ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 118

" ไม่กล้าหรอก" ชายวัยกลางคนรีบพูด " ผมก็แค่อยากจะเจอคุณมาก จึงได้มารออยู่ตรงนี้"

อู๋เป่ยพูด " ปัญหาของคุณ ผมแก้ได้ แต่ผมมีข้อแม้"

ชายวัยกลางคน " พูดมาเถิด"

อู๋เป่ย " วันนั้น เราได้ฆ่ายอดฝีมือไปหลายคน สำนักที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาก็อาจจะอยากจะแก้แค้น เรื่องแบบนี้ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น"

ชายวัยกลางคนตอบด้วยรอยยิ้ม " อันนั้นมันแน่นอน ผมขอรับรองเลยว่าจะไม่มีใครมาแก้แค้นแน่นอน "

อู๋เป่ยพยักหน้า " งั้นนำทางเลย"

ชายวัยกลางคนใช้คนใช้ไปขับรถของอู๋เป่ย ส่วนตัวเขาก็ให้อู๋เป่ยนั่งรถของตัวเองไปยังจุดนัดหมาย

กำลังสตาร์ทรถ ชายวัยกลางคนพูด " คุณชายอู๋ ผมขอแนะนำตัวก่อน ผมชื่อ ติงซั่งเสียน"

อู๋เป่ย " ผมสงสัยจริงๆ ว่าองค์กรของคุณเป็นองค์กรแบบไหนกันแน่"

ติงซั่งเสียน " ถ้าคุณอู๋ยอมเข้ากลุ่มกับเรา ผมก็จะบอกคุณทุกอย่าง"

อู๋เป่ย " ช่างมันเถอะ ผมไม่สนใจ"

ผ่านไปสักพัก เขาพูดต่อ " บ้านตระกูลหยางก็อยู่ในการควบคุมของคุณสินะ"

ติงซั่งเสียนพูดด้วยรอยยิ้ม " ใช่แล้ว"

อู๋เป่ย " ดูแล้ว อำนาจของคุณแข็งแกร่ง ถ้าผมรักษาคุณ แล้วคุณกลับคืนคำ..."

" ไม่เกิดขึ้นแน่นอน" ติงซั่งเสียนตอบทันทีทันใด" ขอให้เชื่อใจผม แค่อาศัยฝีมือการรักษาที่ทำให้คนตะลึงงันนี้ ก็ไม่มีใครอยากเป็นศัตรูกับคุณหรอก"

อู๋เป่ย " จริงเหรอ"

" แน่นอน" ติงซั่งเสียนตอบ " อีกอย่าง ผมหวังว่าจะเป็นเพื่อนกับคุณอู่ได้"

คำพูดนี้ อู๋เป่ยไม่ได้ตอบอะไร

ติงซั่งเสียนพูดต่อ " ผมได้ยินมาว่า คุณอู๋รักษาไป๋จื่อกุย แล้วยังได้ชี้แนะการฝึกวิชาด้วย คุณชายอู๋ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน"

อู๋เป่ย " คุณสืบข่าวผมมาไม่น้อยเลย"

ติงซั่งเสียน " เพราะอย่างนี้ ผมกับคุณชายอู๋มีแต่ใจที่ชื่นชม ไม่กล้ามีใจที่ไม่เคารพยำเกรงหรอก"

อู๋เป่ย " คุณไม่อยากบอกเรื่องขององค์กรคุณ ผมถามอย่างอื่นละกัน คุณมีความสัมพันธ์กับพวกตระกูลนักรบโบราณไหม"

"แน่นอน" ติงซั่งเสียนตอบ " พวกเราได้ขอยืมกำลังพลจากตระกูลเหล่านี้บ่อยน่ะ"

" ผมว่า บ้านตระกูลนักรบโบราณเหล่านี้น่าจะมีกำลังเข้มแข็งมาก"

ติงซั่งเสียนครุ่นคิดสักพัก พูด" บ้านตระกูลนักรบโบราณก็มีการแบ่งเป็นระดับเหมือนกัน บ้านตระกูลระดับสูงมีน้อย ส่วนใหญ่จะมียอดฝีมือชั้นเทพคอยอยู่เบื้องหลัง ระดับกลางส่วนใหญ่ก็จะมียอดฝีมือชั้นพรสวรรค์อยู่เบื้องหลัง ส่วนระดับล่างก็จะมีกำลังที่อ่อนแอเล็กน้อย อย่างมากก็จะมียอดฝีมือชั้นลมปราณไม่กี่คนคอยอยู่เบื้องหลัง ในทั้งหมดนี้แข็งแกร่งที่สุดเรียกกันว่า ตระกูลเหนือระดับสูง ยอดฝีมือชั้นราชันย์ที่อยู่ในเทียนจิงไม่กี่คนนั้นก็มาจากตระกูลเหนือระดับสูงเหล่านี้"

พูดถึงตรงนี้ เขาพูด" คุณอู๋ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนก็ยังมีคน ใครก็ไม่กล้าพูดหรอกว่าตนคือผู้ไร้พ่าย เพราะอย่างนี้ช่วงที่ผ่านมาผมเองก็ทำดีกับทุกคน คนที่จะเป็นเพื่อนได้ก็ไม่คิดจะสร้างศัตรูด้วย"

ระหว่างที่พูดอยู่ รถก็ขับมาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง อู๋เป่ยตามติงซั่งเสียนขึ้นไปชั้นสามในห้องห้องหนึ่ง ติงซั่งเสียนถาม " คุณอู๋ ตอนนี้คุณลงมือรักษาได้ยัง"

อู๋เป่ยจ้องมองเขา ถามต่อ" คุณรู้ว่าอะไรคือ การหลอมรวมยาไหม"

ติงซั่งเสียนตอบ " การหลอมรวมยาคือการนำเอาชี่แท้ไปไว้ในตันเถียนรวมกันเป็นก้อน จากนั้นก็รวบรวมพลังทั้งหมดให้เป็นจุดเดียว"

อู๋เป่ยได้ยินก็ส่ายหัวอย่างเดียว " คุณผิดไปใหญ่แล้ว"

ติงซั่งเสียนตกตะลึง " ผิดเหรอ"

อู๋เป่ย " คุณรู้ว่ามันคืออะไร แต่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไร การหลอมรวมยาคือการที่ฝึกมาถึงช่วงหนึ่งแล้วทำให้ร่างกายกับวิญญาณเข้สู่ช่วงที่สมบูรณ์ที่สุด เมื่อมีการสัมผัสก็จะมีการตอบสนอง เป็นการรับรู้ก่อนถึงชั้นพลังต่อไป แต่คุณกลับคิดว่าเป็นการรวบรวมลมปราณไว้ด้วยกัน มันไม่ใช่เรื่องน่าขำเหรอ"

สีหน้าของติงซั่งเสียนเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูไม่ได้ทันที " หรือว่า ลู่เสวียนจีมันหลอกผม"

อู๋เป่ยสงสัย " ลู๋เสวียนจีคือใคร"

ติงซั่งเสียนถอนหายใจ " ตอนที่ชั้นพรสวรรค์ของผมมันสมบูรณ์นั้น เคยขอคำปรึกษาจากลู่เสวียนจี ตอนนั้นเขาอยู่ในชั้นเทพแล้ว เขาบอกผมว่า การหลอมรวมยาก็คือการนำลมปราณไปรวมไว้ที่จุดตันเถียน แล้วไม่ต้องปล่อยออกมา"

อู๋เป่ยส่ายหัว" วิธีที่เขาบอก มันเป็นแค่อธิบายจากมุมมุมหนึ่งของการหลอมรวมยาเท่านั้น การที่คุณฟังเขาไม่เกิดปัญหาสิถึงจะแปลก"

ติงซั่งเสียน " แต่ว่าผมก็หลอมรวมยาสำเร็จนะ"

อู๋เป่ย " การหลอมรวมยาแบบนี้ ไม่หลอมเลยสักดีกว่า การหลอมรวมยาเรียกอีกอย่างว่า การสร้างรากฐานวิชา เป็นช่วงเวลาที่จะสร้างพื้นฐานให้กับการฝึกวิชาในชั้นถัดไป เป็นสิ่งสำคัญมากจะมาทำมั่วซั่วแบบนี้ไม่ได้"

ติงซั่งเสียนเหงื่อตกเหมือนเม็ดฝน รีบยกมือเคารพ" ขอคุณชายช่วยผมด้วย"

อู๋เป่ยจ้องมองเขา " ถ้าอยากจะตัดต้นตอของปัญหาทั้งหมด คุณต้องล้มเลิกการหลอมรวมยาก่อน ปล่อยชี้แท้กลับไปยังร่างกาย แล้วทำการหลอมรวมยาใหม่อีกครั้ง"

ติงซั่งเสียนตะลึงงัน " ยกเลิกการหลอมยา อายุผมปานนี้แล้ว คุณภาพเม็ดเลือดก็ถดถอย กลัวว่าจะหลอมรวมยาอีกครั้งไม่ไหวนะสิ"

อู๋เป่ยพูดด้วยความเย็นชา " ไม่เป็นไร คุณไปหาโสมพันปีมาหนึ่งก้าน ผมจะช่วยคุณปรับการไหลเวียนของเลือด รับรองการหลอมรวมยาไม่มีปัญหาแน่นอน"

" โสมพันปี" ตังซั่งเสียนยิ้มอย่างเจื่อนๆ " มันเป็นของที่ล้ำค่ามาก มันหามาไม่ง่ายนะสิ"

จากนั้นก็กัดฟันตอบ " ได้ ผมจะรีบไปหา แล้วค่อยมาหาคุณอู๋อีกรอบ"

อู๋เป่ยถามเขา " คุณรู้ไหมว่าหลังจากหลอมรวมยาแล้วต้องฝึกวิชายังไง"

ติงซั่งเสียนพูด " หลังจากที่ผมหลอมรวมยาสำเร็จ ก็เคยไปหาลู่เสวียนจี เขาบอกว่าการหลอมรวมยามีสามชั้น ชั้นที่หนึ่งเป็นการประกอบซิง (รูปร่าง) ชั้นที่สองฝึกยี่ (ความคิด) ชั้นที่สามคือการรวมซิงและยี่เข้าด้วยกัน"

อู๋เป่ยยิ้มตอบ " ลู่เสวียนจีคนนี้เป็นยอดฝีมือหมดซิงยี่ใช่ไหม"

ติงซั่งเสียนพยักหน้า " ไม่ผิด ถ้านับดูแล้วเขายังเป็นอาน้อยของหยางเทียนฉานด้วย มีศักดิ์ที่สูงจนคนต้องกลัว"

อู๋เป่ยพูด " จะว่าแบบนั้นก็ไม่ผิดนะ"

จริงๆ แล้ว อู๋เป่ยรู้ว่าชั้นเทพนั้นแบ่งออกเป็นห้าขั้น มันล้ำลึกเกินกว่าที่ลู่เสวียนจีพูดอีกเยอะ แต่ว่าเขาไม่ได้บอกแก่ติงซั่งเสียน เพราะระหว่างทั้งสองจะเป็นมิตรหรือศัตรูนั้นยังไม่แน่ชัด

นอกจากโสมพันปีแล้ว เขายังได้เขียนสูตรยาอีกชุดหนึ่ง ข้างในเขียนส่วนประสมยาที่หาได้ยากไว้ เขาให้ติงซั่งเสียนเตรียมมาให้ครบ จากนั้นก็จะสามารถช่วยเขาให้หลอมรวมยาใหม่ได้

ติงซั่งเสียนขอบคุณอีกหลายครั้ง จากนั้นก็ส่งอู๋เป่ยลงไปยังชั้นล่าง

จากที่นี่กลับไปบ้าน ผ่านที่อยู่ของสวี่จี้เฟยพอดี อู๋เป่ยจึงอ้อมนิดหน่อยเพื่อไปเยี่ยมเยียนสวี่จี้เฟย

ครั้งก่อนสวี่จี้เฟยเคยช่วยเขาแก้ปัญหาใหญ่ ถึงตอนนี้ยังไม่ได้ขอบคุณเขาอย่างเป็นทางการเลย

รถมาจอดตรงหน้าประตู เขาเห็นรถของจัวคังก็จอดไว้หน้าประตูเหมือนกันและหน้าประตูมีคนยืนอยู่ประมาณสี่ห้าคน

เห็นว่ามีคนมา ลูกน้องคนหนึ่งวิ่งเข้าไปแจ้งให้ทราบ จัวคังเดินมาด้วยสีหน้ากระวนกระวาย พูด " คุณอู๋ มาแล้วเหรอ"

อู๋เป่ยถาม " เกิดอะไรขึ้น"

จัวคังดึงมือเขาเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็ชี้ขึ้นไปบนตึก พูดด้วยเสียงเบา" อาจารย์ผมเก็บตัวฝึกวิชาตั้งแต่เมื่อวานถึงตอนนี้ ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย มันจะเกิดปัญหาอะไรหรือเปล่า"

อู๋เป่ยเงยหน้าขึ้นเห็นสวี่จี้เฟยทำหน้าเคร่งขรึม เขาได้ผ่านขั้นที่สองชั้นปรารถนาแห่งเทพของการฝึกเทพแล้ว

เกี่ยวกับสามขั้นของการฝึกเทพนั้นเขาและสวี่จี้เฟยเคยคุยกันแล้ว สวี่จี้เฟยน่าจะได้รับการกระตุ้น ทำให้การเลื่อนขั้นของวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี

เขายิ้มแย้ม " ไม่ต้องกังวลหรอก อย่างมากก็ชั่วโมงกว่าสองชั่วโมง เขาก็จะลงมาแล้ว"

จัวคังถอนหายใจเฮือก "ค่อยยังชั่ว"

อู๋เป่ยเองก็ไม่ได้ติดงานอะไร ก็เลยหยุดพูดคุยกับจัวคังและเป็นการนั่งรอสวี่จี้เฟยออกจากการฝึกวิชาด้วย

จัวคังบอกว่า ธุรกิจอ่าวไป๋หลงดำเนินได้ราบรื่นมาก เขาคาดว่า คฤหาสน์ที่อู๋เป่ยต้องการน่าจะสร้างเสร็จภายในสามเดือน รวมกับเวลาในการปรับปรุงก็น่าจะเสร็จภายในครึ่งปี

คุยกันได้ไม่กี่คำ ก็ได้ยินเสียงรถยนต์ดังเข้ามาจากข้างนอก จากนั้นเสียงตวาดก็ลอยผ่านประตูเข้ามา อู๋เป่ยและจัวคังรีบออกไปดูทันที

เห็นเพียงรถทางธุรกิจคันหนึ่งห่างออกไปประมาณสิบเมตร ถูกคนของจัวคังขวางไว้ คนบนรถเป็นชายวัยกลางคน บอกว่าอยากจะเจอสวี่จี้เฟย แต่ว่าโทนเสียงดุดันมาก

อู๋เป่ยมองออกไปไกลๆ ก็เห็นว่าชายกลางคนคนนั้นฝึกวิชาหมัดซิงยี่ เขาใจเต้นแรง ก้าวขากว้างๆ ไปหา พูด " คุณเป็นเพื่อนของสำนักหมัดซิงยี่เหรอ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ