ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 277

ตอนที่​277 ได้รับ​การ​เชื้อเชิญ​จาก​สกุล​จิน​

หลังจาก​ได้​ฟังคำพูด​ของ​ฉีเล่ย​ จงอี้​ห่า​ว​ก็​ถึงกับ​นิ่งอึ้ง​ไป​ไป​ทันที​ เขา​จ้องมอง​ฉีเล่ย​แน่นิ่ง​ ก่อน​จะพูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ตะกุกตะกัก​ว่า​

“ประธาน​ฉี นี่​คุณ​พูด​จริงๆ​เหรอ​ครับ​เนี่ย​?”

ฉีเล่ย​หัวเราะ​ร่วน​ ก่อน​จะยก​มือขึ้น​ตบ​ไหล่​จงอี้​ห่า​ว​เบา​ๆ พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ “นี่​เธอ​คิด​ว่า​ฉัน​พูดโกหก​รึ​ยังไง​?”

ความจริง​แล้ว​ ฉีเล่ย​เอง​ก็​มีแผนการ​ของ​ตัวเอง​ หลังจากที่​ได้รับ​รู้เรื่องราว​ความบาดหมาง​ระหว่าง​แพทย์​แผน​จีน​กับ​ชน​เผ่า​เหมี่ยว​แล้ว​ และ​ได้​เผชิญหน้า​กับ​ชาย​หญิง​ชาว​เหมี่ยว​คู่​นั้น​ ฉีเล่ย​ก็​เชื่อ​ว่า​ ลำพัง​ตัว​เขา​ใน​ตอนนี้​กับ​แพทย์​คนอื่นๆ​ใน​สภาแพทย์​แผน​จีน​แห่ง​นี้​ คง​ยาก​ที่จะ​รับมือ​ได้​แน่​หาก​ถูก​ชน​เผ่า​เหมี่ยว​รุกราน​

ฉะนั้น​แล้ว​ จึงได้เวลา​ที่​เขา​จะต้อง​พัฒนา​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ตนเอง​ให้​เพิ่มมากขึ้น​กว่า​นี้​

จงอี้​ห่า​ว​นับ​เป็น​คน​ที่​ดีมาก​คน​หนึ่ง​ อย่าง​น้อย​ก็​ใน​ความรู้สึก​ของ​ฉีเล่ย​เวลานี้​ นักศึกษา​หนุ่ม​คน​นี้​ไม่เพียง​มีทัศนคติ​ที่​ดี​ต่อ​การแพทย์​แผน​จีน​เท่านั้น​ แต่​ยัง​สามารถ​สอบ​เข้าเรียน​ใน​มหาวิทยาลัย​แพทย์​แผน​จีน​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ปักกิ่ง​ได้​ด้วย​คะแนน​ที่สูง​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​เลย​ทีเดียว​ และ​ผลการเรียน​ตลอด​หลาย​ปี​ก็​ยัง​จัด​อยู่​ใน​ขั้น​ที่​ดีมาก​อีกด้วย​

หาก​คน​แบบนี้​ค่อยๆ​ได้รับ​การพัฒนา​ไป​ทีละเล็กทีละน้อย​ ฉีเล่ย​เชื่อ​ว่า​ผลลัพธ์​ที่​ได้​คงจะ​ทำให้​เขา​รู้สึก​ประหลาดใจ​ไม่น้อย​ทีเดียว​

หลังจากที่​เห็น​ว่า​ตนเอง​ได้รับ​ความไว้วางใจ​มาก​พอ​จาก​ฉีเล่ย​ นักศึกษา​หนุ่ม​ก็​มีสีหน้าท่าทาง​ตื่นเต้น​ดีใจ​เป็น​อย่ง​มาก​ ท่าทาง​ของ​เขา​ดู​กระตือรือร้น​ขึ้น​อย่าง​มาก​ จงอี้​ห่า​ว​กำมือ​แน่น​พร้อมกับ​ร้อง​ตะโกน​บอก​ฉีเล่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ดัง​ฟังชัด​

“รับรอง​ว่า​ผม​จะไม่ทำให้​คุณ​ผิดหวัง​อย่าง​แน่นอน​ครับ​ประธาน​ฉี!”

หลังจากนั้น​ สมาชิก​คน​แรก​ของ​สภาแพทย์​แผน​จีน​ก็​เดิน​จากไป​ด้วย​สีหน้า​มุ่งมั่น​ และ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พลัง​

………

ในที่สุด​ สมาชิก​ของ​สภาแพทย์​แผน​จีน​รุ่น​แรก​ก็​ถือกำเนิด​ขึ้น​อย่าง​เป็นทางการ​

แม้ว่า​บางคน​จะยัง​ไม่คุ้นเคย​กับ​หน้าที่​ความรับผิดชอบ​ใน​ตำแหน่ง​ของ​ตนเอง​ แต่​หลังจาก​ผ่าน​ไป​ราว​หนึ่ง​สัปดาห์​ ฉีเล่ย​ก็​สามารถ​จัดการ​ทุกอย่าง​ได้​ค่อนข้าง​ลงตัว​

ทาง​ด้าน​จงอี้​ห่า​ว​นั้น​ก็​ขยันขันแข็ง​เป็นอย่างมาก​ เขา​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​ทั้งหมด​ให้​กับ​การ​เตรียม​สวนสมุนไพร​ ทุกวัน​หลังจาก​ไม่มีคลาส​เรียน​แล้ว​ เขา​ก็​จะมาหมก​ตัว​อยู่​ที่​สวนสมุนไพร​แห่ง​นี้​เพื่อ​จัดเตรียม​ความพร้อม​ของ​สวน​

และ​ภายใน​เวลา​เพียงแค่​หนึ่ง​สัปดาห์​ สวนสมุนไพร​ก็​ก่อตัว​ขึ้น​เป็นรูปเป็นร่าง​แล้ว​ ระบบ​พื้นฐาน​ต่างๆ​ที่​สวนสมุนไพร​จำเป็นต้อง​มี เขา​ก็​ตระเตรียม​ไว้​อย่าง​เสร็จสรรพ​แล้ว​ จะเหลือ​ก็​เพียงแค่​นำ​เมล็ด​สมุนไพร​ไป​ลง​เท่านั้นเอง​ และ​หาก​ทำตาม​คู่มือ​ที่​ฉีเล่ย​ได้​เขียน​ไว้​ให้​แล้ว​ล่ะ​ก็​ รับรอง​ว่า​ผลลัพธ์​ที่จะ​ได้​นั้น​ ย่อม​ต้อง​เป็นไป​ใน​ทาง​ที่​ดี​อย่าง​แน่นอน​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ทุกสิ่งทุกอย่าง​เริ่ม​เข้าร่องเข้ารอย​แล้ว​ ฉีเล่ย​ก็ได้​แต่​แอบ​ดีใจ​อยู่​เงียบๆ​

หลาย​วันนี้​ ห​ลี่​ถงซีที่​ยังคง​ทำ​ธุระ​อยู่​เจียง​ห​ลิง​นั้น​ ไม่เพียง​จะดู​มีความสุข​ดี​ แต่​ใบหน้า​ของ​เธอ​ยังมี​รอยยิ้ม​ปรากฏ​ให้​เห็น​อีกด้วย​ ใน​ระหว่าง​ที่​พูดคุย​กับ​ฉีเล่ย​ผ่าน​วีดีโอ​คอ​ล​ หลายครั้ง​ที่​เธอ​ยัง​เผลอ​แลบลิ้นปลิ้นตา​ล้อเล่น​กับ​ฉีเล่ย​อีกด้วย​

ทาง​ด้าน​หลิน​ชูว​โม่นั้น​ ความจริง​แล้ว​เธอ​ยัง​อยาก​ที่จะ​อยู่​ทำงาน​ที่​สภาแพทย์​แผน​จีน​แห่ง​นี้​ต่อ​ เพราะ​ยังมี​อีก​หลาย​เรื่อง​ที่​เธอ​จะต้อง​ช่วย​ฉีเล่ย​จัดการ​ และ​ที่​สำคัญ​ เธอ​อยาก​จะมีส่วน​ร่วมใน​การพัฒนา​สภาแพทย์​แผน​จีน​แห่ง​นี้​ให้​ก้าวหน้า​ยิ่ง​ๆขึ้น​ด้วยตัวเอง​

แต่​ถึงอย่างนั้น​ ก็​มีเหตุ​จำเป็น​ภายใน​บริษัท​ของ​เธอ​เอง​ ทำให้​เธอ​ไม่สามารถ​ที่จะ​อยู่​ทำหน้าที่​ต่อ​ได้​ และ​จำต้อง​กลับ​ไป​สะสางปัญหา​ภายใน​บริษัท​เสีย​ก่อน​

ส่วน​ฉีเล่ย​นั้น​ดูเหมือน​จะเป็น​คน​ที่​สบาย​อก​สบายใจ​ และ​มีความสุข​มาก​ที่สุด​

ทุกๆ​วัน​หลังจาก​เข้ามา​ดูแล​งาน​ต่างๆ​ภายใน​สภาแพทย์​แผน​จีน​แล้ว​ เขา​ก็​จะออก​ไป​สอน​ที่​มหาวิทยาลัย​ตามปกติ​ แม้ว่า​ชีวิต​ของ​เขา​จะดู​ค่อนข้าง​ยุ่ง​วุ่นวาย​มาก​ไป​เสียหน่อย​ แต่​เขา​ก็​สามารถ​ปรับตัว​ให้​เข้ากับ​การเปลี่ยนแปลง​ครั้งนี้​ได้​ และ​สามารถ​อยู่​กับ​มัน​ได้​อย่าง​มีความ​ผ่อนคลาย​

แต่​เรื่อง​ดี​ๆก็​ดูเหมือน​จะอยู่​กับ​เขา​ได้​ไม่นาน​ จู่ๆ ก็​มีสาย​โทร​เข้า​มาหา​ฉีเล่ย​ และ​เมื่อ​พบ​ว่า​เป็น​หมาย​เลขที่​เขา​ไม่รู้จัก​ ฉีเล่ย​ก็ได้​แต่​งุนงง​สงสัย​ แต่​ก็​กด​รับสาย​ และ​ยัง​ไม่ทัน​ที่​เขา​จะทัน​ได้​พูด​อะไร​ เสียง​จาก​ปลาย​สาย​ก็​ดัง​ขึ้น​เสีย​ก่อน​

“นั่น​ประธาน​ฉีใช่ไหม​ครับ​?”

น้ำเสียง​นั้น​ฟังดู​เคร่งเครียด​จริงจัง​เป็นอย่างมาก​

“ใช่ครับ​ ไม่ทราบ​ว่า​คุณ​คือ​…”

ยัง​ไม่ทัน​ที่​ฉีเล่ย​จะเอ่ย​ถามจบ​ประโยค​ เสียง​จาก​ปลาย​สาย​ก็ได้​ตอบ​กลับมา​ว่า​ เขา​โทร​มาจาก​เมือง​เจี้ยน​คัง​ ฉีเล่ย​ก็ได้​แต่​นึก​ประหลาดใจ​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ แต่​ยัง​ไม่ทัน​ไร​ อีก​ฝ่าย​ก็​รีบ​แนะนำตัว​ว่า​

“ผม​เป็น​พ่อบ้าน​ของ​ตระกูล​จิน​ครับ​!”

ตระกูล​จิน​งั้น​เหรอ​?

ตระกูล​จิน​ไม่ใช่ตระกูล​ธรรมดาๆ​เลย​นี่​!

ชื่อเสียง​ของ​ตระกูล​นี้​จัด​ว่า​อยู่​ใน​อันดับ​ต้น​ๆของ​ประเทศ​เลย​ก็​ว่า​ได้​ ว่าแต่​.. จู่ๆพ่อบ้าน​โทร​มาหา​แบบนี้​ คง​ต้อง​มีเรื่องสำคัญ​มาก​แน่ๆ​!

เมื่อ​คิดได้​แบบ​นั้น​ ฉีเล่ย​จึงได้​เอ่ย​ถามออก​ไป​ว่า​ “สวัสดี​ครับ​ ไม่ทราบ​ว่า​มีธุระ​อะไร​กับ​ผม​งั้น​เหรอ​ครับ​?”

“คือ​อย่างนี้​ครับ​ประธาน​ฉี นาย​ท่าน​ของ​พวกเรา​เป็น​อะไร​ก็​ไม่รู้​ ตอนนี้​พวกเรา​กังวลใจ​มาก​ พวกเรา​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​ประธาน​ฉีได้​ฉายา​ว่า​หมอ​เทวดา​ ก็​เลย​อยาก​จะขอ​เชิญคุณ​ไป​ตรวจดู​อาการ​ของ​นาย​ท่าน​ให้​หน่อย​จะได้​ไหม​ครับ​?”

พ่อบ้าน​ตระกูล​จิน​ยังคง​พูด​ต่อ​

“แต่​ไม่ต้อง​ห่วง​นะ​ครับ​ ไม่ว่า​จะรักษา​หาย​หรือไม่​หาย​ ทาง​เรา​ต้อง​มีค่าตอบแทน​ที่​ไม่น้อย​ให้​อย่าง​แน่นอน​ครับ​ ขอ​เพียงแค่​ประธาน​ฉียอม​มา ทาง​เรา​ยินดี​จ่าย​เงิน​ให้​สามล้าน​หยวน​เพื่อ​เป็น​ค่าเหนื่อย​ แล้วก็​ค่า​เสียเวลา​ แต่​ถ้าสามารถ​รักษา​นาย​ท่าน​ให้​หาย​ได้​ ทาง​เรา​ยินดี​โอน​เงิน​จำนวน​สิบ​ล้าน​เข้าบัญชี​ของ​ประธาน​ฉีทันที​”

ครั้งนี้​นับว่า​ของ​ล่อใจ​มีมูลค่า​ที่สูง​ไม่น้อย​ทีเดียว​!

ตระกูล​จิน​เป็น​ตระกูล​ที่​ร่ำรวย​มั่งคั่ง​ แม้ข้อเสนอ​ของ​เขา​จะทำให้​ฉีเล่ย​รู้สึก​แปลกใจ​อยู่​บ้าง​ แต่​หาก​เทียบ​กับ​ฐานะ​ของ​พวกเขา​แล้ว​ ก็​ฟังดู​สมเหตุสมผล​ไม่น้อย​

ใน​เมื่อ​ช่วงนี้​เขา​เอง​ก็​ไม่ได้​มีงาน​สำคัญ​อะไร​มากมาย​ สู้ออก​ไปหา​รายได้พิเศษ​จะไม่ดีกว่า​หรือ​?

“ตกลง​! ว่าแต่​จะให้​ผม​ไป​เมื่อไหร่​ครับ​?” ฉีเล่ย​เอ่ย​ถามออก​ไป​ทันที​

“พรุ่งนี้​ ทาง​เรา​จะจัดการ​เรื่อง​ตั๋ว​เครื่องบิน​ให้​ประธาน​ฉีเอง​!”

หลังจากนั้น​ พ่อบ้าน​ตระกูล​จิน​ก็ได้​วางสาย​ไป​

หลังจาก​วางสาย​ไป​ไม่ถึงครึ่ง​ชั่วโมง​ ก็​มีคน​มาหา​ฉีเล่ย​ที่​บ้าน​ หลังจากที่​ฉีเล่ย​เปิด​ประตูออก​ไป​ ก็​พบ​เด็กหนุ่ม​สวม​ชุด​สูท​และ​รองเท้าหนัง​คน​หนึ่ง​ยืน​รอ​อยู่​

“ไม่ทราบ​ว่า​คุณ​คือ​…”

“สวัสดี​ครับ​ พ่อบ้าน​สั่งให้​ผม​นำ​ของ​สิ่งนี้​มาส่งให้​กับ​คุณ​ครับ​ กรุณา​รับ​ไว้​ด้วย​ครับ​!”

หลังจาก​ถามไถ่จน​มั่นใจ​ว่า​เป็น​ฉีเล่ย​แล้ว​ เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​ก็​หยิบ​ซองจดหมาย​ที่อยู่​ใน​กระเป๋าเสื้อ​ออกมา​ยื่น​ให้​ หลังจากนั้น​ก็​หันหลัง​เดิน​จากไป​ทันที​

รวดเร็ว​ขนาด​นี้​ ดูท่า​สกุล​จิน​คงจะ​เตรียมการ​ทุกอย่าง​ไว้​ล่วงหน้า​แล้ว​สินะ​?

ฉีเล่ย​คิด​อยู่​ใน​ใจพร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ หลังจากที่​เปิด​ซองจดหมาย​ออก​ดู​แล้ว​พบ​ว่า​ ภายใน​นั้น​มีบัตร​เงินสด​ของ​ธนาคาร​แห่ง​หนึ่ง​ พร้อมกับ​ตั๋ว​เครื่องบิน​ ซึ่งระบุ​ไฟลท์​เดิน​ทางใน​วันพรุ่งนี้​เวลา​เที่ยงตรง​

ใน​การ​เดินทาง​ครั้งนี้​ ฉีเล่ย​ไม่ได้​จัดเตรียม​อะไร​ไป​มากมาย​ นอกจาก​เข็ม​เงิน​และ​ของจำเป็น​สำหรับ​การรักษา​ ก็​มีพวก​ของใช้​ประจำวัน​ แต่​ยังมี​อีก​หนึ่ง​สิ่งที่​เขา​พก​ติดตัว​ไป​ด้วย​ นั่น​ก็​คือ​ลูกแก้ว​สีม่วง​

……..

เช้าวันรุ่งขึ้น​ ฉีเล่ย​ก็​เรียก​รถแท็กซี่​ไป​ที่​สนามบิน​

พ่อบ้าน​สกุล​จิน​ได้​จองตั๋ว​เครื่องบิน​ชั้น​เฟริสท์​คลาส​ให้​กับ​เขา​ ทำ​ให้การ​เดินทาง​ครั้งนี้​ค่อนข้าง​สะดวกสบาย​อย่าง​มาก​ และ​ไม่นาน​นัก​เครื่องบิน​ก็ได้​มาถึงเมือง​เจี้ยน​คัง​

เจี้ยน​คัง​เป็น​เมืองหลวง​ของ​รัฐ​ และ​ระบบ​สาธารณูปโภค​ต่างๆ​ภายใน​เมือง​ ก็​ล้วนแล้วแต่​เป็น​เงินบริจาค​ของ​ตระกูล​จิน​ทั้งสิ้น​ จึงไม่แปลกที่​นับตั้งแต่​ฉีเล่ย​ก้าว​เท้า​ลง​มาจาก​เครื่องบิน​ เขา​จะได้​เห็น​หลาย​สิ่งหลายอย่าง​มีชื่อ​ของ​ตระกูล​จิน​ปรากฏ​อยู่​

“ประธาน​ฉีใช่ไหม​ครับ​?”

ยัง​ไม่ทันที​่ฉีเล่ย​จะได้​มองหา​ทางเดิน​ออกจาก​สนามบิน​ ก็​มีเด็กหนุ่ม​สอง​คน​มารอ​เขา​อยู่​ก่อนหน้า​แล้ว​ และ​เมื่อ​เขา​ปรากฏตัว​ขึ้น​ หนึ่ง​ใน​นั้น​ก็​รีบ​เดิน​เข้ามา​ถามทันที​

“ใช่ครับ​! คุณ​คงจะ​เป็น​คน​ของ​ตระกูล​จิน​สินะ​ครับ​?”

“ใช่ครับ​!”

หนึ่ง​ใน​นั้น​รีบ​ตอบ​ฉีเล่ย​กลับ​ไป​ทันที​ “พ่อบ้าน​ส่งพวกเรา​สอง​คน​มารอ​รับ​ประธาน​ฉีครับ​ เชิญครับ​!”

ทั้งคู่​พา​ฉีเล่ย​เดิน​ออกมา​ทาง​ประตู​วีไอพี​ จากนั้น​ จึงได้​เดิน​นำ​เขา​ไป​ขึ้นรถ​หรู​ที่​จอด​รอ​ไว้​ และ​มุ่งหน้า​สู่คฤหาสน์​ตระกูล​จิน​ทันที​

“เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​เจ้านาย​ของ​พวก​เธอ​งั้น​เหรอ​?”

ตอนที่​พ่อบ้าน​ตระกูล​จิน​โทร​มาหา​ฉีเล่ย​นั้น​ ไม่ได้​อธิบาย​รายละเอียด​ให้​เขา​ฟังมาก​นัก​ มิหนำซ้ำ​ยัง​ไม่เปิดโอกาส​ให้​เขา​ได้​ถามอะไร​ด้วย​ หลังจาก​พูด​จบ​ เขา​ก็​กด​วางสาย​ไป​ทันที​ ฉีเล่ย​จึงได้​แต่​เดินทาง​มาเจี้ยน​คัง​ด้วย​ความ​งุนงง​สงสัย​

“ผม​ต้อง​ขอโทษ​ประธาน​ฉีด้วย​จริงๆ​นะ​ครับ​ พวกเรา​สอง​คน​เป็น​แค่​คนรับใช้​ ไม่รู้เรื่อง​ของ​นาย​ผู้เฒ่า​จริงๆ​ครับ​ ตั้งแต่​เกิดเรื่อง​ พวกเรา​ต่าง​ก็​ไม่ได้รับอนุญาต​ให้​เข้าไป​ใน​บ้าน​ และ​ไม่ให้​ออก​นอก​คฤหาสน์​ด้วย​ นี่​ถ้าไม่ใช่เพราะ​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​พ่อบ้าน​ให้​มารับ​ประธาน​ฉีที่​สนามบิน​ พวกเรา​ก็​คง​ไม่ได้​ออกจาก​คฤหาสน์​หรอก​ครับ​”

เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​อธิบาย​ให้​ฉีเล่ย​ฟังต่อ​ ด้วย​สีหน้าที่​ไม่รู้​ว่า​จะหัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ “แต่​รู้สึก​ว่า​น่าจะ​เป็นเรื่อง​ร้ายแรง​ พวกเรา​เอง​ก็​ไม่กล้า​ถามพ่อบ้าน​ แต่​ที่ผ่านมา​ มีหมอ​เก่ง​ๆเข้า​ออกมา​แล้ว​หลาย​คน​ แต่​จนถึง​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไม่เห็น​ว่า​สถานการณ์​ภายในบ้าน​จะมีอะไร​ดีขึ้น​เลย​ครับ​”

ฉีเล่ย​ไม่ได้​ถามอะไร​ต่อ​ เพราะ​ดูเหมือนว่า​ทั้งคู่​เอง​ก็​จะระมัดระวัง​คำพูด​อย่าง​มาก​

กระทั่ง​ผ่าน​ไป​ราว​ชั่วโมง​กว่า​ๆ ในที่สุด​ รถ​หรู​ก็​แล่น​เข้าไป​จอด​ภายใน​คฤหาสน์​ตระกูล​จิน​

ทันทีที่​ฉีเล่ย​ก้าว​เท้า​ลง​มาจาก​รถ​ บอดี้การ์ด​สอง​คน​ก็​เดิน​เข้า​มาหา​ พร้อมกับ​เอ่ย​ถามด้วย​ท่าทาง​สุภาพ​นอบน้อม​

“สวัสดี​ครับ​ประธาน​ฉี ขออนุญาต​ค้นตัว​ด้วย​ครับ​ พวกเรา​ได้รับ​คำสั่ง​ให้​ตรวจค้น​ร่างกาย​ของ​ทุกคน​ที่จะ​เข้าไป​ภายในบ้าน​ครับ​ กรุณา​ให้ความร่วมมือ​ด้วย​ครับ​!”

ฉีเล่ย​เข้า​ใจดี​ว่า​ทั้งคู่​เพียงแค่​ต้อง​ทำ​ตามหน้าที่​ เขา​จึงไม่ได้​ตำหนิ​อะไร​ และ​ให้ความร่วมมือ​ด้วยความยินดี​ และ​เมื่อ​เข้าไป​ภายในบ้าน​ ชาย​วัยกลางคน​ผู้​หนึ่ง​ก็​รีบ​เดิน​เข้ามา​ทักทาย​เขา​อย่าง​กระตือรือร้น​

“สวัสดี​ครับ​ประธาน​ฉี ผม​ชื่อ​ซุน​ต้าเฉิง​ เป็น​พ่อบ้าน​ของ​ที่นี่​ครับ​!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน