ตอนที่ 328 ไร้คุณสมบัติที่จะเป็นทายาทตระกูลหลู่
ฉีเล่ยจ้องมองซานเทียนเหมาด้วยความตกใจ หลังจากได้ยินคำพูดของฮวาโหล่ว คนอื่นๆเองก็ตกใจไม่น้อยเช่นกันเมื่อได้
ฉีเล่ยจ้องมองฝ่ามือแดงก่ำที่ประทับอยู่บนใบหน้าของฮวาโหล่วด้วยความรู้สึกเจ็บปวดใจ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาซานเทียนเหมาพร้อมกับร้องคำรามใส่
“ไปตายซะ!”
ฉีเล่ยโคจรพลังหยินและหยางมาไว้ที่ฝ่ามือของตนเอง ก่อนจะซัดเข้าใส่ร่างของซานเทียนเหมาในทันที
ซานเทียนเหมาสังเกตเห็นฝ่ามือของฉีเล่ยมีแสงสว่างจางๆปรากฏออกมา ก่อนจะถูกซัดเข้าใส่ร่างจนล้มลงกระแทกกับพื้น และเพิ่งค้นพบว่าตนเองหมดเรี่ยวแรงไปในทันที
“อย่าเสียเวลาต่อสู้กับฉันจะดีกว่า ในสายตาของฉัน คนอย่างแกก็ไม่ต่างจะเศษขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น!”
ฉีเล่ยร้องบอกพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
บูม!
สิ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ฉีเล่ยก็สามารถจัดการกับซานเทียนเหมาได้อย่างง่ายดายไม่ต่างจากมดตัวหนึ่ง
หลังจากฝุ่นที่คลุ้งตลบไปทั่วทั้งบริเวณ เสื้อผ้าของซานเทียนเหมาเวลานี้ได้ขาดวิ่น จนไม่สามารถบอกได้ว่า ก่อนหน้านี้มีสภาพเช่นใด?
“นี่.. แก.. แกเป็นตัวอะไรกันแน่?”
ซานเทียนเหมาร้องถามออกมาด้วยสีหน้าสะพรึงกลัว
ฉีเล่ยจ้องมองซานเทียนเหมาพร้อมกับหัวเราะร่วน “ฮ่าๆๆ คราวนี้จะบอกได้รึยังว่า คนที่สั่งการแกเป็นใคร? เพราะคนกระจอกอย่างแกไม่มีทางคิดทำเรื่องนี้เองแน่ๆ”
เลือดสีแดงค่อยๆไหลออกจากมุมปากของซานเทียนเหมา เขาจ้องมองฉีเล่ยด้วยแววตาเคียดแค้น พร้อมกับร้องถามออกไปว่า
“นี่แกคิดว่าแกชนะฉันแล้วจริงๆน่ะเหรอ?”
“แล้วแกคิดว่ายังไงล่ะ?”
ฉีเล่ยตอบกลับพร้อมจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะพูดข่มขู่ต่อในทันที
“ก็ถ้าแกไม่ยอมปริปาก ฉันก็มีวิธีอีกมากมายที่จะทำให้แกปริปากจนได้ รับรองว่าถึงขนาดที่แกจะต้องร้องขอความตายแทนเลยล่ะ!”
ฉีเล่ยหยิบเอาเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่ม ก่อนจะค่อยๆใช้ปลายเข็มหมุนวนอยู่บนศรีษะของซานเทียนเหมา พร้อมกับบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงดุดัน และเย็นยะเยือกจนน่าขนหัวลุก
“แกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่า ถ้าฉันปักเข็มลงไปบริเวณนี้ มันจะเป็นยังไง?”
“แกประเมินฉันผิดไปมาก!” ซานเทียนเหมาร้องคำรามออกมา
ฉีเล่ยไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายความเช่นใด แต่เมื่อซานเทียนเหมาพูดจบ ทั้งตัวเขาและลูกน้องอีกสองสามคน ต่างก็มีเลือดสีแดงไหลออกมาจากปากในทันที เพียงแค่เสี้ยววินาที ทั้งหมดก็ล้มลงไปกองกับพื้น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
หลายคนในที่นั้นต่างก็ร้องถามออกมาด้วยสีหน้างุนงงไม่เข้าใจ
แพทย์อาวุโสผู้ที่แนะนำวิธีถอนพิษด้วยดอกอวิ๋นชูมาถึงพอดี จึงรีบเร่งไปตรวจดูอาการของซานเทียนเหมาและลูกน้อง แต่แล้วก็ถึงกับส่ายหน้าไปมาพร้อมกับหันไปบอกฉีเล่ยว่า
“ไม่ทันแล้วล่ะ พวกเขาตายกันหมดแล้ว ในปากยังมีเศษของพิษกระเรียนแดงอยู่ด้วย…”
นี่นับเป็นเรื่องอุกอาจไม่น้อย ที่สุดท้ายแล้ว พวกมันยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
ผู้เฒ่าวังมังกรเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมกับร้องบอกทุกคนว่า
“เอาล่ะ มาเริ่มทำปรุงยาถอนพิษจะดีกว่า ขืนปล่อยเวลาให้ล่าช้า ทุกคนในที่นี้จะตายกันหมด”
เวลานี้ เรื่องสำคัญที่สุดไม่ใช่การสืบหาคนที่อยู่เบื้องหลัง แต่เป็นการปรุงยาถอนพิษในขั้นตอนสุดท้ายต่างหาก
กระทั่งแสงแดดเจิดจ้าปรากฏ เวลาล่วงเลยไป ในที่สุดยาถอนพิษก็ถูกปรุงขึ้นสำเร็จ ฉีเล่ยจัดการบรรจุขวด และแบ่งให้กับทุกๆคน
เพื่อให้ทุกคนสบายใจ หลังจากการผลิตเสร็จสิ้น คนเฒ่าคนแก่กินมันก่อน ไม่กี่นาทีต่อมา ร่างกายของเขาเริ่มค่อยๆ กลายเป็นหมอก และกลุ่มควันก็เริ่มลอยออกมาจากร่างของผู้เฒ่าผู้เฒ่า ค่อยๆ ปกคลุมใบหน้าของเขา
และเพื่อให้ทุกคนมั่นใจในประสิทธิภาพของยาถอนพิษ แพทย์อาวุโสท่านนั้นจึงได้กินยาถอนพิษที่ปรุงเสร็จให้ทุกคนดูต่อหน้า ผ่านไปเพียงแค่สองสามนาที ร่างของเขาก็เริ่มมีกลุ่มควันปรากฏออกมา จากนั้น ใบหน้าก็เริ่มเปลี่ยนกลับมาเป็นสีแดงอีกครั้ง และดูเหมือนว่า พิษในร่างของเขาค่อยๆเจือจางทีละเล็กทีละน้อย ก่อนจะมลายหายไปจนไม่มีเหลือ
เมื่อเห็นเช่นนี้ คนอื่นๆจึงเริ่มมั่นใจ และรีบกินยาถอนพิษเข้าไปในทันที
“เอาล่ะทุกท่าน หลังจากกินยาถอนพิษไปแล้ว ขอให้กลับไปพักผ่อนให้ร่างกายฟื้นตัว หลังจากนี้สองสามวัน การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้ง”
ผู้เฒ่าวังมังกรร้องตะโกนบอกทุกคนด้วยจิตใจที่สงบลงมากกว่าเดิม ทุกคนพยักหน้า ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปที่ห้องพักของตนเอง พวกเขายังคงไม่ลืมจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้
แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงของใครบางคนร้องตะโกนออกมา
“เดี๋ยวก่อน!”
ปรากฏว่าเป็นเสียงหลู่เซินที่เพิ่งกินยาแก้พิษเข้าไป แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นชั่วร้ายขึ้นในทันที พร้อมกับหัวเราะร่วน ก่อนจะร้องตะโกนบอกทุกคนว่า
“พวกแกคิดว่ายังจะมีโอกาสกลับไปพักฟื้นอีกงั้นเหรอ?”
ฉีเล่ยรับรู้ได้ถึงสถานการณ์เลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงรีบมองหาลู่ทางที่จะส่งฮวาโหล่วออกไปจากที่นี่ก่อน แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไปแล้ว เพราะเวลานี้ มีคนนับร้อยเข้ามาล้อมประตูทางออกไว้ ในมือของพวกเขาต่างก็ถืออาวุธไว้
“ฮ่าๆๆ ต้องขอบคุณซานเทียนเหมา ถ้าไม่มีเขา คนของฉันคงจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้ง่ายๆ”
หลู่เซินร้องตะโกนบอก เวลานี้คนของเขาก็ได้ล้อมห้องโถงใหญ่นี้ไว้จนหมดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน