ตอนที่82 ฉันเป็นหนี้บุญคุณเขา
หลังจากที่หลี่ฮั่วเฉินพูดจบ เขาก็ลากฉีเล่ยกับหลี่ถงซีออกไปด้วยกันในทันที
“เดี๋ยวก่อนครับ”
หูหวงที่ไม่ได้ปริปากขึ้นเลยตั้งแต่ทีแรกในที่สุดเขาก็เปล่งเสียงดังออกมา สีหน้าเคร่งขรึมกล่าวว่า
“ไม่ทราบว่าจะออกไปไหนเหรอครับ?”
หลี่ฮั่วเฉินเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก
“คุณเป็นใคร?”
“ผู้กำกับสถานีตำรวจแห่งนี้ แล้วก็ยังเป็นหัวหน้าสำนักงานเขตเมืองตะวันออกปักกิ่ง”
หลี่ฮั่วเฉินเข้าใจในทันใดและกล่าวประชดประชันสวนกลับไปว่า
“โอ้? จากที่คุยกันเมื่อกี้ ก็หมายความว่า ลูกชายของคุณเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มอันธพาลที่มาทำร้ายร่างกายคนอื่น ให้ผมบอกอะไรคุณหน่อยนะ หัดสั่งสอนลูกตัวเองซะบ้าง ไม่ใช่วันๆไม่เรียนหนังสือ ออกไปเที่ยวท้าตีท้าต่อยกับคนอื่นไปทั่ว เด็กแบบนี้นี่มันปัญหาของสังคมชัดๆ ก่อนจะขึ้นมารับตำแหน่งผู้กำกับหรือหัวหน้าเขต หัดสอนลูกตัวเองให้ได้ก่อนดีกว่า”
“นี่คุณ!”
หูหวงขว้างก้นบุหรี่ในมือทิ้งลงพื้นทันทีพร้อมกระทืบเท้าอย่างแรง
“ไม่ว่าจะมีต้นสายปลายเหตุยังไง ทางตำรวจของเราจะต้องเข้าสอบสวนเพิ่มเติม! ตอนนี้มีเด็กสามคนที่ถูกฉีเล่ยทำร้ายร่างกาย และกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ดังนั้นทางเราจะไม่มีทางปล่อยคนลงมือออกไปไหนจนกว่าคดีจะคลี่คลาย! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับญาติของเหยื่ออีกหลังจากนี้ ใครกันที่ต้องรับผิดชอบ!”
“อย่าคิดจะใช้ยศบนบ่ารังแกคนอื่นแบบนี้”
หลี่ฮั่วเฉินโบกมือปัดท่าทีดูคร้านจะใส่ใจ
“ถ้าอย่างนั้นปล่อยให้ผมรับผิดชอบดูแลพวกเขาต่อไป แล้วอีกอย่างนะ คนที่เป็นเหยื่อคือหลานสาวของผมกับฉีเล่ย ส่วนผู้ก่อเหตุก็นอนอยู่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ ก่อนหน้านี้คุณเองก็ได้ยินทั้งหมดแล้ว ถ้าจะจับก็ไปจับลูกตัวเองเถอะ”
หูหวงปั้นหน้ากลัดกลุ้มกล่าวเถียงเสียงแข็งว่า
“นี่เห็นเป็นเรื่องตลกรึไง! ที่นี่มันสถานีตำรวจนะ! มีที่ไหนตำรวจฟังความแค่ข้างเดียวก็ตัดสินคดีได้เลย? ตามขั้นตอนแล้ว ต้องรอให้เหยื่อออกจากโรงพยาบาลเพื่อให้ปากคำเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยพิจารณาอีกทีว่า สมควรปล่อยตัวหรือไม่ ดังนั้นผมจึงมีสิทธิ์กักขังผู้ต้องสงสัยได้ชั่วคราว!”
หลี่ฮั่วเฉินโมโหเป็นอย่างมากจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ชายชราคนนี้อารมณ์เดือดจัดจนแทบสามารถฆ่าคนตรงหน้าได้แล้ว นี่อีกฝ่ายเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า? หรือคิดจะเข้าข้างลูกตัวเองจนพูดจาฟังไม่รู้เรื่องแล้ว?
จากคำพูดของหูหวง เห็นได้ชัดว่า เขาต้องการลากฉีเล่ยกับหลี่ถงซีเข้าคุกให้ได้ ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นยังไงก็ตาม และจะมีสิทธิ์ปล่อยตัวออกไปได้ก็ต่อเมื่อ เด็กทั้งสามคนที่ได้รับบาดเจ็บออกจากโรงพยาบาล แล้วถ้าเด็กสามคนนั้นเข้ารักษาในโรงพยาบาลนานเป็นเดือนล่ะ? ไม่ใช่ว่าฉีเล่ยกับหลานสาวเขาต้องติดคุกหัวโตเป็นเดือนเลยงั้นเหรอ?
นอกจากนี้เอง ถ้าฟังตามคำกล่าวอ้างของหูหวง ฉีเล่ยคือผู้กระทำผิดหลักและหลี่ถงซีจะถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
ฉีเล่ยเป็นผู้ชายกร้านโลกในระดับหนึ่งแล้ว ต่อให้ถูกขังคุกไปเป็นหลักเดือนก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง แถมสภาพจิตใจยังค่อนข้างเปราะบางอย่างหลี่ถงซี เธอจะสามารถทนต่อสภาวะแบบนั้นได้อย่างไร?
ในท้ายที่สุดนี้หูหวงคงไม่กล้าทำอะไรกับทั้งคู่มากกว่านี้ เพราะเส้นสายของหลี่ฮั่วเฉินยังค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ ขึ้นชื่อว่าเคยเข้าคุก ชื่อเสียงของทั้งคู่จะต้องหม่นหมองลงโดยปริยาย และแทบจะไม่มีหวังเลยที่จะได้สอนต่อในมหาวิทยาลัยแพทย์
เพราะท้ายที่สุดนี้ มหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่งยังต้องคำนึงถึงชื่อเสียงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทางมหาวิทยาลัยคงไม่สามารถจ้างอาจารย์ที่มี‘ประวัติเสีย’เข้ามาทำงานได้
ในบรรดาคนในห้องสอบสวน ณ ปัจจุบัน หูหวงเป็นคนเดียวที่ไม่เคยพบกับหลี่ฮั่วเฉินเป็นการส่วนตัวมาก่อน เพียงแค่เคยได้ยินชื่อเสียงของอีกฝ่ายมาบ้างเท่านั้น
และในเมื่อทุกคนในที่แห่งนี้รู้จักหลี่ฮั่วเฉินกันหมด ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการจะใช้ประโยชน์จากเส้นสาย เพราะไม่อยากให้เรื่องเล็กกลายมาเป็นเรื่องใหญ่ แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากจะต้องใช้เส้นสายแล้วจริงๆ
หลี่ฮั่วเฉินทราบดีว่าคงไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรต่อ จึงเลือกจะไม่โต้เถียงใดๆกับหูหวงอีกต่อไป เหลือบมองอีกฝ่ายอยู่สักครู่ ก่อนชี้หน้าใส่และกรนเสียงเย็นกล่าวว่า
“ไม่ว่ายังไงผมจะต้องปกป้องสองคนนี้ ทีแรกผมหวังว่าพวกคุณจะให้หน้าผมบ้าง แต่ในเมื่ออยากให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่นัก ผมก็จะสนองให้ เตรียมลงจากตำแหน่งได้เลย คุณชะตาขาดแล้ว ถ้าไม่เชื่อก็คอยดู!”
หลี่ฮั่วเฉินสะบัดแขนเสื้อ หันหลังและเดินออกจากห้องสืบสวนไปทันที
“เหอะ แล้วจะคอยดูว่าแกมีปัญญาทำอะไรฉันได้บ้าง”
หูหวงเหลือบมองแผ่นหลังอีกฝ่ายที่เคลื่อนห่างสายตาออกไป พลางสบถเย้ยเยาะกับตัวเอง
อย่างไรก็ตาม โห่วเซินกัวกลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีนักในขณะนี้
เขารู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับเส้นสายของประธานหลี่ ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็เป็นถึงรองประธานคณะแพทย์สภา คนประเภทนี้มันไม่ใช่ระดับชั้นที่พวกเขาจะสามารถต่อกรได้เลย
และปัจจุบัน พวกเขาก็ทำให้ชายชราคนนี้ขุ่นเคืองไปเรียบร้อยแล้ว! หูหวงไม่แม้แต่จะเห็นแก่หน้าอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ ต่อจากนี้เป็นต้นไป ถึงจะคุกเข่าขอโทษขอโพยยังไง ชายชราคนนี้ไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปอีกอย่างแน่นอน
เวรแล้วไง! ฉันอยากจะเป็นลม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน