ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 142

ตอนที่142 ข้อผิดพลาดร้ายแรง

แม้เทคโนโลยีและความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาก้าวไกลอย่างรวดเร็วเหนือขีดสุด แต่ทว่าสุขภาพร่างกายของผู้คนกลับเริ่มแย่ลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีคำพูดว่า เก้าในสิบคือผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย ส่วนอีกหนึ่งนั้นก็ใช่ว่าจะแข็งแรง

และดูเหมือนว่าธุรกิจเกี่ยวกับคลินิกเพื่อสุขภาพในยุคสมัยนี้จะค่อนข้างเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก

ภายในชั้นที่หนึ่งของเรือนทรงจีนโบราณแห่งนี้ ไม่เพียงแต่อัดแน่นไปด้วยคนไข้ที่มาเข้าคิวรอรักษา แต่ยังมีแถวต่อยาวออกไปเป็นหางว่าวอีกด้วย

ผู้คนเหล่านั้นล้วนแล้วแต่แต่งตัวภูมิฐานดูดีมีฐานะ ดูแล้วน่าจะเป็นชนชั้นกลางไปจนถึงชนชั้นสูงในสังคม แน่นอนว่าชาวบ้านธรรมดาทั่วไปย่อมไม่มีใครหาญกล้าเดินเข้ามารับการรักษาในคลีนิคตระกูลเป่ยอย่างแน่นอน เพราะแค่ราคาค่าปรึกษาแพทย์ก็เพียงพอที่จะทำให้ชาวบ้านทั่วไปหวาดผวาได้แล้ว

เป่ยจ้าวหยวนเดินนำเข้าไป โดยมีกลุ่มลูกศิษย์เดินตามหลัง ทั้งหมดตรงเข้าไปในห้องที่กว้างขวางและสว่างไสว

ภายในมีอุปกรณ์ทางการแพทย์อยู่ค่อนข้างครบครัน ทั้งยังมีสมุนไพรจีนหลากหลายชนิดประดับประดารายล้อมทั่วห้อง รูปภาพอวัยวะร่างกายและตำแหน่งจุดฝังเข็มสำคัญขนาดใหญ่ถูกแขวนไว้บนผนังห้อง

บนโซฟามีคนไข้นั่งรออยู่ราวสองถึงสามคน เห็นได้ชัดว่า ที่พวกเขามาอยู่ตรงนี้ก็เพื่อรอเข้ารับการรักษากับเป่ยจ้าวหยวนนั่นเอง

เป่ยจ้าวหยวนหันมองไปทางฉีเล่ยพร้อมกับเอ่ยถามออกไปว่า

“นายต้องการประลองกับฉันด้านไหน?”

ฉีเล่ยยิ้มเล็กน้อยพร้อมตอบกลับทันที

“มีคนบอกว่า คุณชำนาญด้านการฝังเข็มที่สุด งั้นเราก็มาประลองทักษะการฝังเข็มกันดีกว่า”

“นายสามารถเลือกประลองด้านอื่นได้นะ รู้ใช่ไหม?”

เป่ยจ้าวหยวนเบะปากเย้ยหยันพลางคิดอยู่ภายในใจว่า ถ้าเลือกที่จะประลองทักษะการฝังเข็มกับเขา อีกฝ่ายย่อมต้องแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มประลองด้วยซ้ำ นี่ถึงกับเลือกวิธีประลองซึ่งคู่แข่งถนัดที่สุดอย่างนั้นเหรอ?

ช่างยโสโอหังซะจริงๆ!

การที่เขาเอ่ยเตือนฉีเล่ยออกไปแบบนั้นก็เพราะว่า ใจหนึ่งยังพอหลงเหลือความเมตตาอยู่บ้าง ส่วนอีกใจก็เพื่อเน้นย้ำถึงจุดแข็งของตนเองให้คู่ต่อสู้เป็นประจักษ์ยิ่งขึ้น

นอกจากเรื่องฝังเข็มแล้ว เป่ยจ้าวหยวนยังมีความชำนาญในด้านการนวดกดจุดสำหรับการกายภาพบำบัด และการวินิจฉัยสั่งยาอีกด้วย เรียกได้ว่าเขาคือแพทย์แผนจีนอัจฉริยะที่เก่งรอบด้านเลยทีเดียว

แต่ฉีเล่ยกลับกล่าวตอบด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูเหนือชั้นกว่าว่า

“ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรอกครับ เพราะการที่จะโค่นคนอย่างคุณให้สิ้นซาก จำเป็นต้องทำลายสิ่งที่ตัวคุณมั่นใจที่สุดทิ้งไป”

“เห้ย! นี่มันจะมากไปแล้วนะ! ปากเก่งสันดานหยาบช้าแบบนี้ แกเอาชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไง? ต้องหน้าด้านขนาดไหนถึงกล้าเอาตัวเองไปเทียบกับอาจารย์ของพวกเรา? อวดดีเกินแล้ว!”

“นั่นน่ะสิ! ยังไม่ทันจะได้เริ่มต้นประลองด้วยซ้ำ รู้ได้ยังไงว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายชนะ? ดูพูดเข้าสิหน้าไม่อาย! ฉันตราหน้าแกไว้เลยก็ได้ว่า ฝีมือของแกไม่ได้ขี้เล็บของอาจารย์ฉันด้วยซ้ำ!”

“ระยะหลังมานี้มีพวกมือใหม่อวดเก่งมีเยอะมากจริงๆ ประลองกับพวกเรายังไม่มีโอกาสจะชนะด้วยซ้ำไป ไม่จำเป็นต้องถึงมืออาจารย์ของเราหรอก!”

ไม่จำเป็นต้องให้เป่ยจ้าวหยวนออกโรงตอบโต้กลับด้วยตัวเอง เพราะมีเหล่าลูกศิษย์แสนเชื่องพวกนี้คอยจัดการโต้แทนเสร็จสรรพ คำพูดของแต่ละคนบ่งบอกถึงความจองหองอวดดีอย่างมาก

สันดานอาจารย์เป็นยังไง สันดานลูกศิษย์ก็ไม่ต่างกันเลย…

เมื่อพบเจอคนปากร้ายแบบนี้เข้า ฉีเล่ยก็ได้แต่นึกเสียใจที่ไม่ได้โทรเรียกเหอจื่อกับเพื่อนๆให้มาที่นี่ด้วย รับรองได้ว่าคงต้องปะทะฝีปากกันมันแน่ และลูกศิษย์ของเขาคงจะสามารถปิดปากคนพวกนี้ให้เลิกเห่าได้อยู่หมัดแน่

เป่ยจ้าวหยวนรู้สึกเบื่อหน่ายกับความเย่อหยิ่งของฉีเล่ยเต็มทน เขาได้แต่ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ทุกคนพูดต่อ เพราะยิ่งพูดมากเท่าไหร่ คำพูดคำจาของลูกศิษย์เขาก็จะยิ่งหยาบคายมากขึ้นเรื่อยๆ

“เลิกพูดไร้สาระกันได้แล้ว มาเริ่มประลองกันเลยดีกว่า ฉันจะแสดงให้เห็นเองว่า การฝังเข็มที่แท้จริงคืออะไร!”

เป่ยจ้าวหยวนเดินตรงไปหาชายร่างเตี้ย และเอ่ยปากถามอย่างเป็นกันเองด้วยสีหน้าท่าทางสบายๆเป็นกันเอง

“ว่าไงสุดหล่อ เราเป็นอะไรมาล่ะ?”

ชายร่างเตี้ยเอ่ยปากตอบด้วยท่าทีเก้อเขินเล็กน้อยว่า

“ผมปวดตั้งแต่เอวลามไปถึงช่วงเข่าเลยครับหมอเป่ย เมื่อวันก่อนหมอเพิ่งตรวจวินิจฉัยให้ และวันนี้ก็นัดให้ผมมาฝังเข็มครับ!”

เป่ยจ้าวหยวนพยักหน้าตอบ และหันไปเปิดกล่องเข็มกางออกมา ขณะเดียวกันก็ค่อยๆยื่นมือไปหยิบเข็มขนาด2.5นิ้วขึ้นมา เขาทำการฆ่าเชื้อเช็ดล้างด้วยแอลกอฮอล์อย่างคล่องแคล่ว มือซ้ายจับเข็ม ในขณะที่มือขวาค่อยๆคลึงคมเข็มโดยอาศัยนิ้วทั้งสอง

“ถอดเสื้อออกเลยครับ”

เป่ยจ้าวหยวนกล่าวบอกคนไข้

หลังจากที่ชายคนนั้นเห็นเป่ยจ้าวหยวนถือเข็มยาวอยู่ในมือ สีหน้าของเขาพลันซีดขาวลงทันที พร้อมกับเอ่ยถามเสียงเบาว่า

“หมอเป่ยครับ มันจะเจ็บไหมครับนี่?”

เป่ยจ้าวหยวนยิ้มพร้อมปลอบโยนไปว่า

“ในเมื่อมาหาหมอแล้ว หลังจากนี้ก็ขอเพียงแค่ต้องเชื่อใจในความสามารถของผมเท่านั้นครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเป่ยจ้าวหยวน ชายร่างเตี้ยก็ถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นจึงได้ถอดเสื้อเชิ้ตสีเงินราคาแพงออก ชายคนนี้ก็เป็นหนึ่งในบรรดาเศรษฐีมีเงินที่เดินทางมารักษากับเป่ยจ้าวหยวนนั่นเอง

จากนั้น เป่ยจ้าวหยวนจึงได้ร้องสั่งว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน