ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1245

สรุปบท บทที่ 1245 เข้าเมือง: ยอดคุณหมอตาวิเศษ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1245 เข้าเมือง – ยอดคุณหมอตาวิเศษ โดย เสี่ยวเยา

บท บทที่ 1245 เข้าเมือง ของ ยอดคุณหมอตาวิเศษ ในหมวดนิยายความสามารถแปลก เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี่ยวเยา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เหลิงหยิน “สหายอู๋ควรได้รับคุณสมบัติที่ปรึกษาสามดาวโดยไว เพื่อจะสามารถได้รับเงินเดือนโดยเร็วที่สุด”

อู๋เป่ย “ที่ปรึกษาสามดาว ก็ควรต้องประเมินด้วยสินะ?”

เหลิงหยิน “ถูกต้อง การประเมินที่ปรึกษาสามดาว อธิการบดีจะควบคุมด้วยตัวเอง”

อู๋เป่ย “อืม ข้าจะทำการประเมินให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไป”

พวกเขาพูดคุยกันตลอดจนถึงเวลาค่ เหลิงหยินและเถี่ยวซวนจึงขอตัวลา

อู๋เป่ยเรียกเย่เสวียนมาและพูดว่า “พวกเรากลับเมืองหลวงกันเถอะ”

เย่เสวียนหัวเราะแหะๆ แล้วพูดว่า “ทวดน้อย มีเรื่องใช่หรือไม่?”

อู๋เป่ย “ไม่มีเรื่องอะไรมาก เพียงแค่ไปดูสักหน่อย ลูกน้องของข้ายังอยู่ที่นั่น และไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว”

เย่เสวียนพยักหน้า “ได้สิ ข้าจะไปกับทวดน้อย!”

ระยะทางจากสถาบันศิลปะการต่อสู้สู่เมืองเทียนจิงยังคงเป็นเหมือนเดิม บินได้ระยะหนึ่งก็มาถึงเหนือฟ้าของเมืองเทียนจิง แต่ทว่าเหนือฟ้าของเมืองเทียนจิงถูกห้ามใช้วิชาการบิน เมื่อไร้ทางเลือก ทั้งสองจึงต้องร่อนลงพื้นและเดินเท้าเข้าเมือง

เมื่อมาถึงข้างทาง อู๋เป่ยก็เรียกรถหนึ่งคัน คนขับรถเป็นผู้ฝึกวรยุทธ์คนหนึ่ง เขารับรู้ได้ว่าอู๋เป่ยไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป จึงพูดว่า “นายท่าน ไปที่ใดขอรับ?”

อู๋เป่ยครุ่นคิดครู่หนึ่ง และแจ้งที่อยู่กับเขา เมื่อคนขับรถได้ฟังก็พูดว่า “สถานที่ที่ท่านพูดถึง รถของข้าเข้าไปไม่ได้ขอรับ”

“เพราะอะไร?” อู๋เป่ยไม่เข้าใจ

เย่เสวียนรู้เหตุผลดี จึงพูดขึ้นว่า “ทวดน้อย ตอนนี้เมืองเทียนจิงไม่เหมือนในอดีตแล้ว ในบางพื้นที่ระดับสูง ถูกคนร่ำรวยระดับสูงส่งพลิกเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทับซ้อนไปแล้ว อย่างเช่นมองจากด้านนอกเป็นเพียงพื้นที่เขตเล็กๆ แต่เมื่อเข้าไปแล้ว อาจมีพื้นที่ขนาดใหญ่เท่ากับหนึ่งมณฑลก็ได้”

อู๋เป่ยแปลกใจมาก “สถานที่แบบนี้มีมากเท่าใด?”

คนขับรถพูดว่า “ข้ารู้มาว่าไม่ต่ำกว่าห้าสิบที่ โดยปกติแล้ว สถานที่แบบนี้ชาวบ้านธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้”

อู๋เป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่อยู่ที่เขาพูดถึงคือที่พักอาศัยของหลินปิงเซียน หากพูดเช่นนี้ ที่อยู่ของหลินปิงเซียนก็กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนงั้นหรือ?

เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา และลองติดต่อกับหลินปิงเซียนดูก่อน

ไม่นานนัก ก็มีคนรับสาย แต่ไม่ใช่เสียงของหลินปิงเซียน “ต้องการพูดกับใครเจ้าคะ?”

เป็นเสียงของผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง น้ำเสียงฟังดูเย็นชาเล็กน้อย

อู๋เป่ยแปลกใจมาก และถามว่า “ข้าต้องการคุยกับหลินปิงเซียน เจ้าเป็นใคร?”

อีกฝ่ายพูดว่า “คุณหนูของเรายุ่งมาก ไม่มีเวลามารับสาย” เมื่อพูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายไป

อู๋เป่ยจึงถามเย่เสวียนว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เย่เสวียนเกาหัว “คงเพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ข้าก็ติดต่อนางไม่ได้เลย ทวดน้อย คงไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นใช่หรือไม่?”

อู๋เป่ยพูดว่า “คงต้องไปดูด้วยตัวเองแล้วล่ะ”

คนขับรถขับมาถึงสถานที่ที่ห่างจากบ้านพักของหลินปิงเซียนราวสิบกิโลเมตร และไม่อาจขับเข้าไปได้อีกแล้ว เพราะด้านหน้าเป็นประตูสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ผู้ที่คนเข้าไปด้านในจะต้องได้รับการตรวจสอบทุกคน

อู๋เป่ยลงจากรถ และเดินมาด้านหน้าประตูพร้อมกับเย่เสวียน ผู้บำเพ็ญหลายคนที่เฝ้าประตูอยู่ มีคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “บัตรเข้าออก”

อู๋เป่ยจึงหยิบตราแสดงยศของปรมาจารย์ปรุงยาสี่ดาวม่วงออกมา เมื่อพวกเขาเห็นแล้วต่างก็รีบยืนตรงทันที และพูดอย่างเคารพว่า “ที่แท้ก็ปรมาจารย์ปรุงยานี่เอง ท่านไม่ถูกจำกัดไว้ เชิญด้านในขอรับ!”

เมื่อนำเย่เสวียนเข้ามาด้านใน เย่เสวียนพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่า “ทวดน้อย เทพสุดๆ ไปเลย วันไหนข้าขอยืมใช้บ้างจะได้หรือไม่?”

อู๋เป่ย “ถ้าอยากใช้มัน ก็ไปสอบด้วยตัวเองสิ”

เมื่อเดินผ่านเข้ามาในประตูใหญ่ ผู้คนด้านในมีจำนวนน้อยมากจนเห็นได้ชัด ถนนสองข้างทางเงียบเชียบ ผู้คนที่พวกเขาพบเจอตามถนน พลังยุทธ์ของพวกเขาคือชั้นประตูมังกรเป็นอย่างน้อย บางครั้งก็อาจเห็นขั้นเซียนสวรรค์

ภายในประตูใหญ่มีอาคารสิ่งก่อสร้างทรงโบราณอยู่สองข้างทาง ซึ่งแตกต่างจากในอดีตโดยสิ้นเชิง อู๋เป่ยจึงไร้หนทางในการตามหาที่พักของหลินปิงเซียน

ด้านหน้ามีสวนเล็กๆ อยู่แห่งหนึ่ง เขาจึงนั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นก็โทรศัพท์หาหลินปิงเซียนเป็นครั้งที่สอง

เมื่อสายติดแล้ว เขาก็ตั้งสมาธิแผ่กระจายรัศมีออกไป ทันใดนั้นก็ล็อกตำแหน่งโทรศัพท์ของหลินปิงเซียนได้ทันที

ผู้ที่รับสายคือเด็กสาวอายุราวสิบเจ็บสิบแปดปี นางพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ท่านอีกแล้วหรือ?”

อู๋เป่ยไม่พูดจา เขาดึงตัวเย่เสวียนไป และทั้งสองก็หายไปจากจุดเดิม วินาทีต่อมา พวกเขาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าคฤหาสน์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

คฤหาสน์แห่งนี้มีลานห้าลานทั้งด้านหน้าและหลัง หรูหราโอ่อ่า และปลูกสร้างขึ้นราวกับพระราชวัง

ด้วยเหตุนี้เอง เสี่ยวอิงจึงนำทางให้พวกเขา อู๋เป่ยและเย่เสวียนมาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงอย่างรวดเร็ว และอยู่ด้านหน้าประตูโลหะอันงดงามโอ่อ่า บนประตูเขียนด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่ว่า “จวนราชาสวรรค์” มีผู้คุมประตูเฝ้าอยู่สี่คน ผู้คนที่เข้าออกต่างก็ยอมรับการซักถามสอบสวน

เสี่ยวอิงพูดว่า “เข้าไปตรงตรงนี้”

อู๋เป่ยมาถึงหน้าประตู พวกเขาหลายคนเห็นตราแสดงยศสี่ดาวม่วงที่หน้าอกของเขา ต่างก็แสดงสีหน้าถึงความเคารพในทันที

“เชิญท่าน!” เขายังคงไม่ได้รับคำถามใดๆ และเดินตรงเข้าไป

เมื่อเดินผ่านประตูใหญ่ มิติก็บิดเบี้ยว ปรากฏว่าด้านในก็เป็นพื้นที่ทับซ้อนขนาดใหญ่

ขณะนั้น เขายืนอยู่บนถนนที่มีต้นไม้เรียงราย ซึ่งทอดยาวตรงไปข้างหน้า โดยมีสิ่งก่อสร้างที่มองเห็นได้อย่างเลือนรางในระยะไกล

ทันทีที่เขาก้าวเท้าออกมา เขาก็มาถึงด้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่มหึมา ซึ่งไม่มีประตูใหญ่ ด้านในมีการปลูกพืชหายากจำนวนมาก และยังมียารักษาโรคให้เห็นอีกมากด้วย

เย่เสวียนมองไปทางซ้าย มองไปทางขวา และพูดอย่างประหลาดใจว่า “ที่แห่งนี้ใหญ่มากจริงๆ ทวดน้อย ต่อไปหากพวกเราจะสร้างบ้านก็ต้องทำให้ได้แบบนี้”

อู๋เป่ย “เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีค่าให้พูดถึง”

ระหว่างที่พูดคุยกัน ผู้ชายสวมชุดคลุมสีเทาคนหนึ่งก็เดินเข้ามา เขาถามด้วยความเกรงใจว่า “ท่านทั้งสองได้โปรดแสดงบัตรเชิญด้วยขอรับ”

ทว่า เมื่อเขาเห็นตราแสดงยศของอู๋เป่ย ดวงตาก็เป็นประกาย รีบน้อมตัวลงแล้วพูดว่า “ที่แท้ก็ท่านปรมาจารย์ปรุงยานี่เอง ข้าน้อยเสียมารยาทแล้วขอรับ!”

แทบในวินาทีเดียวกัน จู่ๆ ผู้ชายสวมชุดคลุมสีทองก็ปรากฏตัวต่อหน้าของอู๋เป่ย เขาแสดงความเคารพต่ออู๋เป่ย “ยินดีต้อนรับท่านปรมาจารย์ปรุงยาสี่ดาวม่วง นับเป็นเกียรติยิ่งนัก! ข้าน้อยนามว่าซวนอ้าว เป็นเจ้าสถานที่แห่งนี้ขอรับ”

อู๋เป่ยยิ้มแล้วพูดว่า “ขอทักทายราชาแห่งสวรรค์ เพื่อนของข้ามาร่วมงานเลี้ยงที่นี่ ข้าเพียงเข้ามาเยี่ยมเท่านั้น”

“ขอต้อนรับ ขอต้อนรับขอรับ!” ซวนอ้าวรีบตอบ “บุคคลสำคัญเยี่ยงท่าน ข้าไม่อาจเชิญมาได้ เชิญเข้ามาโดยไวเถิดขอรับ!”

ราชาสวรรค์ซวนอ้าวผู้นี้เดินนำทางด้านหน้าด้วยตัวเอง ไม่นานก็มาถึงห้องจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ห้องจัดงานเลี้ยงมีผู้คนประมาณสี่ห้าร้อยคน กระจายตามพื้นที่ต่างๆ

อู๋เป่ยถอดตราแสดงยศลง และพูดกับซวนอ้าวว่า “ราชาสวรรค์ ข้าไม่ต้องการเปิดเผยสถานะของปรมาจารย์ปรุงยาที่นี่”

เดิมทีราชาสวรรค์ซวนอ้าวต้องการแนะนำตัวเขา เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ จึงต้องปล่อยเลยตามเลยและพูดว่า “ขอรับ หากท่านต้องการสิ่งใด ขอแค่บอกกับข้าก็พอ”

อู๋เป่ย “ข้าขอเดินดูก่อน”

เขาให้เย่เสวียนหาของกินด้วยตัวเอง เขาเดินไป พลางตามหาหลินปิงเซียนไปด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ