ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 286

ตอนที่​286 เสียหน้า​

แม้จะไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ด้านนอก​ แต่​ฉีเล่ย​ก็​ตระหนัก​ได้​ว่า​ เวลา​ของ​เขา​น่าจะ​เหลือ​อีก​ไม่มาก​แล้ว​

แต่​นับว่า​โชคดี​ที่​ตอนนี้​เขา​ได้​พบ​ร่องรอย​ของ​พลัง​ลึกลับ​นั่น​แล้ว​ เขา​จึงได้​พยายาม​ควบคุม​พลัง​หยิน​ และ​หยาง​ค้นหา​พลัง​ลึกลับ​ใน​ร่าง​ของ​ชาย​ชรา​ต่อไป​

และ​ในที่สุด​นั้น​เอง​ ฉีเล่ย​ก็ได้​พบ​พลัง​บางอย่าง​เข้า​จนได้​!

และ​มัน​ก็​คือ​พลัง​สีดำ​นั่น​เเอง!

ใน​วินาที​ที่​พลัง​สีดำ​พบเห็น​พลัง​หยิน​และ​หยาง​เข้า​นั้น​ ฉีเล่ย​สามารถ​สัมผัส​ได้​ถึงความเปลี่ยนแปลง​ของ​พลัง​ลึกลับ​นั่น​ว่า​ มัน​มีความรู้สึก​หวาดกลัว​ และ​ต้องการ​ที่จะ​หลบหนี​

อาจ​เป็น​เพราะว่า​ พลัง​ลึกลับ​นั่น​รู้สึก​สบาย​ และ​ปลอดภัย​ที่​ได้​แฝงตัว​อยู่​ใน​ร่าง​ของ​ชาย​ชรา​มาเป็นเวลา​นาน​ และ​คง​คิดไม่ถึง​ว่า​ จู่ๆ จะมีอันตราย​คืบคลาน​เข้าใกล้​อย่าง​กะทันหัน​เช่นนี้​

แต่​ฉีเล่ย​ก็​ไม่ได้​มีความเห็นอกเห็นใจ​พลัง​ลึกลับ​นั่น​เลย​แม้แต่น้อย​ เพราะ​มัน​คือ​ต้นเหตุ​ที่​ทำให้​ชาย​ชรา​ต้อง​มานอน​หมดสติ​อยู่​บน​เตียง​เช่นนี้​มานาน​หลาย​วัน​ เขา​จึงไม่รีรอ​ และ​รีบ​สั่งให้​พลัง​หยิน​และ​หยาง​ตรง​เข้า​กลืน​กิน​พลัง​ลึกลับ​นี้​เข้าไป​ทันที​

คง​ต้อง​พูดว่า​สมแล้ว​ที่​พลัง​หยิน​และ​พลัง​หยาง​นั้น​ เป็น​พลัง​ก่อ​ร่าง​ทุก​สรรพสิ่ง​บน​โลก​ใบ​นี้​ เพราะ​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​พลัง​อื่นๆ​ที่​ไม่ว่า​จะดู​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ มัน​กลับ​กลายเป็น​แค่​เรื่อง​เล็กน้อย​ไป​ทันที​

หลังจาก​ผ่าน​ไป​ชั่วครู่​ ในที่สุด​พลัง​หยิน​และ​พลัง​หยาง​ก็​สามารถ​กำจัด​พลัง​สีดำ​ลึกลับ​นั่น​ได้​!

เมื่อ​จัดการ​กับ​ทุกอย่าง​เสร็จสิ้น​ลง​แล้ว​ จิตใจ​ของ​ฉีเล่ย​จึงค่อยๆ​สงบ​ลง​ และ​ความกล้าหาญ​ที่​ทำให้​เขา​ยืนหยัด​ได้​อยู่​ก่อนหน้านี้​ ก็ได้​พังทลาย​ลง​ในทันที​

แต่​นับว่า​โชคดี​ที่​พลัง​หยิน​และ​หยาง​นั้น​ ถูก​ดึง​กลับ​เข้า​ร่าง​ของ​ฉีเล่ย​ได้​ทันเวลา​ และ​ตัว​เขา​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​ ร่างกาย​ของ​ตนเอง​ใน​ตอนนี้​ ดูเหมือน​จะแข็งแกร่ง​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ แต่บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​คิด​ไป​เอง​ก็​เป็นได้​

ฉีเล่ย​ไม่อยาก​คิด​เรื่อง​อื่น​มาก​ในเวลานี้​ เขา​ค่อยๆ​ก้มหน้า​ลง​จ้องมอง​ชาย​ชรา​ ที่​ค่อยๆ​ลืมตา​ขึ้น​อย่าง​ช้าๆด้วย​ใบ​หน้าที่​เปื้อน​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​

“อาวุโส​ ในที่สุด​ก็​ตื่น​ซะที​นะ​ครับ​!”

หลังจาก​ผ่าน​ไป​ราว​สัปดาห์​กว่า​ๆ ในที่สุด​ชาย​ชรา​ที่นอน​หลับไหล​มานาน​หลาย​วัน​ ก็​เปิด​เปลือกตา​ขึ้น​มา และ​กำลัง​จ้องมอง​ฉีเล่ย​ด้วย​แววตา​ซาบซึ้งใจ​

“พ่อ​หนุ่ม​ นี่​เธอ​ช่วยชีวิต​ของ​ฉัน​ไว้​ใช่ไหม​?”

เป็น​เพราะว่า​ชาย​ชรา​นอนหลับ​ไป​นาน​ เมื่อ​ตื่นขึ้น​มาร่างกาย​จึงค่อนข้าง​อ่อนแอ​อย่าง​ที่สุด​ น้ำเสียง​ของ​เขา​จึงได้​เบา​กว่า​ปกติ​มาก​

ฉีเล่ย​หัวเราะ​เบา​ๆ พร้อมกับ​ค่อยๆ​ย่อ​ตัว​ลง​ข้าง​เตียง​ เขา​สงบ​จิตใจ​ตัวเอง​ครู่หนึ่ง​ แล้วจึง​เอ่ยปาก​พูด​กับ​ชาย​ชรา​ไป​ว่า​

“นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ผม​สมควร​ต้อง​ทำ​ครับ​ ไม่ทราบ​ว่า​อาวุโส​ต้องการ​ให้​ผม​เรียก​คน​ข้างนอก​เข้ามา​เลย​ไหม​ครับ​? ทุกคน​เป็นห่วง​ความปลอดภัย​ของ​อาวุโส​มาก​เลย​ทีเดียว​”

ความจริง​แล้ว​ ตอนนี้​ฉีเล่ย​อยาก​จะถามผู้เฒ่า​จิน​ว่า​ ก่อน​เกิด​เหตุการณ์​ครั้งนี้​ เขา​ไป​พบ​ใคร​มาก่อน​บ้าง​?

นั่น​เพราะ​สิ่งที่เกิด​กับ​ชาย​ชรา​ใน​ตอนนี้​ ทำให้​เขา​นึกถึง​เหตุการณ์​ของ​ซือ​ไถที่อยู่​เจียง​ห​ลิง​ เพราะ​มัน​มีลักษณะ​ที่​คล้ายคลึง​กัน​อย่าง​มาก​

แต่​เมื่อ​เห็น​สภาพ​จิตใจ​ของ​ชาย​ชรา​ใน​ตอนนี้​ ฉีเล่ย​จึงได้​แต่​อดกลั้น​ความอยากรู้​นั้น​ไว้​ก่อน​

“อืมม​ๆ”

ชาย​ชรา​ทำ​เสียง​รับ​รู้อยู่​ใน​ลำคอ​พร้อมกับ​ยิ้ม​ให้​ฉีเล่ย​

แม้ว่า​ชาย​ชรา​จะเพิ่ง​ลืมตา​ขึ้น​มาครั้งแรก​หลังจาก​หมดสติ​ไป​นาน​ แต่​ใน​แววตา​ของ​เขา​กลับ​เป็นประกาย​วิบวับ​ปรากฏ​ให้​เห็น​

ฉีเล่ย​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ก่อน​จะลุกขึ้น​เดิน​ออก​ไป​จาก​ห้อง​ เพื่อที่จะ​เรียก​ให้​คน​ข้างนอก​เข้ามา​ แต่​เมื่อ​ไป​ถึงประตู​ เขา​กลับ​รู้สึก​สะดุดใจ​คล้าย​ว่า​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​

ใน​ตอนนี้​ ชาย​ชรา​ดู​แก่​กว่า​ความเป็นจริง​ไป​หลาย​ปี​ ราวกับว่า​ถูก​ดูด​ชีวิต​ออก​ไป​!

อย่างไรก็ตาม​ นี่​เป็น​เพียงแค่​ความคิด​คาดเดา​ของ​เขา​เท่านั้น​ ถึงอย่างไร​เสีย​ การ​ที่​ชาย​ชรา​ตื่นขึ้น​มา ย่อม​ต้อง​ดีกว่า​นอน​หลับไหล​อยู่​แบบ​นั้น​แน่​ เมื่อ​คิดได้​แบบ​นั้น​ ฉีเล่ย​จึงได้​เปิด​ประตู​ห้อง​ออก​ทันที​

ทุก​สายตา​จับจ้อง​มาทาง​ฉีเล่ย​แน่นิ่ง​ และ​ทุกคน​ต่าง​ก็​กำลัง​รอ​ฟังคำพูด​ของ​เขา​อย่าง​ใจจดใจจ่อ​ ส่วน​อารมณ์​ความรู้สึก​ของ​แต่ละ​คนใน​ตอนนี้​นั้น​ คงจะ​มีตัวเอง​เท่านั้น​ที่​รู้​ดีกว่า​ใครๆ​

“ผู้เฒ่า​จิน​ฟื้น​แล้ว​!”

ฉีเล่ย​ไม่พูด​อะไร​ยืดยาว​ เขา​พูด​เพียงแค่​สั้น​ๆแต่​ตรงประเด็น​

ซุน​ต้าเฉิง​ถึงกับ​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ และ​เหตุผล​ที่​เขา​ยอม​ใช้ความน่าเชื่อถือ​ของ​ตนเอง​ ที่​ได้​จาก​การทำงาน​อย่าง​ซื่อสัตย์​ให้​กับ​ตระกูล​จิน​มาหลาย​ปี​ ออกหน้า​ปกป้อง​ฉีเล่ย​นั้น​ก็เพราะว่า​ เขา​ชื่อ​มั่น​ใน​ตัว​ฉีเล่ย​อย่างยิ่ง​นั่นเอง​

และ​ทันทีที่​ได้ยิน​คำพูด​จาก​ปาก​ของ​ฉีเล่ย​ ซุน​ต้าเฉิง​ก็​รู้สึก​ราวกับ​ได้​ยกภูเขาออกจากอก​ ส่วน​จูกวง​หลง​ก็ได้​เดิน​เข้า​ไปหา​ฉีเล่ย​ พร้อมกับ​ยก​มือขึ้น​ตบ​ไหล่เขา​ด้วย​ความตื่นเต้น​ดีใจ​ ปาก​ก็​เอ่ย​ชมออก​ไป​ไม่หยุด​

“ยอดเยี่ยม​! ยอดเยี่ยม​มาก​! เธอ​ไม่ทำให้​ฉัน​ผิดหวัง​เลย​จริงๆ​!”

ตรงกันข้าม​ ทั้ง​ด็อกเตอร์​สมิธ ซือฉี​ และ​แพทย์​แผน​ตะวันตก​คนอื่นๆ​ กลับ​มีสีหน้าที่​ไม่สู้ดี​นัก​ พวกเขา​ได้​ขน​เอา​เครื่องไม้เครื่องมือ​ทางการแพทย์​ที่​ทันสมัย​มาอย่าง​ครบครัน​ มิหนำซ้ำ​ยัง​มาถึงก่อน​ทีม​แพทย์​แผน​จีน​หลาย​วัน​ด้วย​ แต่​ผลงาน​ที่​ทำ​ออกมา​ กลับ​ไม่ดี​เท่า​ผลงาน​ของ​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​เพิ่ง​มาถึงได้​เพียงแค่​สอง​สามวัน​

ซือฉี​จ้องมอง​ฉีเล่ย​ด้วย​ความ​เดือดดาล​ ก่อน​จะพูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ดูถูก​เหยียดหยาม​ “ก็​ไม่เลว​เลย​นี่​ ดูเหมือน​โชค​จะเข้าข้าง​ซะมากกว่า​!”

เวลานี้​ ฉีเล่ย​รู้สึก​เหนื่อยล้า​จน​ไม่เหลือ​เรี่ยวแรง​ที่จะ​ไป​ต่อล้อต่อเถียง​กับ​ใคร​ได้​อีก​ เขา​จึงรีบ​พยักหน้า​ส่งสัญญาณให้​ทุกคน​รีบ​เข้าไป​ใน​ห้อง​ เพื่อ​ที่​เขา​จะได้​กลับ​ไป​พักผ่อน​บ้าง​หลังจากนี้​

นั่น​เพราะ​ก่อนหน้านี้​ ฉีเล่ย​ได้​ใช้พลังงาน​ไป​อย่าง​มาก​ หาก​การรักษา​ดำเนิน​ไป​อย่าง​เป็นปกติ​ เขา​ก็​คงจะ​ไม่รู้สึก​เหนื่อยล้า​แบบนี้​ แต่​เพราะ​ต้อง​เร่งรีบ​แข่งกับเวลา​ เขา​จึงต้อง​เพิ่ม​ความพยายาม​ให้​มากขึ้น​จาก​เดิม​ และ​มัน​ก็​เกิน​กว่า​ที่​ร่างกาย​ของ​เขา​จะรับได้​ไหว​อีก​

……….

เมื่อ​ฉีเล่ย​กลับ​ไป​ถึงห้องพัก​ เขา​ก็​ล้ม​ตัว​ลง​บน​เตียง​ และ​หลับ​ไป​ในทันที​

ข่าวคราว​เรื่อง​ที่​ผู้เฒ่า​จิน​ฟื้น​ขึ้น​มาแล้ว​นั้น​ ได้​แพร่​ไป​เข้าหู​ของ​สมาชิก​ตระกูล​จิน​ทุกคน​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​เวลานี้​ ทุกคน​ต่าง​ก็​ทั้ง​รู้สึก​ดีใจ​และ​ประหลาดใจ​ปะปนกัน​

ที่ผ่านมา​ สมาชิก​คน​ตระกูล​จิน​ทุกคน​ต่าง​ก็​เข้าใจ​ และ​รับรู้​ได้​ถึงอันตราย​ที่จะ​เกิด​กับ​ผู้นำ​ตระกูล​ดี​ แต่​ตอนนี้​ เมื่อ​ผู้นำ​ตระกูล​ของ​พวกเขา​ได้​กลับมา​ยืนหยัด​อีกครั้ง​ พวกเขา​จะไม่รู้สึก​ยินดี​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​

ทาง​ด้าน​ซือฉี​ผู้อำนวยการ​โรงพยาบาล​กลาง​ประจำเมือง​ห​ยาน​โจว​นั้น​ หลังจากที่​ฉีเล่ย​เป็น​ฝ่าย​รักษา​ผู้เฒ่า​จิน​ได้​ ทำให้​เขา​ต้อง​ชวด​เงิน​รางวัล​สามล้าน​หยวน​ ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ เขา​จึงไม่จำเป็น​ที่จะ​ต้อง​อยู่​ที่นี่​ต่อ​ และ​รีบ​เก็บ​ข้าวของ​กลับ​ออก​ไป​จาก​คฤหาสน์​ตระกูล​จิน​ในทันที​

สำหรับ​เรื่อง​ชวด​เงิน​สามล้าน​หยวน​นั้น​ยัง​ไม่นับ​เป็น​เรื่องใหญ่​ แต่​เรื่อง​เสียหน้า​นั้น​ เป็นเรื่อง​ที่​เขา​ไม่อาจ​ทน​ได้​จริงๆ​!

ส่วน​ด็อกเตอร์​สมิธผู้​หยิ่ง​จองหอง​เอง​ ก็​รู้สึก​อับอาย​ราวกับ​ถูก​อีก​ฝ่าย​ตบหน้า​กลาง​สาธารณชน​ เพราะ​กระทั่ง​ได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​อาวุโส​ตระกูล​จิน​หลาย​คน​ และ​อยู่​ใน​ตระกูล​จิน​มานาน​กว่า​หนึ่ง​อาทิตย์​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​ทำ​ผลงาน​ปรากฏ​ให้​เห็น​ได้​เลย​

แต่​แน่นอน​ว่า​ เรื่องราว​ทั้งหมด​ที่​เกิดขึ้น​หลังจากนั้น​ ฉีเล่ย​ไม่ได้​รู้เรื่อง​อะไร​เลย​ เพราะ​หลังจากที่​เขา​กลับ​เข้าไป​ใน​ห้องพัก​ของ​ตัวเอง​แล้ว​ ก็​นอน​หลับไหล​ไป​ตลอด​ทั้งวันทั้งคืน​

ครั้งนี้​ นับว่า​เขา​ใช้พลัง​หยิน​และ​หยาง​ใน​ร่าง​ไป​อย่าง​เกินกำลัง​มาก​ และ​ได้​แต่​คิด​ว่า​ หลังจากนี้​หาก​เขา​ยัง​ไม่สามารถ​ควบคุม​พลัง​หยิน​และ​หยาง​ได้​ดีกว่า​นี้​ คงจะ​ไม่กล้า​ใช้มัน​อย่าง​เกินกำลัง​เช่นนี้​อีก​แน่​

แต่​ถึงอย่างนั้น​ หลังจาก​สามารถ​รักษา​ผู้เฒ่า​จิน​ให้​หาย​ได้​ ฉีเล่ย​ก็​มั่นใจ​ว่า​ เส้น​ทางการแพทย์​ของ​เขา​ใน​วันข้างหน้า​จะเป็น​อย่างไร​?

สภาแพทย์​แผน​จีน​จะยังคง​เป็นกำลัง​หลัก​ที่​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​เช่น​เดิม​ แต่​ตอนนี้​ มีพลัง​หยิน​และ​พลัง​หยาง​มาเพิ่ม​ จะช่วย​ให้​เขา​สามารถ​วินิจฉัยโรค​ได้​แม่นยำ​มากขึ้น​ และ​สามารถ​รักษา​ได้​ถูกจุด​มากขึ้น​

ฉีเล่ย​รู้สึก​ว่า​ ใน​ระยะเวลา​สิบ​ปี​ เขา​จะมีโอกาส​กลายเป็น​ ‘หมอ​เทวดา​’ ได้​อย่าง​แท้จริง​!

แต่​ทั้งหมด​นี้​เป็น​เพียง​ความคิด​ของ​ฉีเล่ย​ที่​เกิดขึ้น​ก่อน​หน้าที่​เขา​จะหลับ​ไป​ และ​ตอนนี้​เขา​ก็​ยังคง​นอน​หลับไหล​อยู่​ภายใน​ห้องพัก​ กระทั่ง​ซุน​ต้าเฉิง​นำ​อาหาร​มาให้​ที่​ห้อง​ เขา​ก็​ไม่ยอม​เปิด​ประตู​ออกมา​

“เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ประธาน​ฉีกัน​แน่​นะ​?”

ซุน​ต้าเฉิง​ได้​แต่​ยืน​พึมพำ​อยู่​หน้า​ห้อง​ด้วย​ความเป็นห่วง​

เวลานี้​ เขา​มีความสุข​อย่าง​มาก​ เพราะ​การ​ที่​ทีม​แพทย์​แผน​ตะวันตก​ทั้งหมด​ ต้อง​เก็บ​กระเป๋า​กลับ​ไป​อย่าง​เสียหน้า​แบบนี้​ ทำให้​เขา​รู้สึก​พ​ใจอย่าง​มาก​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​การพิสูจน์​ว่า​สิ่งที่​เขา​คิด​นั้น​ถูกต้อง​!

จูกวง​หลง​เห็น​สีหน้า​ของ​พ่อบ้าน​ซุน​เข้า​ ก็ได้​แต่​หัวเราะ​ออกมา​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​

“นี่​พ่อบ้าน​ซุน​ คุณ​ไม่เห็น​สีหน้าท่าทาง​ของ​ฉีเล่ย​ตอน​ออก​มาจาก​ห้อง​ผู้เฒ่า​จิน​หรอก​เหรอ​? เขา​ดู​เหนื่อยล้า​อย่าง​มาก​ ปล่อย​ให้​เขา​นอนหลับ​พักผ่อน​ดีกว่า​ พรุ่งนี้​ก็​คงจะ​ตื่น​เอง​ล่ะ​!”

……..

ฉีเล่ย​นอน​หลับไหล​ไป​เป็นเวลา​นาน​ และ​เมื่อ​ตื่นขึ้น​มา ก็​ไม่รู้​ว่า​กี่​โมงกี่​ยาม​เข้าไป​แล้ว​

เขา​เอื้อมมือ​ไป​เปิด​ผ้าม่าน​ออก​ดู​ และ​พบ​ว่า​ข้างนอก​ยังคง​เป็นเวลา​กลางคืน​ เขา​ยก​มือขึ้น​ลูบ​ท้อง​ตนเอง​เบา​ๆ เพราะ​เริ่ม​รู้สึก​หิว​ จึงได้​ลุกขึ้น​จาก​เตียง​ และ​เตรียม​ที่จะ​ออก​ไปหา​อะไร​กิน​รองท้อง​

ฉีเล่ย​เป็น​คน​ไม่ยุ่งยาก​เรื่อง​อาหารการกิน​ อาจ​เป็น​เพราะ​เขา​คุ้นเคย​กับ​ชีวิต​ที่​เคย​ลำบากยากเย็น​ใน​อดีต​มา จึงกลายเป็น​คน​กิน​ง่าย​ แต่​เมื่อ​ฉีเล่ย​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องอาหาร​ กลับ​พบ​ว่า​ไม่มีอะไร​เหลือ​ทิ้ง​ไว้​ให้​เขา​พอ​จะใส่ท้อง​ได้​เลย​

หลังจากที่​อาการ​ของ​ผู้เฒ่า​จิน​ดีขึ้น​ ระบบ​การรักษา​ความปลอดภัย​ภายใน​คฤหาสน์​ตระกูล​จิน​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​ไป​มาก​ ซึ่งนับว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ไม่น้อย​ เพราะ​ไม่ต้อง​มีบอดี้การ์ด​คอย​ตรวจ​ตาม​จุด​ต่างๆ​เหมือน​เมื่อก่อน​ และ​เขา​เอง​ก็​สามารถ​เดิน​ไป​ไหน​ต่อ​ไหน​ภายในบ้าน​ได้​อย่าง​สะดวกสบาย​ รวมถึง​ออก​ไป​ข้างนอก​ด้วย​

ฉีเล่ย​จึงได้​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก​เพื่อ​หา​ร้านอาหาร​ใกล้​ๆ

เมือง​เจี้ยน​คัง​นับ​เป็น​เมือง​เก่าแก่​จึงยังคง​กลิ่นอาย​ของ​ความ​โบราณ​ไว้​ และ​เมื่อ​ฉีเล่ย​เดิน​เข้าไป​ใกล้​กับ​กำแพงเมือง​โบราณ​ เขา​ก็​สัมผัส​ได้​ถึงแรง​กระเพื่อม​ไหว​ที่​เกิดขึ้น​ภายใน​ร่างกาย​

แม้ก่อนหน้านี้​ฉีเล่ย​จะใช้พลัง​หยิน​และ​หยาง​ใน​ร่าง​ไป​อย่าง​เกินกำลัง​ แต่​เขา​ก็​ยัง​สัมผัส​ได้​ถึงการ​มีอยู่​ของ​มัน​ เพียงแต่​อาจจะ​ต้อง​ใช้เวลา​ใน​การฟื้นฟู​เท่านั้น​ และ​ฉีเล่ย​ก็​ค่อนข้าง​มั่นใจ​ว่า​ หลัง​การรักษา​ผู้เฒ่า​จิน​ใน​ครั้งนี้​ เขา​จะสามารถ​เข้าใจ​ และ​ควบคุม​พลัง​หยิน​และ​หยาง​ใน​ร่างกาย​ได้​ดีขึ้น​

“อืมม​ ก็​ไม่ได้​ยากเย็น​อะไร​นัก​!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน