ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1244

เขาตรวจสอบดูแล้ว เว็บไซต์เหล่านี้น่าจะเพิ่งดำเนินการเปลี่ยนแปลงแบบง่าย ด้านหน้าเว็บไซต์ยังค่อนข้างเรียบง่ายอยู่

เย่เสวียน “ทวดน้อย เก่งไหมล่ะ? ว่ากันว่าหน่วยงานระดับสูงกำลังวางแผนที่จะส่งเสริมเครือข่ายประเภทนี้สู่โลกภายนอก และแพร่กระจายเครือข่ายประเภทนี้ไปทั่วแคว้น”

อู๋เป่ยปิดโทรศัพท์แล้วพูดว่า “หลายวันนี้พวกเจ้าได้ตั้งใจฝึกฝนหรือไม่?”

เย่เสวียนยิ้มแล้วพูดว่า “ตั้งใจแน่นอนสิ ทวดน้อย พวกเราแทบไม่เคยได้หยุดพักสักวันเดียว”

อู๋เป่ยพยักหน้ารับ “ตั้งใจฝึกฝนให้ดี อีกไม่กี่วันพวกเจ้าต้องเข้าร่วมสถาบันศิลปะการต่อสู้อย่างเป็นทางการแล้ว”

พร้อมให้ให้เย่เสวียนและคนอื่นๆ ลงไปฝึกฝน เขาถามขึ้นว่า “อธิการบดีหลัวล่ะ?”

เถี่ยวซวน “เดิมทียังเป็นรองอธิการบดี แต่หลายวันก่อนได้ถอนตำแหน่งไปแล้ว ตอนนี้จึงเกษียณอายุ”

อู๋เป่ยปลงกับโลกที่เปลี่ยนแปลง เขาพูดขึ้นว่า “โลกใบนี้เปลี่ยนไปแล้ว เกรงว่าเขาแทบไม่เคยรู้อะไรเลยตั้งแต่แรก”

เถี่ยวซวน “จริงด้วย ราวกับว่าเปลี่ยนจากโลกใบหนึ่งไปเป็นโลกอีกใบหนึ่ง ใช่สิ ตามกฎระเบียบแล้ว ที่ปรึกษาทุกคนจะต้องเข้าร่วมการประเมินที่ปรึกษา ในเมื่อท่านมาแล้ว ก็ไปการประเมินให้เสร็จสิ้นเถอะ หากภายในครึ่งปีไม่ดำเนินการประเมิน คุณสมบัติที่ปรึกษาของท่านจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ”

อู๋เป่ยถามว่า “ประเมินอย่างไร?”

เถี่ยวซวน “ดูเหมือนว่าสถาบันจะส่งคนมาโดยเฉพาะ และทำแบบทดสอบและถามคำถามท่านบางส่วน จากนั้นก็ทำการประเมินโดยพวกเขา หากการประเมินไม่ผ่าน ก็จะเสียคุณสมบัติในการเป็นที่ปรึกษาไป”

เหลิงหยิน “ไม่เลว ดังนั้นขั้นตอนการประเมินจึงเป็นความคิดเห็นเฉพาะบุคคล หากพวกเขาต้องการให้ท่านสอบผ่าน ท่านก็จะสอบผ่าน แต่ถ้าหากพวกเขาไม่ต้องการให้ท่านสอบผ่าน ต่อให้ท่านเป็นบุตรแห่งสวรรค์ ท่านก็ไม่สามารถผ่านไปได้”

เถี่ยวซวน “สวัสดิการของที่ปรึกษาดีมาก อีกทั้งยังมีจำนวนจำกัด ผู้คนต่างก็อยากเข้ามา การแข่งขันจึงดุเดือดอย่างมาก”

อู๋เป่ย “ตอนนี้ สวัสดิการของที่ปรึกษาเป็นอย่างไรบ้าง?”

เถี่ยวซวน “ทุกปีที่ปรึกษาห้าดาวจะได้สามสิบล้านเหรียญมังกรเทพ ซึ่งเท่ากับสามหมื่นล้านเหรียญสมบัติ”

อู๋เป่ยตกใจ “สามหมื่นล้านเหรียญสมบัติ!”

เหลิงหยิน “ต่อให้เป็นที่ปรึกษาหนึ่งดาว รายรับต่อปีก็อาจสูงถึงแปดร้อยล้านเหรียญสมบัติ”

เถี่ยวซวน “นี่เป็นเพียงแค่เงินรายรับเปล่าๆ เท่านั้น หากสามารถฝึกฝนนักเรียนที่ยอดเยี่ยมออกมาได้ การฝึกฝนนักเรียนได้หนึ่งคน ที่ปรึกษาก็จะได้รับเงินรางวัลมหาศาล”

เดิมทีอู๋เป่ยไม่ได้สนใจต่อตำแหน่งที่ปรึกษามากนัก เมื่อได้ฟังที่เถี่ยวซวนพูด เขาก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันทีทันใด หากกลายเป็นที่ปรึกษาห้าดาว ทุกปีจะมีรายรับมากถึงสามหมื่นล้านเหรียญสมบัติ นี่ยังไม่นับรวมเงินรางวัลที่ได้จากการฝึกฝนนักเรียนที่มีพรสวรรค์อีกด้วย

เหลิงหยิน “ที่ปรึกษาที่เพิ่มเข้ามาใหม่ล้วนก็เก่งกันทุกคน หากข้าไปเทียบกับพวกเขา แทบไม่ได้เรื่องเลย”

เถี่ยวซวน “จริงสิ แบบแผนเดิมของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ได้ทำการเปลี่ยนแปลงแล้ว ทั่วทั้งแผ่นดินคุนหลุนจะสร้างสถาบันศิลปะการต่อสู้สาขาย่อยสิบแห่ง และรับสมัครผู้มีผลสวรรค์จากทั่วทุกสารทิศ ผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นมากที่สุดในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ก็จะได้เข้าร่วมฝึกฝนต่อในสถาบันศิลปะการต่อสู้สาขาหลัก”

อู๋เป่ย “ดูท่าทางแล้ว สถาบันศิลปะการต่อสู้ในปัจจุบัน คงเปี่ยมไปด้วยอันตรายที่มืดมิด ไม่ใช่สิ่งที่สถาบันศิลปะการต่อสู้เดิมจะสามารถเทียบเท่าได้อีกแล้ว”

ในขณะนั้นเอง มีเสียงดังออกมาจากด้านนอก “ที่ปรึกษาอู๋ เหตุใดท่านต้องทำร้ายนักเรียนของข้าด้วย?”

เมื่อได้ยินดังนั้น เหลิงหยินจึงพูดว่า “นั่นคือคังซวิ่นเทียน เขาผู้นี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชันระดับหนึ่ง ท่านต้องระวังด้วย!”

เมื่อได้ยินว่าเป็นคังซวิ่นเทียน อู๋เป่ยก็เดินออกมาที่ประตู ที่ด้านนอกประตู ผู้ชายวันรุ่นคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ด้านหลังเป็นกลุ่มคนที่มายืนดูความคึกคัก

ผู้ชายสายตาเยือกเย็น เขาจ้องอู๋เป่ยแล้วถามว่า “ท่านก็คือที่ปรึกษาอู๋สินะ?”

อู๋เป่ย “ข้าเอง ท่านก็คงเป็นคังซวิ่นเทียนสินะ?”

อีกฝ่ายพยักหน้า “ใช่ ข้าเอง ท่านทำร้ายนักเรียนของข้า ข้ามาขอคำอธิบาย”

อู๋เป่ย “ก็แค่ต่อยตีกันเท่านั้น ได้สิ”

ช่วงนี้ เขาไม่ได้อยู่สถาบันศิลปะการต่อสู้มาระยะหนึ่งแล้ว จึงคิดอยากจะแสดงอำนาจ ตอนนี้โอกาสก็มาถึงพอดี

ถึงขั้นที่ว่าในวินาทีที่เขาถูกสะบัดจนล้ม เขาไม่ได้ยอมแพ้ แต่ร่างกายของเขาได้ทำการเปลี่ยนแปลง13กระบวนท่า กระตุ้นพลังอภินิหารเจ็ดประเภท เคล็ดวิชาการต่อสู้สี่ประเภท และวิชาอาคมอีกสองประเภท

แต่ก็ไร้ประโยชน์ อู๋เป่ยทำลายทุกเคล็ดวิชาด้วยแรงเดียว! ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีที่สูงส่งแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องสยบลงที่พื้น

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น คังซวิ่นเทียนในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชันก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาเตรียมทำการโจมตีกลับ และรวบรวมกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุด จนกระทั่งอู๋เป่ยฟาดเท้าลงมา ฝ่าเท้านั้นของอู๋เป่ยราวกับภูเขานับหมื่นลูกที่กดศีรษะไว้ ทำให้คังซวิ่นเทียนต้องล้มเลิกการต่อต้านทั้งหมด เพราะเขารู้ดีว่า การต่อต้านใดๆ ย่อมเป็นการเสียเปล่า!

อู๋เป่ยรู้ดีกว่าเขาได้ทำลายความกล้าของคังซวิ่นเทียนไปแล้ว เมื่อผ่อนเท้าลงแล้ว จึงพูดเสียงเรียบว่า “ลุกขึ้นเถอะ”

คังซวิ่นเทียนจึงกล้าลุกขึ้นยืน และแสดงความเคารพต่ออู๋เป่ย “ท่านอาจารย์อู๋ ก่อนหน้านี้ได้กระทำผิดมากมาย! ท่านได้โปรดอภัยให้ด้วย!”

จากนั้นเขาก็หันกลับไปตะคอกเสียงเกรี้ยวว่า “ไอ้พวกเจ้าโง่ทั้งหลาย รีบเข้ามาคำนับขอโทษท่านอาจารย์อู๋เร็วเข้าสิ!”

ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชัน คังซวิ่นเทียนคืออัจฉริยบุคคลทางด้านการต่อสู้ การต่อสู้เมื่อครู่ เขารับรู้ความน่ากลัวของอู๋เป่ยอยู่ลึกๆ ในใจทั้งเคารพและหวาดกลัว เคารพเขาเยี่ยงเทพเจ้า!

นักเรียนหลายคนต่างตกใจ รีบคุกเข่าร้องขอความเมตตาต่อหน้าอู๋เป่ย

อู๋เป่ยโบกมือ “พอแล้ว ไปกันได้แล้ว”

ทุกคนต่างถอยออกไป คังซวิ่นเทียนกลับยังไม่ไป เขาพูดอย่างเคารพว่า “ท่านอาจารย์อู๋ ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนาน มีชื่อเสียงสมคำร่ำลือ ข้าน้อยเลื่อมใสอย่างมาก แต่ตอนนี้มรดกการต่อสู้ของสถาบันศิลปะการต่อสู้ได้เปลี่ยนแปลงใหม่แล้ว มรดกศิลปะการต่อสู้แบบใหม่มาจากพระราชวังการต่อสู้ของราชสำนักเซียน ซึ่งทรงอานุภาพมากกว่าเมื่อก่อนมาก”

อู๋เป่ยพยักหน้ารับและพูดว่า “รู้แล้ว”

หลังจากที่คังซวิ่นเทียนออกไปแล้ว เถี่ยวซวนยิ้มแล้วพูดว่า “ยินดีด้วยสหายอู๋ มีผลการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว อย่างน้อยพวกเขาก็จะไม่สงสัยในสถานะที่ปรึกษาของท่านอีก”

อู๋เป่ย “คังซวิ่นเทียนเป็นที่ปรึกษากี่ดาว?”

เถี่ยวซวน “ที่ปรึกษาสามดาว”

อู๋เป่ย “ดูเหมือนว่า อย่างน้อยตอนนี้ข้าก็เป็นที่ปรึกษาสามดาวได้แล้ว”