ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 188

ตอนที่188 แขกเพียงคนเดียว

ฉีเล่ยยืนรออยู่หน้าทางเข้ารีสอรท์ครู่หนึ่ง ก่อนจะมีรถAudi A8 แล่นเข้ามาเทียบท่าจอดตรงหน้า เขาคาดเดาได้ในทันทีว่า รถคันนี้จะต้องมารับตนเองอย่างแน่นอน

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ในระหว่างที่ฉีเล่ยกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือในกางเกงของเขาก็ดังขึ้น ทันทีที่กดรับสาย สุ้มเสียงนุ่มลึกของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นจากปลายสาย

“สวัสดีครับคุณฉี ผมเป็นคนขับรถของคุณหนู ตอนนี้ผมมาถึงหน้ารีสอรท์แล้วครับ ไม่ทราบว่าคุณฉีอยู่ตรงไหนครับ?”

ฉีเล่ยเอ่ยตอบกลับไปยิ้มๆ

“ข้างๆคุณเลยครับ”

จากนั้น ฉีเล่ยก็กดวางสายไป พร้อมกับเก็บโทรศัพท์มือถือเข้าไปไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม

เสียงประตูรถถูกผลักออกมา ปรากฏเป็นชายวัยกลางคนที่เดินลงมาจากรถ ก่อนจะรีบเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้ฉีเล่ยเข้าไปนั่ง พร้อมกับโค้งศีรษะคำนับให้เขาอย่างสุภาพ

“ขอบคุณมากครับ”

“ด้วยความยินดีครับผม”

ฉีเล่ยรู้ดีว่า ครอบครัวระดับแนวหน้าของประเทศแบบนี้ การมีคนขับรถส่วนตัวนับเป็นเรื่องธรรมดา และคนที่จะมาทำหน้าที่ขับรถให้ ไม่เพียงจะต้องมีทักษะในการขับรถที่ดีเยี่ยม แต่ยังจะต้องถูกฝึกฝนและขัดเกลาในเรื่องของมารยาทมาเป็นอย่างดีอีกด้วย

หลังจากเข้าไปนั่งบนเบาะที่แสนจะอ่อนนุ่มแล้ว ระหว่างนั้นฉีเล่ยก็พลางครุ่นคิดไปถึงว่า มื้อค่ำวันนี้เขาจะได้กินอะไรเป็นพิเศษ

พ่อของเหอจื่อจะอยู่บ้านรึเปล่านะ? นี่ฉันควรจะชวนท่านคุยเรื่องอะไรดี? เรื่องประเทศสารขันท์ที่มีทหารเป็นนายกดีไหมนะ?

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวผู้มีอิทธิพลแบบนี้ แล้วก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ร่วมโต๊ะทานอาหารกับตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง แต่ที่แน่ๆคือ คราวนี้จะต้องไม่เหมือนกับตอนที่ไปบ้านตระกูลชูแน่นอน ที่ชอบหยิบยกเอาเงื่อนไขไร้สาระมากดดันข่มขู่เขาไม่จบไม่สิ้น

หรืออาจจะโดนหว่า? แต่ไม่น่า…เพราะถึงยังไงฉันก็เป็นอาจารย์ของเหอจื่อ ส่วนคุณแม่ของเธอก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร… แต่ยังไงก็ช่างเถอะ พยายามทำตัวไม่ให้เป็นจุดเด่นจะดีกว่า กินให้น้อย งดดื่ม ไม่พูดอะไรที่มากเกินไป

หลังจากนั่งรถไปได้ครู่ใหญ่ ฉีเล่ยก็เริ่มรู้สึกประทับใจคนขับรถคนนี้มาก สมแล้วที่เป็นคนขับรถประจำตระกูลใหญ่นี้ ทักษะในการขับขี่อยู่ในระดับที่ดีมาก ความเร็วเสถียร เวลาเบรกก็นุ่มนวลจนแทบไม่รู้สึก นี่หากตั้งแก้วน้ำได้ดูท่าคงไม่มีกระฉอกหกอย่างแน่นอน

ผ่านไปราวครี่งชั่วโมง ในที่สุดรถก็ไปจอดอยู่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์โบราณหลังใหญ่มหึมา

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นรถแล่นเข้ามา ก็ยังไม่ยอมเปิดประตูรั้วให้ขับเข้าไปในทันที แต่วิ่งเข้ามาตรวจสอบภายในรถก่อนเพื่อความปลอดภัย ส่วนคนขับเองก็ให้ความร่วมมือดีมาก เปิดกระจกหน้าต่างรถให้ตรวจสอบอย่างละเอียด

หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่พบเห็นความผิดปกติอะไร เขาก็ยืนทำความเคารพรถคันนั้น และในขณะเดียวกันประตูรั้วคฤหสาน์ก็เลื่อนเปิดออกเองอัตโนมัติ จากนรั้นรถก็ค่อยๆแล่นเข้าไปด้านใน

ฉีเล่ยแอบคิดกับตัวเองภายในใจว่า

‘โอ้โห? นี่น่ะเหรอคฤหาสน์ของแม่ทัพภาคที่1? ขนาดบ้านพักอาศัยยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าเวรยามกันหนาแน่นมากขนาดนี้’

‘อดสงสัยไม่ได้จริงๆว่า นี่ถ้าพวกลูกศิษย์มาถึงกันยกคลาสแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนี้ จะไม่วิ่งเข้าๆออกๆกันขาขวิดเลยหรือไง?’

แต่สิ่งหนึ่งที่ฉีเล่ยไม่รู้เลยก็คือ แขกในงานวันนี้มีเพียง‘เขา’แค่คนเดียวเท่านั้น และเมื่อเขามาถึง ทุกคนก็ได้รอเขาอย่างพร้อมหน้ากันหมดแล้ว

หลังจากแล่นผ่านหน้าประตูมาแล้ว รถAudiสีแดงยังคงแล่นไปตามทางต่ออีกเกือบ10นาทีได้ จนท้ายที่สุดก็ไปจอดอยู่ตรงหน้าคฤหาสน์หลังมหึมา

ฉีเล่ยที่นั่งอยู่ในรถ ได้กวาดสายตามองสำรวจสภาพแวดล้อมหลังรั้วมาตลอดทาง เขาถึงกับต้องตกใจอย่างมากเมื่อพบว่า ตลอด10นาทีที่ผ่านมานั้น ข้างทางมีเพียงต้นไม้ใบหญ้าและป่าพุ่มเล็กน้อยเป็นระยะ ผสมปะปนกับกลุ่มคนรับใช้และบอดี้การ์ดที่เดินตรวจตราภายในบ้าน

อย่าลืมว่า ที่ดินภายในเมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่งนั้นแค่ 1ตารางนิ้วก็นับว่ามีค่าเสียยิ่งกว่าทองคำ แต่ที่นี่…กลับปล่อยให้มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นมากมายจนกลายเป็นที่รกร้างเล่น?

หลังจากรถจอดสนิทแล้ว คนขับก็รีบก้าวลงมาเปิดประตูให้ฉีเล่ยทันที หลังจากฉีเล่ยก้าวลงจากรถแล้ว เขาก็ย้ายรถกลับเข้าไปเก็บไว้ในโรงรถที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์

ฉีเล่ยเงยหน้าขึ้นมองคฤหสาน์สูงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ก่อนจะหันมองสำรวจบริเวณใกล้เคียง และพบว่าเหอจื่อกำลังวิ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว

เหอจื่อในวันนี้อยู่ในชุดผ้าฝ้ายลายดอกไม้ คอกว้างจนเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าและลำคอขาวนวลยาวระหงส์ ดูแล้วเซ็กซี่ไม่น้อยเลยทีเดียว เธอหยุดยืนตรงหน้าฉีเล่ยพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“อาจารย์ฉี ยินดีต้อนรับค่ะ!”

หลังจากสำรวจมองเหอจื่อสาวน้อยที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสดใสแล้ว ฉีเล่ยก็อดที่จะเอ่ยชมพร้อมรอยยิ้มไม่ได้

“วันนี้คุณดูสวยมากเลย”

โดยปกติเหอจือมักจะชอบใส่กางเกงยีนส์กับรองเท้าผ้าใบ แล้วก็สะพายกระเป๋าเป้ หรือไม่บางวันก็ถือกระเป๋าถือแล้วแต่อารมณ์ แต่จู่ๆวันนี้เธอก็เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวอย่างชัดเจน ย่อมทำให้คนรู้จักที่ได้เห็นอดที่จะแปลกใจได้บ้างไม่มากก็น้อย

“จริงเหรอค่ะ? ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ฉี!”

เหอจื่อเอ่ยขอบคุณด้วยความดีอกดีใจ แน่นอนว่าเธอต้องดีใจอยู่แล้ว เพราะก่อนค่ำคืนนี้จะมาถึง เธอได้แต่หมกมุ่นอยู่กับการเลือกชุดเสื้อผ้าอยู่นานมาก จนคล้ายกับว่าจะเดินตามเท้าแม่ของตัวเองเข้าไปทุกวันแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน