ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1216

เมื่อเป็นดังนั้นอู๋เป่ยจึงถือดราก้อนบอล จากนั้นรากของต้นเต๋าก็เจาะเข้าไปใน ทะลุกำแพงดราก้อนบอลโดยตรง จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำศักดิ์สิทธิ์

เมื่อวิญญาณมังกรเห็นรากมากมายพันกันพันอยู่รอบๆ มันก็คำรามและปล่อยพลังมังกรออกมาเพื่อที่จะพยายามทำให้รากแตกสลายไป

แต่มันก็ไร้ประโยชน์ รากนี้แพร่ไปเรื่อย ๆ และทำลายไม่ได้ มันไม่ตอบสนองต่อพลังของมังกรและเข้าไปพัวพันกับมันในทันที รากที่แหลมคมแทงทะลุร่างของวิญญาณมังกร

ทันใดนั้นวิญญาณมังกรก็ค่อย ๆ จางหายไป มันดิ้นรนอย่างสิ้นหวังและคำรามอย่างไร้ทางสู้: "ไม่! ข้าเป็นถึงองค์รัชทายาทที่สามของเผ่ามังกร พวกเจ้าจะทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้ ตำหนักมังกรตงไห่จะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่..."

ท้ายที่สุดวิญญาณมังกรก็ค่อยๆ หายไปและกลายเป็นพลังวิญญาณมังกรบริสุทธิ์ พลังพวกนี้เข้าไปในต้นเต๋า หลังจากถูกทำให้กลายเป็นพลังบริสุทธิ์แล้ว ก็เกิดผลไม้บนต้นเต๋า

ผลไม้ชนิดนี้มีรูปร่างเหมือนมังกร มันกำลังมีชีวิตอีกทั้งตอนนี้มันกำลังขยับอยู่ผลไม้วิญญาณมังกรเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นมังกรตัวเล็ก ๆ มันว่ายไปรอบๆ ร่างของอู๋เป่ยและในที่สุดก็เข้าไปในจิตวิญญาณ

จิตวิญญาณของอู๋เป่ยรวมเข้ากับเสี่ยวหลงในทันที เขารู้สึกว่าพลังจิตของเขาแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า และในตอนนั้นเองที่พลังจิตของเขาแผ่กระจายออกไปไกลถึงสามพันไมล์!

หลังจากกลืนวิญญาณมังกรแล้ว อู๋เป่ยก็เริ่มฝึกการเปลี่ยนแปลงวิญญาณมังกรทันที การเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณมังกร จริง ๆ แล้วคือการดูดซับข้อดีทั้งหมดของจิตวิญญาณมังกรและเสริมสร้างจิตวิญญาณของตนเอง เพราะในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งปวง จิตวิญญาณของมังกรนั้นสมบูรณ์แบบที่สุดและเป็นขั้นสูงสุดของวิวัฒนาการ

หลังจากกลืนวิญญาณมังกรแล้ว การเปลี่ยนแปลงวิญญาณมังกรราบรื่นขึ้นมาก อู๋เป่ยแทบจะผ่านกระบวรการของคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในคราวเดียว

ในเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งชั่วโมงจิตวิญญาณของเขาเริ่มมีเปลี่ยนแปลง รูปลักษณ์ของจักรพรรดิจิตวิญญาณเริ่มเปลี่ยนไป มันค่อยๆ กลายร่างเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์โดยมีลูกปัดทองคำอยู่ในปาก

ทันทีที่ภาพลักษณ์ใหม่ปรากฏขึ้น จิตวิญญาณของอู๋เป่ยไม่เพียงมีรูปลักษณ์ของจักรพรรดิจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ยังมีข้อได้เปรียบและพรสวรรค์ที่หลากหลายของจิตวิญญาณมังกรอีกด้วย

การเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณมังกรจบลงแล้ว จิตวิญญาณของอู๋เป่ยกลับมาที่ร่างของเขาแล้ว เขาผลักประตูเปิดออกไป

ด้านนอกประตูฮว๋าหยวนจี๋และจั่วฉีเฟิงยืนอยู่ที่นั่นอย่างตกตะลึง อู๋เป่ยปล่อยออร่าจักรพรรดิจิตวิญญาณ พลังอันน่าสะพรึงกลัวทำให้จิตวิญญาณของพวกเขาสั่นกลัว สิ่งที่พวกเขารู้สึกได้ในตอนนี้คือความหวาดกลัว

อู๋เป่ยถาม: “ ศิษย์พี่ทั้งสองกำลังรอผมอยู่หรอ?"

ฮว๋าหยวนจี๋: "ศิษย์น้อง เมื่อครู่จิตวิญญาณของนายนี้น่ากลัวมาก เกิดอะไรขึ้น?"

อู๋เป่ย: "ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่กำลังฝึกวิชาวิชานึงอยู่ มันอาจจะส่งเสียงดังสักหน่อย"

จั่วฉีเฟิงยิ้มเหยเก: "ถ้าอย่างนั้นก็ส่งเสียงดังมากเกินไป คนที่ไม่รู้อาจจะคิดว่ามีเทพองค์ไหนมาซะอีก"

เมื่อเห็นว่าฟ้ายังไม่สาง อู๋เป่ยก็ยิ้มและพูดว่า "รบกวนศิษย์พี่ทั้งสองแล้ว"

ฮว๋าหยวนจี๋โบกมือ: "ศิษย์น้องฝึกต่อไปเถอะ พวกเราไม่รบกวนแล้ว"

หลังจากที่ทั้งสองเดินจากไป อู๋เป่ยขอให้เสวี่ยหงชงชา เสวี่ยหงชงชาคุณภาพดีจากโลกแห่งเซียน อู๋เป่ยจิบและขมวดคิ้ว: "ใครเป็นคนชงชานี้ รสชาติทั้งแปลกทั้งซับซ้อน"

เสวี่ยหงพูดว่า: "ท่านชาย ชาในโลกแห่งเซียนก็เป็นเช่นนี้ ชาเซียนระดับสูงด์ถูกผูกขาดโดย 'บ้านชาสี่ฤดู' แม้ว่าชาที่บ้านชาสี่ฤดูจะอร่อย แต่ก็มีราคาที่แพงมาก แม้แต่ท่านชายสามและท่านชายสี่ก็จะซื้อได้เฉพาะตอนที่เจอกับลูกค้าคนพิเศษเท่านั้น”

อู๋เป่ยถามด้วยความสงสัยว่า: “ เป็นแค่ชาธรรมดาทำไมถึงผูกขาดล่ะ"

เสวี่ยหง: "แม้ว่าการคั่วชาจะไม่ซับซ้อนเท่ากับการเล่นแร่แปรธาตุ แต่หลักการก็คล้ายกัน"

หลังจากได้ยินดังนั้นอู๋เป่ยก็ยิ้มเยาะ: "ชาที่ฉันทำดีกว่าชาของพวกเขาทำเป็นหมื่นเท่า"

เมื่อพูดเช่นนั้น เขาก็เปิดตาข่ายเซียนแล้วตะโกนเรียกเซียนเอ๋อ: "เซียนเอ๋อหาชาสดให้ฉันหน่อย ขออันที่ดีที่สุด"

เซียนเอ๋อรีบเลือกร้านค้าจำนวนหนึ่งมาทันที อู๋เป่ยตรวจดูและพบชาคุณภาพดีชนิดหนึ่ง ใบชาเด็ดจากส่วนหัว ทั้งสดใหม่และมีความอ่อนนุ่ม

เพราะเป็นชาคุณภาพสูง ถึงแม้จะเป็นใบเขียวแต่แค่ครึ่งกิโลราคาก็สูงถึงห้าร้อยเหรียญสมบัติและใบชาสดทุก ๆ สองโลครึ่ง จะหดเหลือแค่ครึ่งกิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าใบชาแห้งจะมีราคาอย่างน้อยสองพันห้าร้อยเหรียญสมบัติ

หากพูดถึงความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องทำยา อู๋เป่ยนับว่าเก่งกว่าหลายคนบนโลกมาก ดังนั้นเขาจึงหยิบเตาปรุงยาและใบชาออกมาทันที ในระหว่างกระบวนการคั่ว เขาเติมส่วนผสมบางอย่างเป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและความเข้มของชา

อู๋เป่ยเองก็ไม่ได้อยู่เฉยเฉยเช่นกัน เขายังคงซื้อใบชาสดทางออนไลน์และคั่วข้ามคืน การคั่วใบชานั้นง่ายกว่าการทำยาอายุวัฒนะ ก่อนรุ่งสาง เขาคั่วชาสิบเตา ทั้งหมดเป็นใบชา 60 กิโลกรัม

ตอนนี้เสวี่ยหงได้รับความนิยมอย่างมาก แค่รางวัลเพียงอย่างเดียวก็เกินหนึ่งล้านเหรียญสมบัติแล้ว

เดิมทีผู้ชมสนใจการเต้นรำของเสวี่ยหง แต่จู่ ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนความสนใจ พวกเขาเริ่มขายชาได้ในทันที

เสวี่ยหงยิ้มพลางพูดว่า: "ท่านชาย นี่คือ 'ชาตาน' ที่ผลิตโดยเสวี่ยหงเอง มันมีพลังยาแปดชนิดและมีประสิทธิผลเท่ากับยาอายุวัฒนะ เพื่อเป็นการขอบคุณคุณชายทุกคน เสวี่ยหงมอบชาตานให้ทุกคน คนละสองตำลึง เพื่อแสดงความขอบคุณ”

ในไม่ช้าชาจำนวนหนึ่งร้อยชุดก็ถูกส่งมอบ หนึ่งร้อยคนนี้ล้วนแต่มีฐานะร่ำรวยและทุกครั้งที่เขาให้รางวัลเขาก็ให้มาเป็นพันเป็นหมื่นเหรียญ

หลังจากได้รับใบชาแล้ว พวกเขาก็ถูกกลิ่นหอมดึงดูดทันทีและต้มใบชาทันที เมื่อจิบชาลงท้องครั้งแรก คนพวกนี้ต่างก็ตกใจ ช่างเป็นชาที่ดีจริงๆ!

"เสวี่ยหง ชาของคุณเยี่ยมมาก ดีกว่าชาที่ดีที่สุดจากบ้านชาสี่ฤดูมาก เสวี่ยหง คุณขายชาของคุณไหม? ฉันขอเหมาหมด!"

“คุณอยากจะเหมาเหรอ? ไม่มีทาง พวกเราก็อยากจะซื้อ เสวี่ยหง ชาของคุณคุณภาดดีมาก ต่อให้แพงแค่ไหน ฉันก็พร้อมที่จะซื้อ”

เสวี่ยหงยิ้มและพูดว่า: "ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจากคุณชายทุกท่าน ชาของเสวี่ยหงใช้วัตถุดิบทางการแพทย์อันล้ำค่ามากมาย ดังนั้นราคาจึงสูงขึ้นเล็กน้อย 200,000 เหรียญต่อครึ่งกิโล"

"ฮ่าฮ่า ชาดีๆ แบบนี้ราคา 200,000 ไม่นับว่าแพง!" มีคนพูดทันที "ขอซื้อห้ากิโลกรัมก่อน!"

เสวี่ยหง: "ฉันขอโทษคุณชายด้วย เนื่องจากปริมาณมีจำนวนจำกัด แต่ละคนสามารถซื้อได้เพียง 250 กรัมเท่านั้น"

และการขายชาก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ ผู้คนซื้อชามากขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเสวี่ยหงขายชาออกไป 65 กิโลกรัม หากไม่รวมที่แจก 20 กิโลกรัม จริง ๆ เขาขายได้อีก 55 กิโลกรัมรวมเป็นเงิน 22 ล้านหยวน!

เมื่อมองดูเงินมากกว่า 20 ล้านหยวนที่อยู่ในบัญชีเงิน อู๋เป่ยคล้ายกับอยู่ในความฝัน เขาพึมพำ: "ชาคั่วนี่ทำกำไรได้ดีจริงๆ!"