ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 83

ตอนที่83 ถ้าฉลาดพอคงตัดสินใจเองได้

หูจือยิ้มขื่นและเอ่ยถามขึ้นว่า

“พ่อครับ แล้วไอ้คนสกุลฉีนั่นมันอยู่ไหน?”

“พ่อขังมันไว้ในห้องสอบสวน”

หูหวงยกแก้วขึ้นมาจิบชาเล็กน้อย

หูจือกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก่อนวิ่งไปหยิบกระบองที่แขวนอยู่บนกำแพงด้านหลังโต๊ะทำงานพ่อ จากนั้นก็หันไปพูดกับพวกวัยรุ่นที่มาด้วยกันว่า

“พวกเราไปกันเถอะ ต้องสั่งสอนบทเรียนให้มันสักหน่อย!”

“ไปเลยลูกพี่!”

กลุ่มวัยรุ่นตอบสนองทันที แหกปากโวยวายปลุกใจเสียงดังลั่น อาศัยเส้นสายที่พ่อของหูจือเป็นผู้กำกับใหญ่ของสถานีตำรวจแห่งนี้ พวกเขายังต้องกลัวอะไรอีก? ต่อให้รุมทำร้ายฉีเล่ยจนตายคาห้องสอบสวน ยังมีข้ออ้างอีกร้อยแปดเพื่อให้พ้นผิดได้

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

หูหวงโกรธจัดยกมือทุบโต๊ะเสียงดังปัง

หูจือที่กำลังเดินถือกระบองออกจากประตูไปถึงกับชะงักเพราะเสียงร้องตะโกนของผู้เป็นพ่อ เขาหันขวับกล่าวด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจว่า

“พ่อ! พ่อรู้ไหมว่าไอ้บัดซบนั่นมันทำร้ายพวกเราขนาดไหน! ถ้าครั้งนี้ผมไม่ได้กระทืบมัน คงต้องอกแตกตายแน่!”

เมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเองยังไม่สำนึก แถมยังไม่ทราบถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ในตอนนี้เลยสักนิด หูหวงแทบอยากจะหยิบปีนมาเล็งหัวลูกตัวเองให้เรื่องมันจบๆไป

“ไอ้ลูกเวร เรื่องมันเลยเถิดมาขนาดนี้แล้ว แกยังมีหน้าจะไปกระทืบอีกฝ่ายงั้นเหรอ? แกเคยรู้ไหมว่า ฉีเล่ยเป็นใครมาจากไหน? แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังเขาอีกทีมันใหญ่ขนาดไหน! ไอ้ลูกคนนี้ชอบสร้างปัญหาให้ฉันปวดหัวอยู่ตลอด!”

หลังจากโดนพ่อด่าชุดใหญ่ หูจือก็ดูสำรวมขึ้นมาในทันที ยืนคอตกกล่าวร้องขึ้นว่า

“แต่…แต่พ่อครับ แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดี? จะปล่อยให้มันทำร้ายผมฟรีๆแบบนี้น่ะเหรอ?”

หูหวงทุบโต๊ะอีกครากล่าวว่า

“แกช่วยทำตัวให้ฉลาดกว่านี้หน่อยได้ไหม? ถ้าแกไปกระทืบอีกฝ่ายตอนนี้ ไม่เพียงจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย แถมยังเพิ่มปัญหาให้ฉันจัดการยากขึ้นไปอีก แล้วอีกอย่างเลยนะ ถ้าแกมีปัญญากระทืบมันจริงๆ มีเหรอจะต้องโทรมาร้องโอดครวญกับฉัน? ขอร้องเถอะ อย่าเก่งแต่ปาก หัดใช้สมองบ้างไอ้ลูกเวร!”

หยุดพักหายใจไปชั่วจังหวะ หูหวงกล่าวต่อว่า

“ฟังนะ มีพ่อที่ไหนจะปล่อยให้คนอื่นทำร้ายลูกตัวเองฟรีๆ? ตอนนี้แกรีบกลับไปนอนโรงพยาบาลซะ ไม่ว่าใครมาถามก็บอกไปว่าถูกทำร้ายร่างกายมาหนักจนขยับตัวไม่ได้ แสร้งทำตัวน่าสงสารให้คนอื่นเห็นใจ! หูจือ โห่วเจียน ตอนที่พวกแกสองคนเข้าไปให้ปากคำ บอกไปแค่ว่า ฉีเล่ยเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร ก็โดนทำร้ายจนลงไปนอนกองกับพื้นแล้ว เข้าใจไหม? ส่วนที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

ในฐานะที่เป็นถึงผู้กำกับสถานีตำรวจ หูหวงย่อมมีประสบการณ์ในกระบวนการสืบสวนมาอย่างมากมายนับไม่ถ้วน เขารู้ดีว่าควรจะให้การอย่างไรถึงจะสามารถโยนความผิดให้อีกฝ่ายได้ ส่วนที่เหลือเขาจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อควบคุมสถานการณ์หลังจากนั้นให้อยู่หมัด

หลังจากได้ยินคำกล่าวของพ่อแบบนั้น หูจือก็แสยะยิ้มอย่างมีความสุขทันที เขารู้ดีว่านี่แหละคือโอกาสดีที่จะได้แก้แค้นแล้ว พยักหน้าตอบพ่อตัวเองไปหนึ่งที จากนั้นก็เดินกอดคอเพื่อนพ้องออกไปด้วยความร่าเริง

จ้องมองกลุ่มลูกๆตัวเองจากออกไป โห่วเซินกัวถึงกับส่ายหัวกล่าวว่า

“ไอ้เด็กเวรพวกนี้ นิสัยแย่กว่าตอนที่พวกเรายังเด็กซะอีก ต้องกล้าขนาดไหนถึงลงไม้ลงมือกับคนอื่นกลางห้างแบบนี้?”

“เด็กสมัยนี้มันบ้าดีเดือดกว่ารุ่นพวกเราเยอะ!”

หูหวงเองก็พลันส่ายหัวอานเช่นกัน และหันไปถามโห่วเซินกัวว่า

“ใช่แล้ว น้องโห่ว เรื่องที่โรงพยาบาลของแกไปถึงไหนแล้ว? ไม่ใช่ว่าครั้งล่าสุดแกบอกฉันว่า ประธานหลี่เตรียมเกษียณตัวเองลงจากตำแหน่งแล้ว? เฮ้ออ…เพราะไอ้แก่นี่เข้ามาสอดแท้ๆ ไม่อย่างนั้นปัญหาคงไม่น่าหนักใจถึงขนาดนี้แน่”

เมื่อใดที่ใครก็ตามเอ่ยถามถึงสถานการณ์ภายในโรงพยาบาล โห่วเฉินกัวมักจะหงุดหงิดอยู่เสมอ เขาโบกมือปัดอย่างคร้านจะใส่ใจและกล่าวว่า

“น่าจะเร็วๆนี้แหละ”

หูหวงเหลือบมองอีกฝ่ายเล็กน้อยพร้อมยกมือไปตบไหล่เบาๆ ยิ้มตอบขึ้นว่า

“ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องแสดงความยินดีกับแกล่วงหน้า ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เดี๋ยวฉันเปิดห้องVIPเลี้ยงฉลองเลยเป็นไง?”

โห่วเซินกัวไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นักที่ต้องพูดเรื่องนี้ จึงกล่าวเบี่ยงประเด็นไปว่า

“พี่หู พี่เองก็ใกล้ย้ายแล้วไม่ใช่เหรอ? หลังจากอยู่คุมเขตตะวันออกตั้งหลายปี ในที่สุดก็ได้แสดงความสามารถในกรมตำรวจใหญ่แล้ว”

หูหวงระเบิดเสียหัวเราะ

“กว่าจะได้โอกาสแบบนี้ ฉันเองก็หมดใต้โต๊ะไปเยอะมาก”

โห่วเซินกัวหัวเราะแสดงความยินดีทันที

“ถ้างั้นผมเองก็ขอแสดงความยินดีกับพี่ล่วงหน้าเหมือนกัน”

ในขณะที่ชายวัยกลางคนสองคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาพูดถึงอนาคตอันสดใสของพวกเขาอยู่ จู่ๆก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือของหูหวงที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน

“น่าจะเป็นกำลังเสริมของประธานหลี่”

โห่วเฉินกัวพลันย่นคิ้วขึ้นทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน