ตอนที่279 คิดต่างมุม
ซุนต้าเฉิงได้เตรียมห้องพักให้กับฉีเล่ยไว้แล้ว พื้นที่ภายในห้องนั้นไม่เล็กเลย และมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันอยู่ในนั้น
เมื่อได้เห็นห้องพักของตนเอง ฉีเล่ยถึงกับรู้สึกว่า สมแล้วที่ตระกูลจินเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอย่างมาก เพราะจากสิ่งที่ได้เห็นนั้น ดูเหมือนว่าความคิดเรื่องการใช้เงินอย่างประหยัด คงจะไม่ได้อยู่ในหัวสมองของคนตระกูลนี้เลย
แต่นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้อื่น ฉีเล่ยจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกไป หลังจากเดินเข้าไปในห้องพักแล้ว เขาก็เริ่มย้อนนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดก่อนหน้านี้
นอกเหนือจากท่าทางแปลกๆของแพทย์แผนตะวันตกสองสามคนที่อยู่ในห้อง สภาพร่างกายของชายชราก็ดูไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย ตรงกันข้าม กลับดูเป็นปกติดดีด้วยซ้ำไป ลมปราณภายในร่างก็ไม่มีอะไรติดขัด
แล้วอะไรกันที่ทำให้ชายชรานอนหมดสติไปได้นานขนาดนี้?
ยิ่งครุ่นคิดหาสาเหตุมากเท่าไหร่ ฉีเล่ยก็ยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจมากขึ้นเท่านั้น แต่ในระหว่างที่เขากำลังใช้ความคิดอยู่นั้น จู่ๆ ก็เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นปลุกฉีเล่ยให้ตื่นจากห้วงมโน เขารีบลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูทันที
“สวัสดีประธานฉี ผมได้ยินว่าคุณเพิ่งจะมาถึงวันนี้”
ฉีเล่ยรู้สึกว่า ชายชราที่อยู่ตรงหน้าเขาเวลานี้ ดูคุ้นหน้าคุ้นตายังไงก็ไม่รู้ จึงได้เอ่ยถามออกไปอย่างไม่ค่อยจะมั่นใจนัก
“คุณคือ.. คุณจู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนปักกิ่งใช่ไหมครับนี่?”
โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนปักกิ่งนั้น นับว่าเป็นหนึ่งในสามโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนที่มีชื่อที่สุดของประเทศจีน และจูกวงหลงก็นับเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการแพทย์แผนจีนที่สูงมากคนหนึ่ง
มีคำร่ำลือเกี่ยวกับปู่ของจูกวงหลงว่า ท่านเองก็เป็นแพทย์แผนจีนด้วยเหมือนกัน และเป็นหมอที่ร่อนเร่ไปทั่วทั้งแผ่นดินมานาน กว่าที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพต่อมา
“ใช่แล้วล่ะ ผมเอง! พวกเราแพทย์แผนจีนทั้งหมดกำลังประชุมปรึกษาหารือกันอยู่พอดี แล้วตอนนี้ทุกคนก็กำลังรอคุณอยู่ที่ห้อง”
ภายในห้องประชุมเวลานี้ มีแพทย์แผนจีนจำนวนสิบเอ็ดคนนั่งเรียงรายกันอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูเหมือนว่านอกจากจูกวงหลงแล้ว ซุนต้าเฉิงได้เชิญแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงในประเทศมาเกือบหมด และที่อยู่ในห้องนี้ กว่าครึ่งล้วนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงทั้งสิ้น
และในบรรดาแพทย์แผนจีนที่นั่งเรียงรายกันอยู่ในห้องประชุมเวลานี้นี้ หากสามารถดึงตัวมาได้เพียงแค่หนึ่งหรือสองคน ก็นับว่าสุดยอดมากแล้ว
เหตุการณ์แบบนี้ คงจะมีเพียงตระกูลจินที่ทรงอิทธิพลแข็งแกร่งเท่านั้นล่ะจึงจะทำได้!
“พวกเรามาถึงที่นี่ก่อนคุณหนึ่งวัน แต่จนป่านนี้พวกเรายังไม่สามารถหาสาเหตุของโรคที่ผู้เฒ่าจินเป็นได้เลย วันนี้พวกเราก็เลยมานั่งประชุมกัน เพื่อจะหารือว่าใครมีความเห็นยังไงกันบ้าง?”
ในฐานะที่อาวุโสที่สุดในกลุ่ม จูกวงหลงจึงถือวิสาสะนั่งอยู่กลางโต๊ะประชุม ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมครั้งนี้ และดูเหมือนว่าไม่มีใครที่คิดจะคัดค้านหรือโต้แย้งด้วย
“อาการป่วยขั้นรุนแรงที่จนเรียกว่าโคม่านั้น โดยทั่วไปจะเกิดได้ด้วยสามสาเหตุ หนึ่งคือพิษร้อนทำร้ายตับ ทำให้ลมหยินและหยางในร่างกายกระเพื่อม สองคือเลือดในกายข้นเหนียวเสมหะขุ่น และสามคืออวัยวะภายในอย่างตับและไตอ่อนแอมากจนถึงขั้นวาย”
“แต่เท่าที่ผมตรวจดูอาการของผู้เฒ่าจิน ก็ไม่พบเจอสาเหตุทั้งสามที่พูดมาเลยนะครับ”
ใครบางคนในห้องเป็นฝ่ายเสนอความคิดเห็นขึ้นมาก่อน
“ผมเองก็ไม่พบเหมือนกัน และจนป่านนี้ผมเองก็ยังหาคิดหาสาเหตุของโรคไม่ได้จริงๆ เป็นไปได้ไหมครับว่า นี่อาจจะเกิดจากพวกคุณไสยมนต์ดำ?”
คุณไสย์มนต์ดำเป็นอะไรที่ลี้ลับเสียยิ่งกว่าหนอนกู่ของชนเผ่าเหมี่ยวเสียอีก หลายปีมานี้ฉีเล่ยเองก็ไม่เคยได้ยินเรื่องราวพวกนี้มาก่อน
“เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นเรื่องเล่าลือกันปากต่อปาก ผมว่าอย่าไปเชื่อดีกว่า” ใครบางคนเสนอความเห็นคัดค้าน
สีหน้าของจูกวงหลงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น เขาในฐานะที่เป็นแพทย์แผนจีนอาวุโสที่สุดในกลุ่ม และนับเป็นหัวหน้าทีมในการรักษาครั้งนี้ หากแม้แต่ระบุสาเหตุของโรคยังไม่ได้ หลังจากนี้เขาคงต้องถูกผู้คนหัวเราะเยาะอย่างแน่นอน จึงได้แต่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“สามวัน ภายในสามวันพวกเราจะต้องหาสาเหตุออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้น พวกเราคงไม่มีหน้าอยู่ในวงการนี้ต่อไปได้อีกแน่”
แพทย์ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ ยังไม่มีใครเคยพบเจออาการป่วยประหลาดแบบนี้มาก่อนเลย อายุของหมอจีนภายในห้องนี้ทั้งหมดรวมกันก็เกือบจะพันปีแล้ว อย่าว่าแต่ไม่เคยพบเจอเลย แม้แต่ได้ยินได้ฟังก็ยังไม่เคยด้วยซ้ำไป
“ประธานฉี คุณล่ะ มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม?”
ในขณะที่ทุกคนกำลังนิ่งเงียบอยู่นั้น จู่ๆจูกวงหลงก็หันไปถามฉีเล่ย ที่เอาแต่นั่งยิ้มไม่พูดอะไรอยู่ที่เก้าอี้ตรงข้าม
ฉีเล่ยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อได้ยินจูกวงหลงเรียกชื่อตัวเอง เขาก็ถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ คล้ายกับนักเรียนที่ถูกคุณครูเรียกให้ตอบคำถาม และได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน