ตอนที่278 แพทย์ที่มีชื่อเสียง
แม้ว่าสีหน้าท่าทางและน้ำเสียงของซุนต้าเฉิงจะค่อนข้างสุภาพ และมีมารยาทอย่างมาก แต่ฉีเล่ยก็สามารถมองออกว่า พ่อบ้านคนนี้ออกจะมีความกังวลตื่นเต้นอยู่
“สวัสดีครับ แล้วตอนนี้เจ้านายของคุณอยู่ที่ไหน?”
ซุนต้าเฉิงยืนนิ่งด้วยความงุนงงเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่า ทันทีที่ฉีเล่ยมาถึง และยังไม่ทันจะได้พักผ่อนกินน้ำกินท่าน ก็รีบร้อนถามถึงเจ้านายของตนแบบนี้ แต่เมื่อรู้สึกตัวก็รีบตอบกลับไปทันที
“อ่อ.. เชิญทางนี้ครับ ผมจะพาประธานฉีไปเอง”
ห้องของชายชราอยู่ชั้นสามของบ้าน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพ่อบ้านซุนกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองหรืออย่างไร ถึงได้ต้องมีบอดดี้การ์ดคอยเดินตามติดอยู่ตลอด และระหว่างทางที่เดินไปห้องของนายผู้เฒ่านั้น พ่อบ้านสกุลจินก็ได้แสดงฐานะของตนเองในบ้านให้ฉีเล่ยได้เห็น จนกระทั่งในที่สุดก็มาถึงห้องนอนของชายชรา
“นานผู้เฒ่าของพวกเรานอนหมดสติอยู่แบบนี้มานานกว่าอาทิตย์แล้วล่ะครับ ขนาดเราให้หมอชาวต่างชาติที่ว่าเก่งๆแล้วก็มีชื่อเสียงมาดู แต่ผลก็ไม่ดีขึ้นเลย”
และนี่นับเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมากที่สุดของซุนต้าเฉิง
นั่นเพราะหมอชาวต่างชาติคนนั้น ได้ใช้เครื่องมือตรวจที่มีคุณภาพสูงหลายชนิด มาทำการตรวจร่างกายของชายชรา และเครื่องมือเหล่านั้นก็ชี้บ่งอย่างชัดเจนว่า ร่างกายของชายชราแข็งแรงเป็นปกติดี เพียงแต่ว่า เขาไม่ยอมตื่นขึ้นมาเท่านั้นเอง
“แต่หลังจากพยายามด้วยแพทย์แผนตะวันตกไม่สำเร็จ พวกเราก็เลยหันมาลองรักษาด้วยแพทย์แผนจีนดู เราเชิญหมอจีนที่เก่งๆมีชื่อเสียงจากทั่วประเทศมามากกว่าสิบคน แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเหมือนกัน”
ระหว่างที่ซุนต้าเฉิงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉีเล่ยฟังนั้น น้ำเสียงของเขาฟังดูหมดหวังท้อแท้อย่างมาก!
ซุนต้าเฉิงติดตามรับใช้ผู้เฒ่าตระกูลจินมานานมาก เขาจึงมีความผูกพันค่อนข้างลึกซึ้งกับชายชราผู้นี้ และตระกูลจินของเขาเป็นอย่างมาก
หลังจากที่เล่าไปด้วยเดินไปด้วยนั้น ในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงห้องนอนของชายชรา ซึ่งหน้าห้องมีบุตรชายของผู้เฒ่าจินเฝ้าอยู่ และเมื่อเห็นซุนต้าเฉิงกับฉีเล่ยเดินเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นยืนทักทายทันที
นั่นประธานฉีนี่!
สีหน้าท่าทางของชายผู้นี้ออกจะถ่อมเนื้อถ่อมตัวเป็นอย่างมาก ทันทีที่พบฉีเล่ย เขาก็รีบลุกขึ้นทักทายพูดคุยด้วยความเคารพและให้เกียรติอย่างมาก ผิดกับลูกหลานจากตระกูลร่ำรวยอื่นๆที่ฉีเล่ยเคยพบเห็นมา ที่มักจะหยิ่งจองหองไม่เห็นหัวผู้อื่น
“ผมได้ยินได้ฟัง แล้วก็ได้เห็นความสามารถของประธานฉีมาแล้วครับ พ่อจะหายจากการป่วยครั้งนี้หรือไม่ ก็คงขึ้นอยู่กับท่านหมอแล้วล่ะครับ”
ชายสกุลจินเอ่ยบอกฉีเล่ยด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เป็นกังวล
แต่ถึงอย่างนั้น ฉีเล่ยก็ยังไม่กล้าที่จะแบกรับความรับผิดชอบอันหนักอึ้งนี้ไว้
เวลานี้ ร่างของชายชรายังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง รอบตัวยังคงมีทั้งเครื่องมือแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งที่เป็นชาวจีนและชาวต่างชาติคอยนั่งสังเกตอาการอยู่ไม่ห่าง
“อาการของคนไข้ในตอนนี้เป็นยังไงบ้างเหรอครับ?”
นอกเหนือจากเรื่องการผ่าตัดแล้ว การรักษาของแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนตะวันตกนั้น ก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกันมากนัก มีเพียงแค่ความแตกต่างบางประการในเรื่องของการรักษาเท่านั้น
แต่ดูเหมือน แพทย์แผนตะวันตกที่อยู่ตรงหน้าฉีเล่ยนี้ ออกจะแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อการมาของฉีเล่ยอย่างเห็นได้ชัด
“ทุกอย่างปกติดี ไม่มีอะไรรุนแรงเกินกว่าที่เราจะควบคุมไม่ได้!”
หนึ่งในนั้นตอบฉีเล่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างมาก
“ผมขอดูอาการคนไข้หน่อยนะครับ”
ฉีเล่ยไม่ใส่ใจกับสีหน้าท่าทางของกลุ่มแพทย์แผนตะวันตกเลยแม้แต่น้อย หลังจากพูดจบ เขาก็เดินตรงเข้าไปที่เตียงของชายชราทันที
แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งหมดก็ปฏิบัติกับฉีเล่ยราวกับว่าเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจ หนึ่งในนั้นถึงกับเอ่ยถามฉีเล่ยอย่างดูถูกดูแคลนว่า
“คุณแน่ใจนะว่าตัวเองมีความสามารถพอ?”
“หมอหูครับ ผมเป็นคนเชิญประธานฉีมาเองล่ะครับ นอกจากหมอฉีจะเป็นประธานสภาแพทย์แผนจีนแล้ว เขายังได้รับฉายาหมอเทวดาอีกด้วย นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทักษะการแพทย์ของประธานฉีต้องไม่ธรรมดา”
ซุนต้าเฉิงเอ่ยตอบแทนฉีเล่ยด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่ค่อยพอใจนัก
ในเมื่อพ่อบ้านสกุลจินเอ่ยปากตอบกลับมาด้วยตัวเองแบบนี้ หมอคนอื่นๆก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้มาก นอกจากต้องยอมถอยออกไปยืนข้างๆแทน
เปลือกตาทั้งสองข้างของชายชราปิดแน่น และไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน