ตอนที่81 สองราชาพบจักรพรรดิ
โห่วเซินกัวที่กำลังนั่งจิบชาเจรจาเรื่องธุรกิจอยู่นั่นเอง จู่ๆ ก็มีลูกน้องโทรสายเข้ามาบอกว่า ลูกชายของเขาได้รับบาดเจ็บจากเรื่องชกต่อย พอได้ยินแบบนั้นเขาก็รีบเอ่ยถามด้วยความกังวลทันที
“ที่ไหน? ห้างสรรพสินค้าทางตะวันออกของเมือง? ได้ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ”
ชายในชุดสูทที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยทักขึ้นว่า
“นายท่านโห่ว เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไรใหญ่โตหรอก ลูกชายฉันดันมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนในห้าง คิดว่าจะทะเลาะกันตามภาษาวัยรุ่นนั่นแหละ เดี๋ยวฉันไปจัดการเอง”
น้ำเสียงของโห่วเซินกัวนิ่งสงบเป็นอย่างมาก เรื่องดังกล่าวไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกังวลอะไรเลย แม้จะเป็นเรื่องของลูกชายเขาก็ตาม แต่ก็ยังเชื่อว่า เรื่องนี้จะต้องมีต้นสายปลายเหตุ
“ประธานโห่ว ให้ผมช่วยอะไรไหม?”
ทันใดนั้นก็มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาจากที่นั่งตรงข้าม
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร ผอ.หวังสุภาพเกินไปแล้วเรื่องเล็กน้อยครับ ผมไม่อยากรบกวนผอ.หวัง”
“อืม งั้นก็มาคุยธุรกิจต่อกันก่อน ตามที่ข้อกำหนดระบุไว้ในหนังสือสัญญาทุกประการ หลักจากหักเงิน30%ที่ได้มาจะถูกโอนไปยังบัญชีของประธานโห่วโดยตรงเหมือนครั้งที่แล้ว”
“ได้เลยครับ ผมดีใจอย่างยิ่งครับที่ได้ร่วมงานกับผอ.หวัง”
หัวเซินกัวยืนขึ้นพร้อมจับมือกับผอ.หวัง จากนั้นก็เดินถือกระเป๋าเดินจากร้านน้ำชาออกไปโดยเร็ว
หัวเซินกัวรีบเดินทางเข้าไปในสถานีตำรวจของเขตเมืองตะวันออกทันที พอเปิดประตูห้องผู้กำกับเข้าไป ก็เห็นชายวัยกลางคนในชุดนอกเครื่องแบบกำลังคุยสายกับใครสักคนอยู่
“พี่หู เกิดอะไรขึ้นกับโห่วเจียน? แล้วลูกพี่กับคนอื่นๆ ล่ะ? ไอ้บัดซบคนไหนมันกล้าทำร้ายลูกผม!”
ดูเหมือนว่าหัวเซินกัวจะค่อนข้างสนิทสนมกับผู้กำกับสถานีตำรวจคนนี้เป็นอย่างมาก ถึงเลือกใช้คำพูดที่เป็นกันเองถึงขนาดนี้
ผู้กำกับคนนี้ยกมือให้สัญญาณกับหัวเซินกัวเชิงว่าให้เงียบลงก่อน จากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับปลายสายต่อ
รอประมาณ5นาทีต่อมา ในที่สุดหูหวงก็วางสายลง
“พี่หู เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หัวเซินกัวเอ่ยถามขึ้นทันทีอย่างร้อนใจ
หูหวงส่งบุหรี่ให้หัวเซินกัวมวลหนึ่ง ก่อนจะนำอีกมวลคาบปาก ขณะจุดไฟแช็กก็เอ่ยขึ้นว่า
“ไม่ต้องห่วงน่า หมอนั่นถูกนำตัวมาที่นี่แล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ลูกชายนายหรอกนะ หูจือลูกชายฉันเองก็โดนเหมือนกัน อาการค่อนข้างสาหัสเลยล่ะ”
หัวเซินกัวถามสวนขึ้นทันที
“มันเป็นใคร?”
“มันเป็นใครงั้นเหรอ? เท่าที่ฉันถามจากพวกเด็กๆ เห็นบอกว่า อีกฝ่ายเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่ง”
“เป็นถึงอาจารย์? แล้วมาทำแบบนี้กับเด็กได้ยังไง! พี่หู ฟังผมนะ ที่นี่เป็นอาณาเขตของพี่ แถมลูกพี่เองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บจากไอ้หมอนั่น! พี่ปล่อยมันไม่ได้เด็ดขาด!”
หูหวงเหลือบหางตามองอีกฝ่ายเล็กน้อย ตอบกลับไปว่า
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องห่วง ฉันมีแผนจัดการมันแล้ว จะตามไปหาหมอนั่นด้วยกันไหม?”
“ไป ไป ไปดูหน้ามันหน่อย”
เมื่อผลักประตูห้องผู้กำกับออกมา ทั้งคู่ก็เดินไปที่ห้องสอบสวน เผยให้เห็นฉีเล่ยกับหลี่ถงซีที่กำลังนั่งอยู่ ในขณะเดียวกันหลี่ถงซีเองก็กำลังติดต่อหาปู่ของเธอ เพื่อให้หลี่ฮั่วเฉินมาหา
ทันทีที่เจอหน้า ไม่รีรอให้หูหวงปริปากประเดิมใดๆ ก่อน โห่วเซินกัวตรงไปหยุดอยู่ต่อหน้าฉีเล่ยทันทีและกล่าวว่า
“แกใช่ไหมที่ทำร้ายลูกชายฉัน?”
ฉีเล่ยแสยะยิ้มถามไปว่า
“ลูกคุณคนไหน?”
“โห่วเจียน! หรือจะแถว่าตัวแกไม่ได้ทำร้ายลูกชายฉัน!?”
“โอ้?”
ฉีเล่ยทำหน้าทำตาครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง
“โห่วเจียนใช่ไหม? ต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่คุณพูดไม่ถูกต้องทั้งหมด ไม่ใช่ผมที่ไปทำร้ายเขา เขาต่างหากที่ต้องการจะเข้ามาทำร้ายผม ในตอนนั้นผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากต้องป้องกันตัว เห้อ…ผมรู้สึกเสียใจจริงๆ ครับ แต่ถ้าไม่ทำกลับต้องเป็นผมแทนที่ถูกหามส่งโรงพยาบาล หวังว่าจะเข้าใจกันนะครับ อ่อ! แล้วก็…ถ้าไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูดไป ลองไปถามผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้นะครับ ทุกคนพร้อมที่จะเป็นพยาน”
“นี่แก…”
เมื่อเห็นว่าพูดกับหมอนี่ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา โห่วเซินหัวจึงเบี่ยงเป้าหมายไปทางผู้หญิงอีกคนที่อยู่ข้างๆ แต่พอหันไปมองหลี่ถงวี เขาก็ถึงกับตกตะลึงในทันใด
ผู้หญิงคนนี้ดูคุ้นมาก…
ในเวลาเดียวกัน พอหลี่ฮั่วเฉินมาถึงเขาก็รีบวิ่งเข้าห้องสอบสวนทันที และดันไปเห็นภาพฉากที่โห่วเซินกัวกำลังสอบปากฉีเล่ยอยู่พอดีราวกับเป็นตำรวจซะเอง
หลังจากเข้าห้องสืบสวนมา หลี่ฮั่วเฉินก็กวาดสายตาเข้าสังเกตอย่างรวดเร็ว และพอเห็นว่าฉีเล่ยกับหลี่ถงซีไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก ก่อนจะหันไปถามโห่วเซินกัวว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน