ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 48

ตอนที่ 48 หญิงสาวเข้ายั่วยวน

หลังจากที่ผู้โดยสารบนเครื่อง ได้เห็นฉีเล่ยใช้ทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำลึกช่วยชีวิตของหญิงสาวไว้ได้ อีกทั้งยังมีไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยม สามารถไล่ต้อนคนชั่วช้าไร้ยางอายจนมุมได้ เรียกได้ว่า สามารถช่วยชีวิตหญิงสาว และทำให้เธอรอดพ้นจากการถูกลวนลามได้อย่างทันท่วงทีด้วย

ในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหมดก็จบลงด้วยดี สิ้นสุดภาพฉากอันน่าระทึกตื่นเต้นแล้ว ผู้โดยสารต่างก็อดที่จะปรบมือ และยกย่องสรรเสริญหลินหนานไม่ได้

เสียงปรบมือ และเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ ได้ดังเข้าไปในหูของนายแพทย์หนุ่ม สิ่งเหล่านี้ไม่ต่างอะไรจากฝ่ามือที่กระหน่ำตบลงบนใบหน้าของเขา จนฟันแทบหลุดร่วง นายแพทย์หนุ่มอับอายจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองผู้คน เขาได้แต่เดินกุมเป้ากางเกงด้วยสีหน้าเจ็บปวด และค่อยๆ เดินตัวลีบกลับไปยังที่นั่งของตนเอง สง่าราศีที่เคยมีพลันอันตรธานหายไปจนหมด

ลูกเตะที่หนักหน่วงของฉีเล่ยเมื่อครู่นี้ มันเป็นเสียงหน้าแข้งกระทบเข้ากับลูกอัณฑะอย่างชัดเจน! นายแพทย์หนุ่มยามนี้ถึงกับต้องกระเดือกน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ สายตาจ้องมองเรียวขางดงามของฉีเล่ย ด้วยความรู้สึกสะพรึงกลัว ถึงขั้นเหงื่อแตกพลั่กเลยทีเดียว

‘เฮ้อ! บรรพชนสกุลเฉินช่วยฉันไว้อีกครั้งแล้วสินะ! โชคดีที่ยายเด็กตัวแสบนี่ไม่เป็นอะไร..’

หลังจากที่ฉีเล่ยทำการฝังเข็มเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงได้ฟื้นคืนสติขึ้นมา แต่เพราะก่อนหน้านี้เธอต้องพยายามดิ้นรนต่อสู้กับความตาย จึงทำให้ร่างกายของเธออ่อนเพลียมาก กระทั่งจะลืมตามองดูเหตุการณ์ก็ยังแทบไม่ไหว

แต่หูของเธอนั้น สามารถได้ยินคำสนทนาระหว่างฉีเล่ย กับนายแพทย์หนุ่มอย่างชัดเจน ทำให้หญิงสาวนึกขึ้นมาได้ว่า เขาคนนั้นคอยแอบมองเธออยู่ตลอดเวลา ทำให้ทัศนคติของหญิงสาวที่มีต่อชายคนนั้น กลับดูเลวร้ายมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้อีกครั้ง หญิงสาวก็รีบยื่นมือข้างหนึ่งออกไป พร้อมกับกล่าวขอบคุณฉีเล่ย และแนะนำตัวเองทันที

“ขอบคุณนะคะที่ช่วยชีวิตของฉันไว้! ฉันขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ฉันชื่อว่าชูซินซู่ค่ะ”

เวลานี้ ทัศนคติของหญิงสาวที่มีต่อฉีเล่ยนั้น ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ไว้วางใจหญิงสาวคนนี้อยู่ดี แม้เรียวแขนของหญิงสาวจะนวลเนียนดุจหยกขาว แต่ฉีเล่ยก็รู้สึกว่า เขาไม่ควรจับมือหญิงสาวตอบกลับไป

แต่เมื่อคิดอีกทีว่า หากเขาไม่ยื่นมือออกไปจับ ก็คงจะเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก ฉีเล่ยจึงได้แต่จำใจจับมือของหญิงสาวเขย่าเบาๆ พร้อมกับแนะนำตัวยิ้มๆ

“ผม ฉีเหล่ยครับ!”

เพี๊ยะ!

แต่จู่ๆ ชูซินซู่ก็ตวัดฝ่ามือของตนเองตบหน้าของฉีเล่ยเข้าไปอย่างแรงหนึ่งฉาด เธอกัดฟันแน่นก่อนจะตวาดใส่หน้าชายหนุ่ม

“ไร้ยางอายที่สุด! ก่อนหน้านี้คุณพูดว่า หมอนั่นพยายามจะฉวยโอกาสนี้ลวนลามฉัน แต่ตอนนี้คุณกลับทำซะเอง!”

‘ยายเด็กบ้านี่เป็นอะไร?’

คราวนี้ฉีเล่ยถึงกับทำหน้าไม่ถูก และกำลังสับสนว่า ยายเด็กคนนี้กำลังพูดว่าอะไรกันแน่?

‘ลวนลามงั้นเหรอ? ฉันนี่นะลวนลาม? ก็เธอเป็นคนยื่นมือให้ฉันจับเองไม่ใช่หรือไง?’

แต่แล้วจู่ๆ สีหน้าท่าทางเกรี้ยวกราดเมื่อครู่ ก็พลันเปลี่ยนเป็นเขินเอยไปในทันที พร้อมพูดกับฉีเล่ยด้วยน้ำเสียงที่หวานหยดเย้ย ต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ

“แต่ช่างเถอะ! นี่ถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงจะไม่ยอม แต่เป็นคุณลวนลาม ฉันจะลองเก็บไปคิดดูก็แล้วกัน!”

‘บ้าไปแล้ว!’

ฉีเล่ยอยากจะสบถออกมาดังๆ แล้วอยากจะวิ่งไปที่ห้องนักบิน จี้เครื่องบินให้ลงจอดทันที เพราะสัญชาติญาณของเขานั้นเตือนว่า หญิงสาวคนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดในสามโลก!

แม้เวลานี้ ทั้งคู่จะรู้จักกันในฐานะของแพทย์กับคนไข้ และฉีเล่ยก็รู้สึกเจ็บปวดใจอยู่ลึกๆ ที่ต้องมาพบพานคนแบบนี้ แต่ชูซินซู่กลับมีท่าทางสดชื่นแจ่มใส

เวลานี้ หญิงสาวได้นั่งเท้าคางพร้อมกับจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจ และเริ่มรู้สึกว่า ชายหนุ่มที่ชื่อฉีเล่ยนี้ก็หน้าตาหล่อเหลาไม่เบาทีเดียว และสิ่งที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดของเขาก็คือ แม้จะยังหนุ่มแน่น แต่กลับดูสุขุม เคร่งขรึม และสายตากว้างไกลราวกับชายสูงอายุที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน

เธอเองก็เคยพบเจอชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบถึงสี่สิบปีมาแล้วเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับฉีเล่ย ผู้ชายในวัยกลางคนเหล่านั้น กลับดูเป็นเด็กอารมณ์แปรปรวนไม่มั่นคง มิหนำซ้ำบางคนยังเอาแต่ใจเหมือนเด็ก ซึ่งแตกต่างจากฉีเล่ยที่ดูสุขุมเยือกเย็น แต่ก็มีหลากหลายอารมณ์สอดแทรก ล้ำลึก และดูมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างมากมาย

ภายใต้สายตาหวานหยดย้อย ที่สะท้อนความเร่าร้อนอยู่เบื้องลึกของชูซินซู่ ฉีเล่ยจ้องมองจมูกที่สวยได้รูป และริมฝีปากอวบอิ่มเย้ายวนของหญิงสาวแล้ว เขาถึงกับต้องสวดมนต์ และนึกถึงธรรมะ เพื่อช่วยผ่อนคลายจิตใจที่รุ่มร้อนของตนเองให้สงบลง

แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะใบหน้าของหญิงสาวยังคงแนบชิดไม่ขยับไปไหน จนเวลานี้ ปลายจมูกของเธอ แทบจะแนบติดกับปลายจมูกของเขาแล้ว

ฉีเล่ยได้แต่พร่ำบ่นอยู่ในใจเพื่อเตือนตัวเองว่า ‘ฉันมีภรรยาอยู่แล้ว ออกมาข้างนอกแบบนี้ ต้องไม่ทำเรื่องไม่ควรให้ภรรยาต้องผิดหวังเสียใจเด็ดขาด!’

แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สายตาเย้ายวน บวกกับท่าทางบิดไปมาอย่างเก้อเขินของหญิงสาวนั้น ทำให้เธอดูมีเสน่ห์ขึ้นมากทีเดียว แต่ในระหว่างที่ฉีเล่ยกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็เห็นฝ่ามือของหญิงสาวเคลื่อนลงไปปลดกระดุมเสื้อออก

‘พุทโธ ธัมโม สังโฆ..’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน