ตอนที่115 ไล่ออก
ฉีเล่ยเอ่ยถามขึ้น
“ปัญหาอะไรเหรอครับ?”
เขาทราบดี เนื้อหาหลักของการสนทนาครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ก็นะ ทางเบื้องบนแจ้งลงมาว่า ภายในสาขาแพทย์แผนจีนของเรามีอาจารย์ที่ไม่มีวุฒิปริญญาเข้ามาสอน ซึ่งนี่ส่งผลเสียอย่างมากต่อระบบการศึกษาของทั้งมหาวิทยาลัย รวมไปถึงชื่อเสียง”
หัวหน้าคณะอาจารย์ซีพูดปูทางขึ้นมาขนาดนี้เพื่อหวังจะให้ฉีเล่ยตระหนักได้ด้วยตนเอง แต่เมื่อเห็นท่าทางการแสดงออกของเขาที่ยังคงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่แม้แต่แยแสด้วยซ้ำแบบนี้ หัวหน้าคณะอาจารย์ซีก็ยิ่งหัวเสียหนัก พลางคิดกับตัวเองขึ้นว่า ‘เธออย่าคิดว่าหลินหมิงจางจะสามารถปกป้องเธอได้ตลอดไปนะ!’
“เธอเองก็ควรทราบดีเช่นกัน ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยธรรมดาทั่วไป เรื่องที่อาจารย์ไม่มีวุฒิปริญญามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก แต่ถึงยังไงก็เถอะ มันไม่ใช่กับสถานที่แห่งนี้ เราต้องการบ่มเพาะและฝึกฝนเด็กๆ เหล่านี้ให้เติบโตขึ้นเป็นแพทย์ที่ดี เพื่อช่วยเหลือชีวิตของสังคม ดังนั้นข้อกำหนดและคุณสมบัติของการจะเป็นอาจารย์ผู้ฝึกสอนที่นี่จึงเข้มงวดอย่างมาก”
ฉีเล่ยเหล่ตามองเล็กน้อยพลางหัวเราะขึ้นทันใด วางแก้วน้ำชาในมือลง เขาโน้มตัวเข้ามากล่าวกับหัวหน้าคณะอาจารย์ซีว่า
“หัวหน้าคณะอาจารย์ซีพยายามจะพูดอะไรกันแน่ครับ? บอกกับผมมาตรงๆ เลยดีกว่า”
หัวหน้าคณะอาจารย์ซีตระหนักดีว่า เบื้องหลังของชายหนุ่มคนนี้มีหลินหมิงจางคอยหนุนอยู่ ดังนั้นคงไม่เป็นเรื่องดีหากจะทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง เขาเอ่ยตอบอย่างจริงจังขึ้นว่า
“ผมขอพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยแล้วกัน เธอมีวุฒิปริญญา หรือใบประกอบการเป็นแพทย์ไหม?”
“ไม่มีครับ”
ฉีเล่ยโบกมือปัด
“ผมไม่มีแม้แต่ใบปริญญา หรือใบประกอบอะไรทั้งนั้น”
สีหน้าการแสดงออกของหัวหน้าคณะอาจารย์ซีเปลี่ยนไปทันที เขากล่าวต่อว่า
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องเสียใจด้วยที่ต้องแจ้งให้กับทางคุณทราบ คุณถูกไล่ออกจากสาขาแพทย์แผนจีนแห่งนี้แล้ว เราไม่สามารถจ้างอาจารย์ที่ไม่มีใบประกอบหรือแม้แต่ใบปริญญาได้ หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นในอนาคต มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราคณะอาจารย์ทั้งหมดสามารถชดใช้ได้เลย นักศึกษาของเราอาจได้เรียนรู้อะไรผิดๆ ไป”
ฉีเล่ยโบกมือปัดและกล่าวว่า
“ไม่เป็นไรครับ คุณทำตามเหนือหัวที่สั่งการไปเถอะครับ”
“นี่คุณหมายความว่ายังไง?”
หัวหน้าคณะอาจารย์ซีเอ่ยขึ้นพร้อมสีหน้าอันหมองหม่น
“ก็ตามนั้นเลยครับ”
ฉีเล่ยหัวเราะและกล่าวต่อว่า
“อย่าคิดว่าการที่ผมไม่ได้เป็นอาจารย์แล้ว จะสามารถทำลายชีวิตผมได้ ตัวผมไม่ได้ขาดแคลนเงิน ยังมีอีกหลายสิ่งอย่างที่รอผมอยู่หลังจากนี้”
“นี่คุณพยายามจะพูดอะไรกันแน่?”
หัวหน้าคณะอาจารย์ซีเริ่มหมดความอดทนแล้วเช่นกัน
“ผมแค่จะบอกคุณว่า ถ้าคุณคิดว่าสามารถไล่ผมออกจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้และชีวิตผมจะจบ คุณคิดผิดแล้ว ผมเป็นแพทย์และการสอนเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผมสนใจเท่านั้น ผมไม่เคยคาดหวังอยู่แล้วว่า จะอาศัยสิ่งนี้เพื่อหาเลี้ยงดำรงชีพ เพราะเศษเงินเดือนจากการเป็นอาจารย์แบบนี้ ยังไม่พอเช็ดเท้าผมด้วยซ้ำ”
“นี่หมายความว่ายังไง? ใครที่ไหนอยากไล่คุณออก? ทั้งหมดเป็นเพราะคุณไม่มีแม้แต่ใบปริญญาด้วยซ้ำ เรื่องนี้คุณโทษใครไม่ได้!”
ฉีเล่ยลุกขึ้นยืนและเดินจากออกไปทันที ก่อนเปิดประตูได้ทิ้งท้ายไว้ว่า
“ช่างเถอะครับ ผมไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่แล้วเหมือนกัน ขอตัวไปบอกลาลูกศิษย์ก่อน”
ปัง!
หลังจากฉีเล่ยจากออกไป หัวหน้าคณะอาจารย์ซีก็ยกมือทุบโต๊ะอย่างแรง
เดินสูดอากาศบริสุทธิ์แถววิทยาเขตด้านนอก เหม่อมองใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของนักศึกษาแต่ละคนที่เดินผ่านไปมา ฉีเล่ยรู้สึกไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก
เมื่อคุณพยายามทำอะไรสักอย่างด้วยกำลังทั้งหมด เตรียมพร้อมรอสำหรับฤดูกาลเก็บเกี่ยวจะเริ่มต้นขึ้น แต่ในท้ายที่สุดกลับพบว่า คุณต้องทิ้งสิ่งนั้นไปอย่างกะทันหัน มันไม่ใช่สิ่งที่น่าพอใจเลยถูกไหม?
นับตั้งแต่ที่ฉีเล่ยให้คำสัญญากับหลี่ฮั่วเฉินว่านับจากนี้ตนจะทำหน้าที่ในฐานะอาจารย์แพทย์ จิตใจของเขาก็มุ่งแต่เรื่องการสอนมาโดยตลอด เขาไม่เคยเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว และยังต้องการถ่ายทอดทุกอย่างที่มีให้กับเด็กรุ่นใหม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน