ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 56

ตอนที่56 แค่บางครั้ง

“อ่อถงซี วันนี้ที่บ้านไม่ทำอาหารเย็นนะ”

“ไหนๆฉีเล่ยก็เพิ่งมาปักกิ่งครั้งแรก คงจะยังไม่เคยกินเป็ดย่างของภัตตาคารฉวนจูเต๋อแน่ หลานลองพาฉีเล่ยไปกินเป็ดย่างที่นั่นสิ เผื่อว่าเขาจะติดใจ อ่อ เผือกทอดที่นั่นก็ทั้งกรอบทั้งหอมอย่าบอกใครเชียว! ตกดึกแถวๆนั้นก็จะมีถนนคนเดินซานหลี่ถุน ใครมาปักกิ่งก็ต้องไปเดินเล่นที่นั่นให้ได้สักครั้ง ไม่อย่างนั้นคงจะต้องเสียดายแย่”

“เอ… แต่ถ้าดึกมาก ปู่แนะนำว่าให้หาโรงแรมแถวนั้นพักสักคืนก็ได้ แล้วพรุ่งนี้สายๆค่อยกลับบ้านกัน หนุ่มสาวกลับบ้านดึกๆดื่นๆ อันตรายจะตายไปจริงไหม?”

เจตนาของผู้เฒ่าหลี่ชัดเจนแจ่มแจ้งเหลือเกิน!

เขาต้องการให้หลานสาวกับฉีเล่ยได้เดินเที่ยวด้วยกันจนดึก ยิ่งไปเปิดห้องที่โรงแรมพักค้างคืนด้วยกันได้ก็ยิ่งดี ดูเหมือนเขาจะพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ชายหนุ่มและหญิงสาวร่วมรักกันให้ได้สินะ

หลี่ฮั่วเฉินเองก็คิดเช่นนั้นจริงๆ หากแผนการครั้งนี้ของเขาสำเร็จได้ด้วยดี เขาคงจะไม่ต้องมานั่งกังวลใจ และคอยเป็นห่วงชีวิตของหลานสาวอีกต่อไป

ฉีเล่ยอดรนทนต่อไปไม่ได้ ที่ต้องมาทนฟังอะไรแบบนี้ จึงได้หันไปพูดกับหลี่ฉั่วเฉินเป็นนัยว่า

“อาวุโสหลี่ คุณน่าจะทราบดีนะว่า การทำให้คู่สามีภรรยาผิดใจกันนั้นเป็นบาปกรรม แต่สิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่นี่ มันถึงขั้นทำลายชีวิตคู่ได้เลยนะครับ?”

“อืม เรื่องนั้นฉันรู้”

ชายชราตอบยิ้มๆ

สีหน้าของฉีเล่ยพลันเปลี่ยนเป็นหม่นหมองเล็กน้อย ก่อนจะถามกลับไปว่า

“ทั้งๆที่รู้ ก็ยังจะทำแบบนี้อีกเหรอครับ?”

แต่แล้วจู่ๆ หลีฉั่วเฉินกลับพูดถึงเรื่องราวในอดีตของตนเองออกมา เขาเอื้อมมือไปตบไหล่ฉีเล่ยเบาๆสองสามครั้ง พร้อมกับพูดขึ้นว่า

“พ่อหนุ่ม วันข้างหน้าเธอจะต้องเติบโตก้าวหน้าอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึงเชียวล่ะ! ในฐานะที่ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อน ฉันกล้ายืนยันว่า ผู้ชายที่มีทั้งลาภยศสรรเสริญ และอำนาจอิทธิพล อย่างไรก็ไม่สามารถต้านทานเสน่ห์เย้ายวนของหญิงงามได้ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ฉันก็อดคิดถึงตัวเองในวัยนั้นไม่ได้…”

“ฉันอิ่มแล้ว! ไปกันเถอะ!”

หลี่ถงซีกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะเสียงดังปัง พร้อมกับลุกขึ้นยืน และหันไปบอกฉีเล่ยโดยไม่แม้แต่จะสนใจฟังคำพูดปู่เธอเลยสักนิด

“แต่ผมยังกินไม่อิ่มเลยนะ”

ฉีเล่ยเปรยขึ้นเสียงเบา ในขณะที่มือกำลังคีบตับทอดจากชามกับข้าวขึ้นมา น้ำมันเยิ้มกำลังน่ากินเลยทีเดียว แต่ความจริงแล้ว สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตับทอดจานนี้ แต่เป็นเรื่องเล่าของหลี่ฮั่วเฉินเมื่อยังเป็นเสือหนุ่มต่างหาก

แต่ดูเหมือนหลี่ถงซีจะไม่ต้องการฟังเรื่องที่ชายชราจะเล่า เธอผลักเก้าอี้ออกเสียงดังเอี๊ยด พร้อมกับสวนกลับฉีเล่ยทันที

“ถ้ายังไม่อิ่ม ก็รีบๆกินเข้าไปไม่ต้องพูดมาก จะได้รีบๆไป!”

ทันทีที่พูดจบ หลี่ถงซีก็เดินกระแทกกระทั้นขึ้นไปชั้นสองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า หลี่ฮั่วเฉินได้แต่ยิ้มกว้าง พร้อมกับยกมือขึ้นตบไหล่ฉีเล่ยอีกครั้ง และพูดขึ้นว่า

“ฉีเล่ย เธอยังหนุ่มยังแน่น ไม่ใช่แค่ตั้งใจทำงาน แต่ต้องรู้จักพาตัวเองไปผ่อนคลายซะบ้าง อนาคตของเธอช่างดูสดใสจริงๆ ในสมัยที่ฉันหนุ่มๆ ยังไม่สดใสเท่าเธอเลย”

“….”

ฉีเลยทำตัวได้แต่ทำหูทวนลมต่อคำแนะนำพวกนี้ แล้วรีบคีบตับทอดยัดเข้าปากอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ้ยข้าวในชามตามเข้าไป หลังจากนั้นจึงรีบหยิบกระดาษเช็ดปาก แล้วลุกเดินออกจากโต๊ะอาหารทันที

หลี่ฮั่วเฉินเฝ้ามองตามติดอีกฝ่ายไม่ห่าง เขารู้สึกว่า ยิ่งได้รู้จักชายหนุ่มคนนี้ ก็ยิ่งรู้สึกพอใจในตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ

ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าเขาจะแนะนำผู้ชายที่ดีเลิศแค่ไหนให้กับหลี่ถงซี หลานสาวของเขาก็จะปฏิเสธเสมอ และไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำไป นับประสาอะไรที่ยอมออกไปเดินช้อปปิ้งด้วยแบบนี้! แค่จะให้ได้คุยกันก็ยังนับเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญมาก

แต่วันนี้ หลานสาวของเขากลับอาสาออกไปเดินซื้อเสื้อผ้ากับฉีเล่ยตามลำพังสองต่อสอง สถานการณ์ที่พัฒนาก้าวหน้ามาถึงจุดนี้แล้ว ยังไม่ชัดเจนพออีกอย่างนั้นหรือ?

หลี่ฮั่วเฉินมั่นใจอย่างยิ่งว่า หลานสาวของตนกำลังสนใจในตัวฉีเล่ยอยู่ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

ความจริงแล้ว ใช่ว่าหลี่ฮั่วเฉินจะต้องการให้หลานสาวของเขา ทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายที่แต่งงานแล้ว เพราะนี่อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้ แต่จะให้ทำอย่างไรเล่า ในเมื่อหลานสาวของเขาสนใจในตัวชายหนุ่ม?

แม้หลี่ฮั่วเฉินจะตระหนักแก่ใจดีว่า เรื่องแบบนี้มันไม่ถูกต้อง แต่เขาก็เพียงแค่หวังว่า การที่หลี่ถงซีได้อยู่กับฉีเล่ยคงจะดีกว่ามาก หากเทียบกับให้หญิงสาวต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังไปจนวันตายโดยไร้คนดูแล

อีกอย่าง ตราบใดชายหนุ่มยังคงมุ่งมั่นที่จะอยู่ปักกิ่ง เพื่อพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ บางทีความสัมพันธ์ระหว่างฉีเล่ยกับภรรยา อาจจะค่อยๆห่างเหินกัน เมื่อถึงเวลานั้น คนที่อยู่ใกล้ชิดกับเขาตลอดเวลาอย่างหลี่ถงซี ย่อมได้เปรียบกว่ามาก

แม้ว่าจะดูเป็นการเห็นแก่ตัวและไร้ยางอายเพียงใด แต่หลี่ถงซีก็เป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของเขา ฉะนั้นแล้ว หลี่ฮั่วเฉินยอมที่จะเป็นคนชั่วในสายตาทุกคน เพื่อความสุขของหลานสาวตนเองในวันข้างหน้า

หลังจากฉีเล่ยขึ้นไปแต่งตัวลงมาด้านล่างแล้ว ยังไม่ทันที่เขาจะได้ปิดประตูบ้านสนิทด้วยซ้ำ เสียงแตรรถก็ดังขึ้นจากด้านหน้า หลี่ถงซีขับBMW 735เข้ามาเทียบข้างฉีเล่ยอย่างช้าๆ

“ขึ้นรถเร็วเข้า”

หญิงสาวลดกระจกรถลง พร้อมกับร้องตะโกนเรียกฉีเล่ย

ฉีเล่ยเปิดประตูรถด้านที่นั่งข้างคนขับ และรีบเข้าไปนั่งข้างในทันที จึงได้พบว่าวันนี้หญิงสาวอยู่ในชุดกระโปรงสั้นสีขาว แต่กลับสวมเพียงแค่รองเท้าแตะคู่หนึ่งเท่านั้น

ฉีเล่ยเหลือบมองและเห็นว่า ใกล้ๆมีรองเท้าส้นสูงวางอยู่หนึ่งคู่ ที่แท้เป็นเพราะหญิงสาวถอดรองเท้าส้นสูงออก เพื่อความสะดวกในการขับขี่นั่นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน