ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 123

เฉินหลิงซวงพยักหน้า " ใช่แล้ว คุณหมออู๋ฉันขอมอบมันให้คุณ และสัญลักษณ์ทั้งหมดที่อยู่บนนั้น ฉันก็จะบอกคุณอย่างละเอียด"

อู๋เป่ยกะพริบตา " คุณหนูเฉิน สมุดบันทึกเล่มนี้มันประเมินค่าไม่ได้เลยนะ คุณแน่ใจเหรอว่าจะมอบมันให้ผม"

เฉินหลิงซวงยิ้มตอบ " แต่เดิมฉันเป็นแค่คนพิการคนหนึ่ง คุณหมออู๋เป็นคนให้ชีวิตใหม่กับฉัน บุญคุณครั้งนี้ เฉินหลิงซวงไม่มีอะไรทดแทนได้เลย สมุดเล่มนี้มันไม่ได้มีค่าสำหรับฉัน มอบให้คุณหมออู๋ อาจจะช่วยชีวิตคนได้อีกมากมาย"

อู๋เป่ยเงียบไป ผ่านไปเป็นเวลานานถึงได้พูดต่อว่า" ผมก็ไม่อยากจะเอาเปรียบคุณน่ะ เอาอย่างนี้ละกัน ถ้าผมสามารถหาโสมที่อยู่ในแผนที่ได้ แล้วก็ขายออกไป ผมจะเอาเงินที่ได้แบ่งให้คุณครึ่งหนึ่ง"

เฉินหลิงซวงกลั้นหัวเราะไม่อยู่ รีบโบกมือ" ไม่ ไม่ต้องแบ่งเงินให้ฉันหรอก"

อู๋เป่ยตอบ " สิ่งนี้คือมรดกทั้งหมดที่พ่อคุณเหลือไว้ให้คุณ ผมจะเอาไปเปล่าๆ อย่างนี้ได้ยังไง ตกลงตามนี้ละกัน "

เฉินหลิงซวงเห็นเขายืนหยัดอย่างนี้ทำได้แค่ตอบตกลง เขาถอนหายใจเบาๆ พูด " คุณหมออู๋เป็นคนดี การที่ได้รู้จักคุณถือว่าเป็นความโชคดีของเฉินหลิงซวง"

ในตอนบ่ายก็ไม่ได้ติดธุระอะไร อู๋เป่ยจึงอยู่ในบริเวณบ้าน นั่งขัดสมาธิฝึกวิชา รอจนฟ้ามืด จึงทำการรักษาเฉินหลิงซวงต่อ

ทำไปหลายครั้ง ทำให้เขารู้ว่า ทุกครั้งที่ใช้ตาวิเศษจะทำให้เขาอ่อนล้า แต่ว่ายิ่งเขาอ่อนล้า การฝึกวิชาตถาคตหายใจก็ยิ่งมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะพลังงานจิตใจ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เขารู้สึกลึกๆ ว่า พลังตาวิเศษและพลังงานจิตใจของเขามีความเชื่อมโยงกันอย่างประหลาด ประมาณหนึ่งทุ่ม หลังจากที่เขารู้สึกว่าพลังงานเต็มบริบูรณ์แล้ว ทำให้พลังงานจิตใจฟื้นกลับมาเหมือนเดิม เขาจึงเริ่มทำการรักษาเฉินหลิงซวงต่อ

กระบวนการรักษาก็เหมือนเช่นเคย เฉินหลิงซวงเคยชินกับการใส่เสื้อที่เปิดช่องหลังไว้ จากนั้นก็นอนลงบนโซฟาเพื่อรับการรักษาจากอู๋เป่ย

เวลาที่มือของอู๋เป่ยกดลงไปบนหลังที่เยิ้มดังหิมะของเธอ เธอก็จะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัว ลมปราณสีทองถูกถ่ายโอนเข้าสู่ร่างกาย ไปรักษาพลังจิตและทำให้เส้นลมปราณไหลคล่อง

การรักษาครั้งนี้กินเวลาจนถึงห้าทุ่มกว่า

ครั้งนี้ อู๋เป่ยรักษาการรับรู้ของกล้ามเนื้อทั้งบนและล่าง เฉินหลิงซวงรู้สึกได้ว่าขาทั้งสองของเธอเริ่มฟื้นฟูตัวเอง ตาทั้งสองของเธอเปล่งประกาย ถาม " คุณหมออู๋ ฉันเดินได้แล้วใช่ไหม"

อู๋เป่ยยิ้มตอบ " ไม่ต้องรีบร้อน ช่วงหลายปีที่ผ่านมาคุณไม่ได้ขยับเนื้อขยับตัว กล้ามเนื้อยังไม่มีแรง เดี๋ยวให้ผมนวดให้คุณก่อน"

ขณะที่พูด เขาก็ใช้มือทั้งสองข้างกดลงไปบนขาของเฉินหลิงซวง เดินลมปราณ เพื่อรักษาด้วยการนวด

เฉินหลิงซวงหลับตาลง รู้สึกเพียงแค่ว่ายังไม่เคยรู้สึกสบายเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต เธอพูด " คุณหมออู๋ ฉันได้ยินจากชิงอิ่งว่า โอวลี่เคยไปหาคุณเหรอ"

อู๋เป่ย " คุณรู้จักโอวลี่เหรอ"

เฉินหลิงซวงยิ้มตอบ " เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และเคยเข้าร่วมรายการทางการแสดงด้วยกันด้วย เขาเป็นคนที่ไม่ได้แย่นะ แต่ว่าแม่ของเขาเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย หวังว่าคุณจะไม่โกรธนะ"

อู๋เป่ยยิ้มด้วยความเย็นชา " ผมจะโกรธไปทำไมกัน เราก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันมาก่อน"

เฉินหลิงซวงเงียบขรึมไปชั่วครู่ พูด "คุณหมออู๋ คุณช่วยรักษาโอวลี่ด้วยได้ไหม"

อู๋เป่ยตอบ " หมอมีคุณธรรม ผมเองก็ยินดีที่จะช่วยรักษาเขาอยู่ แต่ครอบครัวของเขาไม่ได้เชื่อใจผม แล้วผมจะไปหาเรื่องใส่ตัวทำไมล่ะ"

เฉินหลิงซวงยิ้มเล็กน้อย "ฉันจะพูดกับโอวลี่เอง ฉันคิดว่าไม่มีอะไรจะมีน้ำหนักมากไปกว่าประสบการณ์ที่ฉันได้เจอมากับตัวหรอก"

อู๋เป่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ หลังจากที่นวดเสร็จ พูดกับเฉินหลิงซวงว่า " ลองลุกขึ้นเดินดู"

เฉินหลิงซวงพยักหน้าตอบ อู๋เป่ยประคองเธอให้ค่อยๆ ลุกขึ้น ขาสองข้างได้สัมผัสพื้น ทำให้รู้สึกว่าเบาตัวมาก ยืนสักพักก็คุ้นชิน

เธอลองก้าวออกไปก้าวหนึ่ง พูดด้วยความดีใจ "ฉันเดินได้แล้ว คุณหมออู๋ ฉันขอเดินเองบ้าง"

อู๋เป่ยปล่อยมือ ยืนอยู่ตรงข้ามห่างออกไปสามก้าว ยิ้มตอบ" เดินช้าๆ น่าจะเดินได้อยู่"

เฉินหลิงซวงก้าวออกไปอีกก้าวหนึ่ง ความรู้สึกที่ได้เหยียบพื้นจริงๆแบบนี้ ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่และคุ้นเคย เธอกลั้นน้ำตาทั้งสองข้างของเธอไม่อยู่ มันให้ความรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง

ก้าวอีกก้าวหนึ่ง เธอรู้สึกเท้าอ่อนแรงทันที ล้มลงไปข้างหน้า อู๋เป่ยยื่นมือออกไปด้วยไหวพริบปฏิภาณ ทำให้เฉินหลิงซวงซบลงในอ้อมอกของเขาทันที

ครั้งนี้กอดอย่างจัง แขนสองข้างของเฉินหลิงซวงกอดเอวของอู๋เป่ย ไอผู้ชายที่เข้มข้นทำให้หัวใจของเฉินหลิงซวงอยู่ไม่นิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจเธอก็เร็วกว่าปกติ

อู๋เป่ยประคองเธอไว้ ยิ้มพูด " ไม่เป็นไร เดินบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินไปเอง พรุ่งนี้ผมจะจัดยาให้คุณ คุณทอดแล้วก็กินได้เลย"

แก้มของเฉินหลิงซวงแดงระเรื่อ เธอพยักหน้าเบาๆ พูด " คุณหมออู๋ ตอนนี้ก็ค่ำมากแล้ว ทานอะไรหน่อยไหม"

อู๋เป่ยก็หิวจริงๆ พยักหน้าตอบว่าได้

อาหารสามมื้อของเฉินหลิงซวงรับผิดชอบโดยโรงแรมข้างๆ เธอโทรไปสักพัก อาหารก็มาส่งถึงที่

เจ้าของโรงแรมข้างๆ เป็นพ่อครัวใหญ่ อาหารของเขาไม่เลว เฉินหลิงซวงชอบทานฝีมือของเขา เป็นเพราะเธอให้ค่าจ้างที่สูงมากทำให้กลางคืนดึกๆ ดื่นๆ เจ้าของก็ตื่นมาทำให้

อู๋เป่ยกินอย่างเรียบง่ายเล็กน้อย จากนั้นก็ขอลากลับบ้าน

เขาออกไปแล้ว เฉินหลิงซวงก็โทรหาโอวลี่ทันที

ในเวลานี้ โอวลี่กำลังนอนเล่นเกมคอมพิวเตอร์อยู่บนโซฟา ช่วงที่ผ่านมานี้เขาใช้เวลากลางวันสลับกลางคืน การใช้ชีวิตไม่มีระเบียบเลยสักนิด

เห็นว่าเป็นสายของเฉินหลิงซวง เขารีบรับทันที พูด " หลิงซวง ไม่ง่ายเลยนะที่จะได้รับสายจากคุณ"

เฉินหลิงซวงพูดอย่างเย็นชา " โอวลี่ ฉันสามารถเดินได้แล้ว"

โอวลี่ตะลึงงัน นั่งตัวตรงทันที เขาถามด้วยความตกใจ "เธอหายแล้วเหรอ ใช้วิธีการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่แบบไหนเหรอ"

" ไม่ใช่" เฉินหลิงซวงตอบ " เป็นคุณหมออู๋น่ะที่รักษาฉัน ใช้เวลาไม่นาน ฉันก็จะหายเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"

โอวลี่ดีใจใหญ่" หลิงซวง คุณโทรมาหาผม แสดงว่าเขาก็รักษาผมได้สินะ"

เฉินหลิงซวง " แน่นอน"

" เป็นเรื่องดีจริงๆ" โอวลี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ "เธอรีบส่งช่องทางการติดต่อมาให้ผมเลย ผมจะติดต่อคุณหมออู๋คนนี้ทันที"

เฉินหลิงซวงเงียบขรึมไปชั่วครู่ พูด "จริงๆ พวกคุณก็เคยเจอกันมาก่อนแล้ว"

โอวลี่ตกใจ " เราเคยเจอกันมาก่อนเหรอ"

" ก่อนหน้านี้ เว่ยชิงอิ่งเคยพาหมอคนหนึ่งไปรักษาคุณ แต่พวกคุณกลับไม่เชื่อใจเขา ไล่เขาออกอย่างไม่ไยดี คุณลืมแล้วเหรอ" เฉินหลิงซวงถาม

โอวลี่ครุ่นคิดอย่างละเอียดอีกรอบ ใจเต้น "ตึกตัก" แวบเดียวอู๋เป่ยก็โผล่ขึ้นมาในหัว เขาตอบ " ไม่น่าจะใช่ เป็นเขาเองเหรอ"

เฉินหลิงซวงถอนหายใจ "ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดถึงเรื่องนี้ คุณหมออู๋ยังคงจำได้เหมือนเดิม"

โอวลี่อยากจะฉีกปากของตัวเองจริงๆ เขาถึงกับพลาดโอกาสรักษาไป เป็นคนโง่เง่าจริงๆ

เขารีบพูดทันที" หลิงซวง คุณต้องช่วยผมนะ ช่วยพูดจุดดีของผมให้คุณหมออู๋หน่อย ผมจะไปอวิ๋นจิงเดี๋ยวนี้เลย"

เฉินหลิงซวง " ฉันก็ไม่กล้ารับรองหรอกนะ จะทำเต็มที่ละกัน"

คืนนี้ อู๋เป่ยยังคงฝึกวิชากำหนดลมหายใจ จนถึงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้น เขาใจเต้นแรง เขารู้สึกว่าตัวเองมีความฉลาดปราดเปรื่องมากขึ้น ทั้งทักษะการฟัง การดมกลิ่น การสัมผัส ล้วนแล้วแต่เพิ่มขึ้นทั้งนั้น

ตาของเขาเปล่งประกาย " ในที่สุดก็เปิดการรับรู้เทพได้แล้ว"

มันไม่ผิดจริงๆ ในเวลาที่ไม่คิดไม่ฝัน เขาเลื่อนชั้นจากชั้นลมปราณไปสู่ชั้นพรสวรรค์ ทำให้มีการรับรู้เทพ

การรับรู้เทพ เป็นความรู้สึกที่เร้นลับ การมีมันทำให้การควบคุมชี่แท้ลึกซึ้งขึ้น ความเร็วในการฝึกวิชาก็เร็วกว่าชั้นลมปราณอย่างมาก

อีกอย่าง คนที่ฝึกวิชาในชั้นนี้ ทำให้มีความฉลาดเพิ่มขึ้น สามารถเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว แล้วสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา เพราะอย่างนี้ยอดฝีมือชั้นพรสวรรค์จึงเรียกอีกชื่อว่า ปรมาจารย์ชั้นพรสวรรค์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ