ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 65

ตอนที่65 คำนับเป็นอาจารย์

หลังดื่มกินจนอิ่มหนำสำราญเสร็จสิ้น ฉีเล่ยกับชูเฟิงอี้ก็ไปนั่งคุยกันต่อในห้องนั่งเล่นอีกสักพัก จึงค่อยลุกขึ้นแยกย้ายเตรียมตัวกลับ

ไม่ว่าชูเฟิงอี้จะพยายามรั้งเขาไว้เท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายจึงต้องหันไปสั่งคนขับรถให้ไปส่งฉีเล่ยที่บ้าน แต่มีหรือที่ฉีเล่ยจะปล่อยชูซินฮังไปง่ายๆ? เขาจึงได้เสนอให้ชูซินฮังขับรถไปส่งตนเองแทน

ชูเฟิงอี้ที่อยู่ร่วมโต๊ะอาหารก่อนหน้า ก็ได้เห็นหลานชายของตนทำหน้าที่รินชาเติมเหล้าให้ตลอดมื้ออาหาร ในขณะที่ฉีเล่ยซึ่งเป็นแขกก็ใจดีคีบเนื้อสัตว์ให้เขา ชูเฟิงอี้จึงคิดว่า ฉีเล่ยคงอยากทำความรู้จักกับอีกฝ่ายให้มากขึ้น

เมื่อคิดได้เช่นนั้น จึงเอ่ยปากเรียกพ่อบ้านฟาง ให้ไปบอกชูซินฮังที่เก็บตัวอยู่ในห้องขับรถไปส่งฉีเล่ยแทน

แต่เมื่อเห็นหน้าฉีเล่ยเข้า ชูซินฮังก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาใส่ทันที

“ฉันขอบอกนายเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าพี่สาวของฉันกลับมาเมื่อไหร่ ฉันจะให้เธอเล่นงานนายซะ!”

ฉีเล่ยตอบกลับเพียงแค่สั้นๆ

“อย่าลืมสิครับ ผมเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้ มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องเล่นงานผมด้วย?”

เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของฉีเล่ย ชูซินฮังก็แสยะยิ้มเหยียด พร้อมกับพูดดูถูกว่า

“นายนี่มันโง่จริงๆ โง่โดยสมบูรณ์! ก่อนหน้านี้นายบอกว่าแต่งงานแล้วใช่ไหม? ฉันรู้สึกเศร้าแทนผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ที่ต้องมาทนใช้ชีวิตกับคนไม่ได้เรื่องแบบนี้!”

“ไม่สิ…ฉันไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ! ตรรกะของเธอคงจะเพี้ยนไปหมดแล้ว!”

“แล้วนี่นายรู้อะไรไหมว่า ไอ้สิ่งที่นายพูดกับคุณปู่ไปเมื่อครู่ มันเป็นการทำลายศักดิ์ศรีของพี่สาวฉันมากขนาดไหน?”

พี่สาว?

ศักดิ์ศรี?

ระหว่างทางที่ชูซินฮังขับรถหรูเคอนิกเส็กก์สีเงินมาถึงหน้าบ้านสกุลหลี่นั้น ฉีเล่ยก็เอาแต่ปิดปากเงียบ นั่งเปิดเพลงฟังโดยไม่สนใจกับคำพูดของชูซินฮังเลยแม้แต่น้อย

นี่มันชีวิตของฉัน จะแต่งงาน หรือยังไม่แต่ง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครต้องมาแส่?

พอฉันปฏิเสธข้อเสนอของอาวุโสชูไป ก็หาว่าทำให้ศักดิ์ศรีของชูซินซูต้องมัวหมอง แต่ถ้าฉันตอบตกลง นั่นก็เท่ากับเป็นการทำรายจิตใจภรรยาของฉันเหมือนกัน จริงไหม?

สุดท้ายก็แค่เด็กหนุ่มร่ำรวยที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่งเท่านั้น..

………..

เมื่อกลับมาถึงบ้านของหลี่ฮั่วเฉิน ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปด้านใน ฉีเล่ยก็ได้เห็นอาวุโสหลี่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟา

“ไม่สบายตรงไหนรึเปล่าครับ?”

ฉีเล่ยที่ยืนเฝ้าสังเกตอยู่พักหนึ่งก็เอ่ยถามเสียงดังขึ้น

หลังจากเฝ้าสังเกตดูอยู่พักหนึ่ง ฉีเล่ยที่ยืนอยู่จึงร้องถามออกไปเสียงดัง

“อ๊ะ!”

ดูเหมือนชายชรากำลังคิดอะไรอยู่ในใจจริงๆ เสียงร้องตะโกนของฉีเล่ยจึงได้ปลุกเขาให้หลุดจากภวังค์ ชายชราถึงกับสะดุ้งโหยงขึ้นทันทีด้วยความตกใจ

เมื่อเหลียวมองกลับไปเห็นว่าเป็นฉีเล่ย หลี่ฮั่วเฉินถึงกับยกมือขึ้นทาบอกด้วยความโล่งใจ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมาทันที ก่อนจะรีบลุกขึ้นไปจับไม้จับมืออีกฝ่าย พร้อมกับร้องบอกไปว่า

“เธอกลับมาสักที!”

“ครับ… เอ่อ.. มีเรื่องอะไรค่อยๆ เล่าก็ได้ครับ ใจเย็นๆก่อน…”

ฉีเล่ยถึงกับสนไปชั่วขณะ เมื่อได้เห็นท่าทางความกระตือรือร้นของชายชรา ที่จู่ๆก็วิ่งเข้ามากุมมือเขาแน่นขนาดนี้

อย่าบอกนะว่า หมดหวังที่จะคะยั้นคะยอให้ฉันแต่งงานกับหลานสาวแล้ว ก็เลยจะหันมาเป็นฝ่ายจีบฉันซะเอง?

หลี่ฮั่วเฉินดูเหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัวว่า การกระทำของตนเองออกจะเกินเลยมากไปหน่อย จึงรีบปล่อยมือฉีเล่ยทันที แล้วรีบผายมือเชื้อเชิญชายหนุ่มให้ไปนั่งคุยกันที่โซฟา

“นั่งลงก่อน นั่งลง ฉันเรื่องอยากจะคุยกับเธอหน่อย!”

ฉีเล่ยเดินตามชายชราไปทันที พร้อมกับนั่งลงบนโซฟาข้างๆเขาด้วยสีหน้างุนงง ยังไม่ทันที่เขาจะได้ปริปากพูดอะไรออกมา ชายชราก็เปิดฉากพูดขึ้นก่อนทันที

“ฉีเล่ย ฉันตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า จะขอคำนับเธอเป็นอาจารย์!”

“….”

ฉีเล่ยสวนกลับไปด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกทันที

“ผมง่วงแล้ว ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ”

หลี่ฮั่วเฉินรีบลุกขึ้นเดินตามไปด้วยสีหน้าท่าทางร้อนใจ

“เดี๋ยวก่อน! ฉันยังพูดไม่จบ อย่าเพิ่งไป!”

ฉีเล่ยหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปบอกชายชราว่า

“อาวุโสหลี่ อย่าล้อเล่นแบบนี้สิครับ! คุณเป็นถึงแพทย์ระดับแนวหน้าของวงการแพทย์ จู่ๆ จะมาขอคำนับเด็กหนุ่มอย่างผมเป็นอาจารย์ได้ยังไง?”

“แล้วทำไมจะไม่ได้?”

หลี่ฮั่วเฉินตอบโต้กลับทันที

“ผู้มีความสามารถถือเป็นอาจารย์ แล้วทักษะทางการแพทย์ที่เธอแสดงออกมาให้เห็น มันก็มากเพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่า ตัวเธอมีคุณสมบัติสำหรับการเป็นอาจารย์ของฉันได้”

“อีกอย่าง ฉันเองก็ชำนาญด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่เรื่องการแพทย์แผนจีน หากเทียบกับเธอ ฉันมันก็แค่เด็กประถมเท่านั้น!”

ฉีเล่ยส่ายหน้าไปมาด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ เขาแทบจะคาดเดาความคิดของชายชราคนนี้ไม่ได้เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน