ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 235

สรุปบท ตอนที่235 ขอให้โชคดี: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน

สรุปเนื้อหา ตอนที่235 ขอให้โชคดี – ยอดคุณหมอสกุลเฉิน โดย Internet

บท ตอนที่235 ขอให้โชคดี ของ ยอดคุณหมอสกุลเฉิน ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่235 ขอให้โชคดี

นาฬิกาปลุกเวลาหกโมงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่ฉีเล่ยจะต้องตื่นไปออกกำลังกายเหมือนเช่นทุกวัน

หลังจากอาบน้ำแปรงฟันแล้ว เขาก็เปลี่ยนมาสวมใส่ชุดกีฬา แล้วเดินลงมาออกกำลังกายที่สวนหน้าบ้านเหมือนทุกวัน และพบว่าหลี่ฮั่วเฉินได้ยืนออกกำลังกายอยู่ในสวนอยู่ก่อนแล้ว แต่สีหน้าของเขากลับดูเหน็ดเหนื่อยคล้ายคนไม่ได้หลับได้นอนมาตลอดทั้งคืน

“อาวุโสหลี่ ทำไมถึงไม่กลับไปนอนพักต่ออีกสักหน่อยล่ะครับ?”

ฉีเล่ยเอ่ยถามขณะที่กำลังร่ายรำท่วงท่าสิบสองวิถีแห่งเต๋า ส่วนหลี่ฮั่วเฉินก็กำลังรำไทเก๊กอยู่เช่นกัน เขายิ้มให้ฉีเล่ยพร้อมตอบกลับไปว่า

“คนแก่ก็แบบนี้ล่ะ ใช่ว่านึกอยากจะนอนก็นอนหลับได้นะ ในเมื่อนอนไม่หลับ ก็สู้ลุกขึ้นมารำไท่เก๊กดีกว่า”

“ว่าแต่ทำไมเมื่อวานอาวุโสถึงได้กลับช้าล่ะครับ? มีเรื่องอะไรรึเปล่า?” ฉีเล่ยเอ่ยถามต่อ

หลี่ฮั่วเฉินถอนหายใจ แล้วจึงตอบกลับไปว่า “เฮ้อ พอดีเมื่อวานที่โรงพยาบาลมีคนไข้อาการหนักน่ะสิ ก็เลยต้องประชุมหารือถึงวิธีการรักษาจนดึก คนป่วยรายนี้มีสถานะพิเศษ ก็เลยไม่มีใครกล้าตัดสินใจว่าจะรักษาด้วยแพทย์แผนจีน หรือว่าแผนตะวันตกดี”

ฉีเล่ยฟังแล้วก็ได้แต่ถามกลับไปว่า “อาวุโสหลี่ ถ้ามีอะไรให้ผมช่วย บอกได้เลยนะครับ!”

หลี่ฮั่วเฉินตอบกลับยิ้มๆ “ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะต้องปกปิดเป็นความลับ ฉันต้องขอความช่วยเหลือจากเธอแน่ๆ ฉันเองก็ไม่สามารถตัดสินใจได้จริงๆ”

ในเมื่อหลี่ฮั่วเฉินลำบากใจที่จะพูด ฉีเล่ยก็ไม่คิดที่จะคะยั้นคะยอเช่นกัน อีกอย่าง เขาเองก็เชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของหลี่ฮั่วเฉิน

“อาวุโสหลี่ครับ ลองทำท่านี้ตามผมดูนะครับ มันจะช่วยลดอาการเหนื่อยล้าได้มาก”

ฉีเล่ยเห็นหลี่ฮั่วเฉินดูเหนื่อยล้า จึงได้สอนเขาฝึกหายใจเพื่อขจัดความเหนื่อยล้าให้หายไปภายในห้านาที

หลี่ฮั่วซานจ้องมองฉีเล่ยพร้อมกับเริ่มทำตามเขาทันที ทั้งครู่สูดลมหายใจเข้าและออก จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่ฮั่วเฉินก็เริ่มรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก และใบหน้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจากเลือดฝาด

“เหลือเชื่อจริงๆ มหัศจรรย์มาก!” หลี่ฮั่วเฉินร้องออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“นี่เป็นเทคนิคการหายใจแบบหนึ่งครับ ถ้าเราเข้าใจเรื่องลมหายใจ และสามารถหายใจได้อย่างถูกต้อง ก็จะทำให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ทีเดียวครับ” ฉีเล่ยเอ่ยตอบยิ้มๆ

“ร้ายกาจนักนะฉีเล่ย! ฉันว่าทั้งตัวเธอนี่ล่ะเป็นสมบัติล้ำค่า!” หลี่ฮั่วเฉินเอ่ยชม

หลี่ถงซีที่เดินออกมาด้านนอกได้เห็นชายหนุ่มกับชายชราออกกำลังกายด้วยกันอยู่ที่สวนด้านนอก จิตใจของเธอพลันรู้สึกมีความสุขขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

“ปู่คะ ทานข้าวได้แล้วค่ะ!” หลี่ถงซีร้องตะโกนบอก

“ได้ๆ ฉีเล่ยไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า”

ฉีเล่ยเดินตามหลี่ฮั่วเฉินเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร ชายชราหันมองหลี่ถงซี แล้วหันกลับมามองฉีเล่ย ปากก็พูดขึ้นว่า

“ฉีเล่ย ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากจะปรึกษาเธอ?”

“เรื่องอะไรเหรอครับ?”

“เร็วๆนี้ฉันจะต้องไปทำงานที่หนานหยางบ้านเดิมของเธอ ก็เลยคิดว่าจะไปคุยกับครอบครัวของเธอด้วยเลย เธอมีความเห็นอะไรบ้างไหม?”

หลี่ฮั่วเฉินบอกกับฉีเล่ย และนี่คือจุดประสงค์หลักที่เขาเดินทางไปหนานหยางครั้งนี้

“คุยเรื่องอะไรเหรอครับ?” ฉีเล่ยย้อนถามกลับไปด้วยสีหน้างุนงง

“ถามมาได้ว่าเรื่องอะไร? นี่เธอยังไม่พร้อมจะแต่งกับถงซีของฉันหรอกเหรอ?”

หลี่ฮั่วเฉินเอ่ยถามกลับไปเช่นกัน ฉีเล่ยถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง และได้แต่นั่งอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้นจนลืมเคี้ยวข้าวในปาก

แต่ง.. แต่งงานกับถงซีงั้นเหรอ?

แล้วที่ว่าจะไปคุย… จะไปคุยกับใครงั้นเหรอ?

ไปคุยกับภรรยาแล้วก็แม่ยายของฉันงั้นเหรอ? ไปขอให้คนทั้งคู่อนุญาตให้ฉันแต่งงานกับหลานสาวของคุณงั้นเหรอ?

พระเจ้า!!

นี่ถ้ามีการโหวตเลือกผู้ชายที่น่าสงสารเห็นใจที่สุด ฉีเล่ยคงจะได้ครองตำแหน่งนี้อย่างแน่นอน!

เมื่อคืน เขาต้องโอบกอดเพื่อปลอบโยนหลี่ถงซี ทำให้ทั้งเขาและเธอแนบชิดกันจนเกิดอารมณ์พุ่งพล่าน จนเผลอล้วงฝ่ามือเข้าไปในชุดนอนของหลี่ถงซีอย่างลืมตัว

แต่เพียงแค่ฝ่ามือของเขาสัมผัสเข้ากับหน้าอกของหญิงสาวไม่ถึงสองนาที ยังไม่ทันที่เขาจะได้ลิ้มรสอุ่นซ่านของเนินอกอวบอิ่มนั้น หลี่ถงซีก็รู้สึกตัว และรีบดึงฝ่ามือของฉีเล่ยออกทันที จากนั้น ตัวเขาเองก็ถูกหลี่ถงซีผลักออกนอกห้องไป…

และนั่นทำให้ฉีเล่ยโมโหฝ่ามือซ้ายของตนเองมาก เพราะหากไม่ใช่ฝ่ามือที่ซุกซนนี้ เขาคงจะได้จูบเล้าโลมหลี่ถงซีนานกว่านี้

ธรรมชาติร่างกายของผู้หญิงนั้น หากถูกกระตุ้นจนถึงจุดหนึ่งแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะเอ่ยคำว่า ‘ไม่’ ออกมาได้!

เมื่อออกมาจากห้อง ฉีเล่ยก็ได้ยกฝ่ามือซ้ายที่ยังมีกลิ่นหอมติดอยู่ขึ้นมาสูดดมครู่หนึ่ง และนั่นทำให้อารมณ์ขุ่นเคืองของเขาจางคลายลงได้บ้าง

ห๊ะ?! แค่จับหน้าอกไม่ถึงสองนาทีถึงกับต้องจ่ายด้วยการแต่งงานเชียวเหรอ?

แต่แน่นอนว่าฉีเล่ยเพียงแค่คิด เขาย่อมไม่กล้าพูดออกมาแน่

มีเหรอที่ฉีเล่ยจะไม่เต็มใจแต่งงานกับสาวสวยอย่างหลี่ถงซี แต่ความจริงก็คือ เขามีภรรยาแล้ว และอีกไม่นาน ภรรยากับแม่ยายของเขาก็จะมาอยู่กับเขาที่ปักกิ่งเช่นกัน

“…”

ฉีเล่ยยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา จนหลี่ฮั่วเฉินต้องพูดขึ้นว่า

“นี่ถ้าเธอไม่ตอบ ก็เท่ากับยอมรับนะ! เฮ้อ.. ฉีเล่ย ความจริงใช่ว่าฉันอยากจะทำลายความสัมพันธ์ของเธอกับลูกสาวของหมอเฉินนะ เพราะความจริงนั้น แม่สามีของเธอต่างหากที่เป็นคนติดต่อมาหาฉันก่อน…”

“…” ฉีเล่ยยังคงนิ่งเงียบเช่นเคย

หลี่ถงซีรับรู้ได้ว่าอารมณ์ของฉีเล่ยน่าจะไม่สู้ปกตินัก เธอจึงได้เงยหน้าขึ้นมองหลี่ฮั่วเฉินพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ปู่คะ หนูเองก็ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยนะคะ”

หลังการรับประทานอาหารเช้าสิ้นสุดลง ฉีเล่ยกับหลี่ถงซีก็ไปมหาวิทยาลัยกัน ระหว่างทางที่ขับรถไปนั้น หลี่ถงซีก็คอยเหลือบมองฉีเล่ยเป็นระยะๆ

สีหน้าของชายหนุ่มเวลานี้ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก!

หลี่ถงซีรู้ว่าตอนนี้ฉีเล่ยคงจะรู้สึกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ที่เธอไม่รู้ก็คือ ในเวลาที่เสียใจมากที่สุดนั้น ใบหน้าของฉีเล่ยจะไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก

“คุณมองอะไร?”

ในที่สุด ฉีเล่ยก็เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเศร้าสร้อย

“มองนาย!”

“…”

เป็นเพราะความขัดแย้งก่อนหน้านี้ ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้นั่งรถมาทำงานและกลับบ้านด้วยกันนานหลายวัน หลังจากที่สามารถฟื้นความสัมพันธ์เดิมกลับคืนมาได้ ทำให้หลี่ถงซีเปิดใจให้ฉีเล่ยเข้าใกล้ได้มากขึ้น และเธอเองก็เริ่มมีความสุขขึ้นเล็กน้อย

รถ BMW ของหลี่ถงซีเคลื่อนเข้าไปจอดใต้อาคาร ระหว่างที่ถอดเข็มขัดนิรภัยออก เธอก็ได้ร้องบอกฉีเล่ยว่า “บ่ายนี้ฉันมีประชุม คงจะไม่กลับไปกินข้าวที่บ้านนะ”

“ไม่เป็นไร ผมเองก็คงไม่กลับไปเหมือนกัน”

ฉีเล่ยตอบกลับเสียงเรียบ ท่าทางราวกับท่อนไม้ เพราะยังไม่หายจากอาการตกใจ

บ่ายนี้เขามีนัดกับถงเซียวเซียวที่บินมาจากไต้หวัน เพื่อมาทำการถ่ายโฆษณาให้กับสินค้าของเขา ตัวเขาเองก็ยังต้องทำความคุ้นเคยกับการถ่ายโฆษณาโทรทัศน์กับภาพยนตร์ ทั้งสองสิ่งนี้แตกต่างจากการถ่ายโฆษณาภาพนิ่งมาก

หลี่ถงซีเพียงแค่พยักหน้า ก่อนจะคว้ากระเป๋าถือเดินขึ้นไปบนอาคารทันที

ระหว่างที่จ้องมองเรือนร่างของหลี่ถงซีที่เดินจากไปนั้น จู่ๆ ฉีเล่ยก็ยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองอย่างแรง เพื่อกระตุ้นจิตใจขอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ตอนนี้เขามีหลายสิ่งหลายอย่างต้องทำ จะมามัวแต่เศร้าโศกแบบนี้ไม่ได้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน