ตอนที่255 บอกความจริงมา
นับตั้งแต่วันที่ฉีเล่ยมาถึงเจียงหลิงจนกระทั่งถึงตอนนี้ เวลาก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว รายการเวทีแพทย์แผนจีนก็ได้ออกมากาศผ่านมาระยะหนึ่งแล้วเช่นกัน และความสามารถทางการแพทย์ของฉีเล่ยในวันนั้น ก็ได้ทำให้หลายคนทึ่งและอัศจรรย์ใจอย่างมาก
แต่เมื่อผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง เป็นเพราะฉีเล่ยเองก็ไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอีกหลังจากนั้น ส่วนหลินชูวโม่ก็ทำการประชาสัมพันธ์สภาแพทย์แผนจีนเฉพาะในปักกิ่ง จึงทำให้ชื่อเสียงที่ค่อนข้างร้อนแรงของฉีเล่ยในเจียงหลิงก่อนหน้านี้ ค่อยๆจางคลายลงไปตามลำดับ
กระทั่งคนขับรถแท็กซี่เองยังไม่รู้จักฉีเล่ยเลย และเมื่อขับเข้ามาถึงเขตตัวเมือง เขาก็ไล่ฉีเล่ยลงจากรถอย่างไม่ไว้หน้า และบริเวณที่เขาถูกคนขับแท็กซี่ไล่ลงนั้น ก็ไม่ใช่สถานที่ที่เขาคุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย
ฉีเล่ยอยากจะรีบกลับไปที่โรงแรม เพื่อสอบถามรายละเอียดเรื่องนี้จากซือไถให้มากขึ้น แต่เมื่อนึกถึงกลิ่นแปลกๆที่โชยออกมาจากบ้านของชายชรา ฉีเล่ยก็เริ่มหวาดระแวงและไม่สบายใจนัก นั่นเพราะกลิ่นประหลาดนั้น ทำให้เขาหายใจได้ไม่เป็นปกติ และเป็นกลิ่นที่เขาจะจดจำได้อย่างไม่มีวันลืมเลือนจริงๆ
มิหนำซ้ำ ซือไถยังบอกกับเขาว่า มีเพียงผู้ที่ถูกฝังหนอนกู่เข้าร่างเท่านั้นที่จะได้กลิ่นแปลกๆนี้
มันเป็นกลิ่นอะไรกันแน่?
ฉีเล่ยจึงตัดสินใจไปที่บ้านของซือไถอีกครั้ง และพบว่า บ้านของชายชรายังคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนก่อนหน้านี้ ประตูบ้านยังคงเปิดอ้าไว้ดังเดิม และไม่มีคนอยู่ด้านในเลยสักคน
หากจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปจากเดิม ก็เห็นจะเป็นกลิ่นประหลาดที่ดูเหมือนจะยิ่งรุนแรงขึ้นกว่าก่อนนี่เอง
ฉีเล่ยจำได้ว่า ครั้งก่อนนั้นกลิ่นประหลาดนี้ดูเหมือนจะเบาบางกว่าตอนนี้มาก แต่เวลานี้กลิ่นนั้นกลับฉุนติดจมูก และทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน ก็ถึงกับต้องผงะถอยหลังออกมาทันที
ฉีเล่ยจัดการฉีกปลายเสื้อของตัวเองออกมาทำหน้ากากปิดจมูก ก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจด้านในใหม่อีกครั้ง
ชั้นล่างของบ้านยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ยังเหมือนกับเมื่อตอนที่เขาเผชิญหน้ากับสองสามีภรรยาเผ่าเหมี่ยว และดูเหมือนต้นตอของกลิ่นประหลาดจะไม่ได้อยู่ที่ชั้นนี้
ส่วนสวนด้านหลังก็เป็นบริเวณที่ซือไถหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ จึงไม่น่าจะใช่ต้นตอของกลิ่นประหลาดนี้เช่นกัน!
ฉีเล่ยค่อยๆก้าวเดินขึ้นไปตามขั้นบันไดอย่างระมัดระวัง และยิ่งเดินขึ้นไปมากเท่าไหร่ กลิ่นประหลาดนั้นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ใช่แล้ว! กลิ่นนี้ล่ะ!”
ฉีเล่ยเริ่มมั่นใจว่า ต้นตอของกลิ่นประหลาดนี้จะต้องอยู่บริเวณชั้นสองของบ้านอย่างแน่นอน!
บนชั้นสองนั้น ด้านซ้ายเป็นห้องนอนที่ประตูเปิดอ้าอยู่ ตรงกลางเป็นห้องนั่งเล่นด้านบน ส่วนด้านขวาเป็นห้องที่ปิดประตูลงกลอนไว้แน่น
“น่าจะเป็นห้องนี้แน่ๆ!”
ฉีเล่ยจ้องมองห้องที่ประตูปิดสนิทอยู่ จากนั้นจึงตัดสินใจยกเท้าขึ้นถีบเข้าที่ประตูอย่างแรง ทำให้ประตูห้องถึงกับเปิดผางออกและร่วงหล่นลงกระแทกกับพื้นทันที
หลังจากที่ฝุ่นตลบอบอวลคละคลุ้งจางหายไป วัตถุขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉีเล่ย
“นี่มัน?!”
“หนอนกู่!”
แม้ว่าฉีเล่ยจะไม่เคยเลี้ยงหนอนกู่ แต่ก็เขาเคยช่วยขับหนอนกู่ออกจากร่างของซือไถก่อนหน้านี้ จึงได้รู้ว่าภายในห้องนี้ล้วนเต็มไปด้วยหนอนกู่มากมาย
หนอนกู่เหล่านี้บรรจุอยู่ในภาชนะชนิดพิเศษบางอย่างขนาดใหญ่ คล้ายกับเป็นที่เพาะเลี้ยงให้มันเจริญเติบโต และแน่นอนว่า กลิ่นเหม็นประหลาดที่โชยออกมานั้น ก็มีต้นตอมาจากที่นี่นั่นเอง
ไม่แปลกเลยที่กลิ่นนี้จะทำให้ซือไถรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรง และอาการแย่ลงเรื่อยๆ
แม้อี้ชากับซิ่วเอ๋อจะจากไปแล้ว แต่พวกเขาทั้งคู่กลับอาศัยบ้านของซือไถเป็นที่เพาะเลี้ยงหนอนกู่
ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่เรื่องเล็กๆอย่างแน่นอน!
หากหนอนกู่เลี้ยงทั้งหมดในห้องนี้ ตกไปอยู่ในมือของคนที่คิดชั่วร้าย แน่นอนว่าเมืองเจียงหลิงทั้งเมืองอาจต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉีเล่ยก็ถึงกบขนลุกขนชัน และเย็นวาบไปทั่วทั้งร่าง!
นี่เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก กระทั่งฉีเล่ยเองยังไม่กล้าที่จะนึกจินตนาการต่อ หากสิ่งที่เขากังวลเกิดขึ้นจริงๆ จะมีผู้คนอีกมากมายเท่าไหร่ที่จะต้องได้รับความทุกข์ความเดือดร้อนกับสิ่งนี้!
เมื่อนึกถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมา ฉีเล่ยก็ถึงกับขนหัวลุก เขาจ้องมองหนอนกู่จำนวนมากมายตรงหน้า และกำลังคิดหาหนทางที่จะทำลายพวกมันทิ้งไป
แม้จะยังไม่รู้ว่า จะใช้วิธีไหนฆ่าหนอนกู่พวกนี้ให้ตายดี แต่ฉีเล่ยก็หยิบเอาสมุนไพรชนิดหนึ่งที่พกติดตัวออกมา และกำลังคิดว่าจะบดมันให้เป็นผง แล้วเอาไปโรยลงในภาชนะขนาดใหญ่ที่เลี้ยงหนอนกู่จำนวนมากนี้ไว้
แม้ว่าจะไม่สามารถคิดหาวิธีกำจัดหนอนกู่ได้ดีไปกว่านี้ แต่การใช้หญ้ามรณะเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของพวกมันไว้ชั่วคราวก็เป็นสิ่งจำเป็นต้องทำไปก่อน
และเมื่อค้นพบวิธีกำจัดหนอนกู่อย่างถาวรได้เมื่อไหร่ จึงค่อยกลับมาจัดการพวกมันอีกที และนี่นับเป็นแผนการที่ดีที่สุดที่ฉีเล่ยคิดได้ในเวลานี้
แต่ในขณะที่เขากำลังจะทำการบดหญ้ามรณะ เพื่อโปรยลงไปในภาชนะเลี้ยงหนอนกู่นั้น เสียงคุ้นหูก็ดังมาจากด้านหลังของเขา
“โอ้! ที่แท้ก็ท่านประธานฉีอีกแล้ว ช่างตายยากตายเย็นซะจริงๆ!”
ฉีเล่ยหัวเราะหึๆ ก่อนจะหลังกลับไปมองพร้อมตอบกลับไปว่า “โอ้! ที่แท้ก็สองผัวเมียนี่เอง เสียใจด้วยนะ หมอดูเคยทำนายทายทักผมไว้ตั้งแต่เด็กๆว่า ผมมันคนดวงดี ตายยากตายเย็น ไม่เป็นอะไรง่ายๆแน่ พวกคุณสองคนคงจะรู้สึกผิดหวังมากสินะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน