟ ส่วนเธออีกคนก็เย็นราวกับน้ำแข็ง…
ฉีเล่ยทราบดีว่า ตัวเองไม่น่าจะเข้าไปขัดขวางอะไรได้ และเขาก็ไม่คิดที่จะเข้าไปขัดจังหวะด้วย เพราะคนหนึ่งก็ผู้ร่วมอาศัย ส่วนอีกคนก็หุ้นส่วนธุรกิจ…
แต่ทันใดนั้นเอง คำพูดประโยคถัดไปของหลี่ถงซี ก็ทำเอาเขายิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปใหญ่
“ฉันมาก่อนคุณ และคุณมาช้าเกินไป! นี่ยังไม่ใช่คำตอบอีกรึไงว่าใครเป็นผู้ชนะ? เขาไม่ใช่ผู้ชายของคุณ เสียใจด้วย!”
โอ๊ยย…หยุดเถอะ!
ฉีเล่ยจงใจถอนหายใจเสียงดังใส่หญิงสาวทั้งคู่และรีบพูดขัดขึ้นทันที
“พวกคุณสองคนช่วยหยุดทะเลาะกันสักครู่จะได้มั๊ย? เอาแบบนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวผมเลี้ยงอาหารเย็นทุกคนเอง เรามาทานข้าวด้วยกันดีไหม?”
“ไม่!”
สองสาวกล่าวตอบโดยพร้อมเพรียง
“…”
ฉีเล่ยไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ทำได้เพียงต้องหยิบเอาท่าไม้ตายประจำตัวของเขาออกมาใช้!
“งั้นก็เชิญพวกคุณสองคนทะเลาะกันตามสบาย แต่ยอบอกไว้อย่าง ผม มี เมีย แล้ว!!”
“ฉัน รู้!!”
สองสาวตอบกลับอย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง
“…”
หลังจากนั้นไม่นาน หลินชูวโม่ก็ขยิบตาหวานส่งให้ฉีเล่ยไปหนึ่งครั้ง และพูดขึ้นด้วน้ำเสียงอันทรงเสน่ห์ขึ้นว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน