ตอนที่ 26 นี่มันเกิดอะไรขึ้น
จ้าวโจวเฉินยกมือขึ้นชี้หน้าฉีเลย พร้อมกับร้องตะโกนถาม ด้วยความโมโห “นี่เธอเป็นใคร? เข้ามาในห้องนี้ได้ยังไงกัน?”
ความจริงแล้ว ฉีเล่ยเองก็ไม่ต้องการฉีกหน้าทีมแพทย์ทั้งหม ดที่อยู่ในห้องเวลานี้ แต่เขาไม่สามารถอดรนทนต่อไปได้อีก เพ ราะจรรยาบรรณแพทย์ที่บรรพชนสกุลเฉินถ่ายทอดไว้ในตัว เขานั้น ทําให้ฉีเล่ยเป็นห่วงชีวิตคนไข้มากกว่าสิ่งใด
ขนาดคนธรรมดาทั่วไปยังรักหน้าตา และศักดิ์ศรีของตัวเอง แล้วมีหรือที่ภรรยาของท่านผู้ว่าการประจํามณฑลจะไม่รัก หน้าตาตัวเอง
ในความรู้สึกของหลิวเพิ่งเจิ้น หากต้องรักษาด้วยวิธีการเช่น นี้ เธอยอมตายเสียดีกว่า!
ฉีเล่ยก้าวเดินไปด้านหน้าสองก้าว พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ไม่ ทราบว่าผมขอแสดงความคิดเห็นบ้างจะได้มั้ยครับ?”
ในวินาทีที่ฉีเล่ยเอ่ยปากพูดประโยคแรกออกมาก่อนหน้านี้ จางฝถึงกับยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองอย่างแรง เขาเพิ่งจะ นึกขึ้นมาได้ว่า ยังไม่ได้แนะนําฉีเล่ยให้กับแพทย์ในทีมได้รู้จัก ว่า ชายหนุ่มผู้นี้ถือจดหมายสําคัญมาหนึ่งฉบับ ซึ่งในจุด หมายฉบับนั้นได้ระบุชัดเจนว่า ให้เขามาช่วยดูอาการของหลิว เพิ่งเจิ้น
เป็นเพราะฝูเฉิงมัวแต่วุ่นวายอยู่กับการมาของหลี่ฮั่วเฉิน และทุกคนต่างก็ให้ความสนอกสนใจแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากปักกิ่ง จนทําให้เขาลืมเรื่องของฉีเลยไปเสียสนิท!
เมื่อได้สติ ฟูเฉิงจึงรีบลุกขึ้นขออภัยทุกคน พร้อมกับพูดขี้ นว่า “ผมขออภัยด้วยครับทุกท่าน ผมลืมแนะนําไปเสียสนิท เลย! นี่เป็นแพทย์ฝึกหัดคนใหม่ และเพิ่งมาทํางานที่โรงพยา บาลเป็นวันแรก เขาถือจดหมายฝากฝังจาก…”
แต่จ้าวโจวเฉินกลับไม่ปล่อยให้จางผู้พูดจบ และเมื่อได้ยิน คําว่าแพทย์ฝึกหัด เขาก็ร้องตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความ โมโห พร้อมกับยกมือขึ้นชี้หน้าฉีเลย
“เป็นแค่แพทย์ฝึกหัด แต่กลับกล้าที่จะออกความเห็น ใครอ นุญาตให้เธอพูด? ที่นี่ไม่ใช่สถานที่สําหรับเธอ ออกไปได้ให้พ้น หน้าฉันได้แล้ว!”
แพทย์คนอื่นๆในทีมต่างก็หันไปจ้องมองฉีเล่ยเช่นกัน แล้ว เสียงของแพทย์ในทีมคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“พ่อหนุ่ม! ที่นี่มีแต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เธอยังกล้า ที่จะแสดงความเห็นอีกเหรอ? เธอคิดว่าเธอคู่อย่างนั้นเหรอ?”
จากนั้น แพทย์คนอื่นๆ ก็เริ่มที่จะพูดจาดูถูกฉีเล่ยขึ้นที่ละคน..
“ช่างไม่รู้จักที่ต่ําที่สูงจริงๆ! นี่เธอถึงกับกล้าคลาง แคลงสงสัยในวิธีการรักษาของท่านหมอหลีเชียวเหรอ? เธอคง ไม่รู้สินะว่า ท่านหมอหลี่เป็นแพทย์มือหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญด้าน โรคทางเดินอาหารมากที่สุด?”
“ฉันชักจะสงสัยแล้วสิว่า ถ้าเธอได้เห็นคนไข้เคสนี้ เธอยัง จะกล้าพูดจาไร้สาระแบบนี้อยู่อีกหรือเปล่า?”
“พูดออกมาได้ว่า ถ้าหญ้าตายอาจทิ้งปัญหาให้กับดิน! เคย มีผลวิจัยการรักษาด้วยการปลูกถ่ายจุลินทรีย์มาแล้วว่า ไม่ มีการทิ้งปัญหาไว้ภายในลําไส้ของผู้ป่วย แล้วปัญหาที่เธอว่า มันคืออะไร?”
“ขนาดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างพวกเรา ยังไม่สา มารถระบุปัญหาที่ว่าได้ แต่เธอกลับสามารถทําได้ นี่ไม่เท่ากับ ว่าแพทย์เฉพาะทางอย่างพวกเรา มีความรู้ความสามารถด้อ ยกว่าแพทย์ฝึกหัดอย่างเธอน่ะสิ!”
บอดี้การ์ดของไต่คนถึงกับตกใจ และรีบวิ่งเข้ามาภาย ในห้อง ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปหาฉีเลยอย่างระแวดระวัง
“ปล่อยให้เขาพูด! ยิ่งเกิดการถกเถียงกันมากเท่าไหร่ ก็จะ ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการรักษาคนไข้มากขึ้น!”
หลี่ฮั่วเฉินร้องตะโกนบอกไป แม้ท่าทางภายนอกของเขาที่ แสดงออกมานั้น จะบ่งบอกว่ายังคงรักษาความสงบนิ่งไว้ได้ แต่ภายในใจนั้น กลับรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจเป็นอย่างมาก!
นั่นเพราะก่อนหน้านี้ เขาก็เพิ่งจะได้ยินเสียงตําหนิไม่พอใจ ของคนไข้ ที่ร้องตะโกนออกมาจากห้อง หลังจากนั้น ชายหนุ่ม คนนี้ยังกล้ามีคําถามกับวิธีการรักษาของเขาอีก อีกทั้งยังเป็น เพียงแค่แพทย์ฝึกหัดด้วย นี่นับเป็นเรื่องที่หลี่ฮั่วเฉินเองก็ไม่ เคยพบเจอมาก่อนเช่นกัน!
จากนั้น หลี่ฮั่วเฉินก็พูดต่อด้วยน้ําเสียงที่ไม่พอใจนัก “พ่อ หนุ่ม ความกล้าของเธอนับว่าน่าชื่นชมไม่น้อย! ปกติ ขนาด หมอที่จบระดับปริญญาเอก เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน พวกเขาก็มีแต่ คอยพยักหน้าเห็นด้วยกับฉันทุกคน ดูท่าหลังจากนี้ ฉันคงจะ ต้องมาหาความรู้เพิ่มเติมที่โรงพยาบาลประจํามณฑลแล้วสิ นะ!”
จ้าวโจวเฉินได้ฟังคําพูดของท่านหมอหลี่ ใบ หน้าของเขาถึงกับแดงกําด้วยความอาย และโกรธผสมกัน เพ ราะนี่ไม่ใช่คําชม แต่มันคือการตําหนิต่างหาก และเป็นการทํา หนิเขาซึ่งเป็นผู้อํานวยการของโรงพยาบาลแห่งนี้ว่า ไม่รู้จักอบ รมผู้ใต้บังคับบัญชาให้รู้จักมารยาท หรือพูดชัดๆก็คือ ไร้กฏ ระเบียบนั้นเอง!
“ท่านหมอหลี่ครับ กรุณาอย่าไปถือคําพูดของแพทย์ฝึกหัด เป็นจริงเป็นจังไปเลยครับ!”
หลังจากที่เห็นว่าหลี่ฮั่วเฉินมีสีหน้าท่าทางไม่พอใจ จ้าวโจว เฉินก็รีบพูดขึ้นทันที จากนั้น เขาก็หันไปทางจาง พร้อมกับต วาดใส่หน้า
“คุณหมอจาง! คุณยังจะยืนนิ่งเฉยอยู่ทําไมกัน? ยังไม่รีบ เอาตัวเขาออกไปจากที่นี่อีก! คนอะไรไม่รู้จักมารยาท แล้ว ก็กฎระเบียบ!”
“ส่วนคุณ.. ไม่ต้องเป็นแล้วหัวหน้าแผนก แล้วจากนี้ไป ก็ให้ ไปประจําอยู่ที่ห้องฉุกเฉินแทน ห้ามขึ้นมาที่นี่อีก!”
หลังจากที่ฉีเลยได้ยินเช่นนั้น เขาก็ถึงกับโมโหขึ้นมาทันที!
เหตุผลที่ชายหนุ่มยอมมารักษาให้กับหลิวเชิงเจิ้น ก็เพ ราะคําร้องขอของอาวุโสต่ง และหากไม่ใช่เพราะอาวุโสต่ง เขา เองก็ไม่คิดที่จะเหยียบเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนี้เหมือนกัน!
การที่ฉีเลยถูกแพทย์คนอื่นๆพูดจาเยาะเย้ยถากถางนั้น เขา ไม่ได้รู้สึกโกรธเลยแม้แต่น้อย แต่นี่กลับส่งผลถึงหน้าที่การ งานของเฉิง ซึ่งพยายามช่วยเขาอย่างเต็มที่ และเขาก็นับเป็น คนที่มีความจริงใจมากคนหนึ่ง!
แต่ความจริงนั้น เรื่องเข้าใจผิดทั้งหมดในวันนี้ คงต้องโทษ ต่งซีหยุนที่ไม่บอกกับไต่คุนไปตรงๆ อีกทั้งไต่คุนเองก็ไม่เคยพ บฉีเลียมาก่อน ทําให้เขาเข้าใจว่า แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ต่งซีหยุน แนะนํามานั้น จะต้องมีอายุมากเช่นเดียวกับหลี่ฮั่วเฉิน
แต่ฉีเล่ยก็คร้านที่จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดในเวลานี้ เพ ราะจะเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ เขายกมือขึ้นผลักจางผู้ที่ เข้ามาใกล้อย่างเบามือ ก่อนจะชี้ไปทางหลี่ฮั่วเฉินพร้ อมกับพูดขึ้นว่า
“หึ! ทําไมดินถึงจะมีปัญหาไม่ได้? ถ้าพวกคุณทุกคนเก่งจริง ทําไมป่านนี้ยังหาวิธีรักษาคนไข้ให้หายไม่ได้? แล้วทําไมเขาต้อ งเอามือข้างขวาวางไว้ข้างเอวตลอดเวลาด้วย?”
เวลานี้ มือข้างขวาของหลี่ฮั่วเฉินยังคงวางไว้ข้างเอวเช่นเคย และเมื่อได้ฟังคําพูดของฉีเล่ย มือข้างขวาของเขาก็ถึงกับสั่น เพิ่มขึ้นมาทันที พร้อมกับยืนจ้องมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าตกตะ
ไม่มีใครในห้องได้ทันเห็นสีหน้าตกตะลึงของท่านหมอหลี่ เพราะหมอคนอื่นๆที่อยู่ในห้องมั่วแต่โกรธฉีเล่ย และคิดว่า แพทย์ฝึกหัดคนนี้ช่างไร้มารยาทสิ้นดี!
และตอนนี้ จ้าวโจวเฉินก็โกรธจนตัวสั่น เขากระทืบเท้า ลงกับพื้นด้วยความโมโห พร้อมกับตวาดฉีเล่ยเสียงดัง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน