ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1383

สรุปบท บทที่ 1383 พบกับอู๋เอ้าซวงอีกครั้ง: ยอดคุณหมอตาวิเศษ

ตอน บทที่ 1383 พบกับอู๋เอ้าซวงอีกครั้ง จาก ยอดคุณหมอตาวิเศษ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1383 พบกับอู๋เอ้าซวงอีกครั้ง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายความสามารถแปลก ยอดคุณหมอตาวิเศษ ที่เขียนโดย เสี่ยวเยา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

อู๋เอ้าซวงและมู่หรงซือซือพาอู๋เป่ยไปที่หน้าประตูทอง มีแสงเซียนสามสีอยู่ที่หน้าประตูทอง หากเอื้อมมือไปแตะมันจะถูกผลักออกด้วยพลังอันแข็งแกร่ง

อู๋เอ้าซวงกล่าว "แสงเซียนนี้มันร้ายกาจมาก เมื่อก่อนพลังยุทธ์ของฉันยังอยู่ในระดับต่ำแต่ยังแตะประตูได้ แต่ตอนนี้เมื่อฉันเอื้อมมือไปแตะฉันก็ถูกผลักออก รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่เลย"

อู๋เป่ยมองดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ประตูนี้ใช้เพื่อคัดกรองคุณสมบัติ หากคุณสมบัติไม่ผ่านมันจะไม่ยอมให้เข้าไปอย่างแน่นอน และยิ่งระดับพลังยุทธ์สูงเท่าไหร่ เงื่อนไขก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น"

อู๋เอ้าซวงค่อนข้างไม่พอใจ "คุณสมบัติของฉันไม่ผ่านเหรอ ล้อเล่นกันเล่นใช่ไหมเนี่ย"

อู๋เป่ย "เธออย่าไม่พอใจสิ ถ้าไม่เชื่อก็ดูฉัน"

ทันใดนั้นเขาเอื้อมมือออกไปแตะที่ประตูและแสงเซียนก็สั่นโจมตีเขา เขาเป็นคนที่เชี่ยวชาญพลังเซียน พลังเซียนจึงสั่นสะเทือน เขาต่อต้านการโจมตีพลังเซียนได้ และใช้มือของเขาแตะไปที่ประตูได้อย่างง่ายดาย

พลังทะลุทะลวงผ่านประตูใหญ่ ไม่ทันไรเขาก็รู้โครงสร้างของประตูได้ในทันทีด้วยฝ่ามือคู่นั้น แล้วประตูสีทองก็เปิดออกช้าๆ

เมื่อประตูเปิดออก เผยให้เห็นพระราชวังใต้ดินอันแสนงดงาม

ดวงตาของอู๋เอ้าซวงเป็นประกาย "เรารวยแล้ว!" เธอเป็นคนแรกที่รีบพุ่งเข้าไป

มู่หรงซือซือก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน แล้วก็เดินตามเข้าไป

อู๋เป่ยยิ้มเล็กน้อยแล้วก็เดินเข้าไปช้าๆ จากนั้นก็สังเกตสถานการณ์ทั่วทั้งพระราชวัง

พวกเขาสามคนสำรวจข้างในได้รอบนึงแล้วอู๋เป่ยก็รู้ที่มาของถ้ำแห่งนี้ มันเป็นถ้ำของเซียนผู้เที่ยงแท้ในสมัยราชวงศ์เซี่ย เขาถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมเพราะเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ของราชวงศ์เซี่ย

อู๋เป่ยไม่ได้สนใจในสิ่งของที่เขาทิ้งไว้ ในขณะที่เขากำลังจะออกไป หนูนักล่าสมบัติก็กระโดดออกมาตรงหน้าแล้วส่งเสียง

ในใจอู๋เป่ยสั่นไหวจึงถามว่า "มีสมบัติอย่างนั้นเหรอ?"

หนูนักล่าสมบัติพยักหน้า

จากนั้นอู๋เป่ยก็ทำตามคำแนะนำของเขาและมาถึงหน้าแท่นหยก มีอาวุธหลากหลายชิ้นวางอยู่บนแท่นหยก แม้ว่ามันจะเป็นอาวุธเซียนผู้เที่ยงแท้แต่มันไม่ได้น่าดึงดูดสำหรับเขาเลย

จากนั้น อู๋เป่ยก็หยิบอาวุธเวทย์มนตร์ออกไปและจ้องไปที่แท่นหยกที่มีความสูงกว่าหนึ่งเมตร เขาเบิกตาวิเศษและพบว่ามีกล่องหยกสี่เหลี่ยมซ่อนอยู่ใต้แท่นหยก

เขาโบกมือจากนั้นแท่นหยกก็กลายเป็นฝุ่น แล้วกล่องหยกก็ลอยมาอยู่ในมือของเขา เมื่อเปิดกล่องหยกออกมาดูข้างในมีลูกปัดที่มีอักษรรูนลึกลับ12 ตัวอยู่บนพื้นผิวของลูกปัด

การใช้อักษรรูนเหล่านี้คือการผนึกลมหายใจของลูกปัดไว้ มีอะไรอยู่ในนี้กันนะ?

เขายิ้มเล็กน้อยและพูดกับหญิงสาวทั้งสอง "พี่ซวง ลูกปัดนี้ฉันขอ ส่วนที่เหลือให้เป็นของพวกเธอเลย"

อู๋เอ้าซวงโบกมือ "เอาไปเถอะ นายเลือกอะไรก็ได้ที่ต้องการ"

ถ้าไม่ใช่เพราะอู๋เป่ยที่เปิดประตูได้ พี่น้องสองคนนนี้ก็คงจะไม่ได้อะไรสักอย่างเลย ดังนั้นอู๋เป่ยจึงมีเครดิตมากที่สุด

อู๋เป่ยมีสิ่งที่ต้องทำต่อ หลังจากอยู่ได้สักพักเขาก็ทิ้งยาศักดิ์สิทธิ์สามวิเศษไว้สองเม็ดแล้วพูดว่า "ฉันอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ฉันจะกลับมาหาพวกเธออีกครั้งเมื่อฉันมีเวลา นี่คือยันต์หยกมีไว้เพื่อติดต่อ หากพวกเธอเจอปัญหาอะไรในอนาคตก็ติดต่อหาฉันได้"

อู๋เอ้าซวงรับยันต์หยกไว้แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ขอบคุณสำหรับยาอายุวัฒนะ หากคุณมีเวลาเมื่อไหร่ก็มาเล่นที่เมืองกั่งนะ"

หลังจากออกจากจวนเซียนแล้ว อู๋เป่ยก็รีบตรงไปที่เกาะซิ่งหลง

ในดินแดนเซียนพยัคฆ์มังกร หลี่เย่าซือลูกชายของเหรินซานซานกับอู๋เป่ยกำลังขี่มังกรเจียวตัวน้อยและเล่นอยู่ในน้ำ เด็กน้อยกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น

แม้ว่าเสี่ยวติงจะเพิ่งอายุเพียงหนึ่งเดือน แต่เขาก็สามารถวิ่งเล่นบนบกได้แล้ว และแม้แต่เหรินซานซานก็วิ่งตามเขาไม่ทัน ภายในไม่กี่วันที่ได้ลงสนาม เขาก็เริ่มทำตัวซุกซนและก่อความอลหม่านวุ่นวายในดินแดนเซียนพยัคฆ์มังกร

ในขณะที่กำลังสนุกสนาน หลี่เย่าซือก็รู้สึกว่ามีคนกำลังมองเขาอยู่ เขาจึงหันหน้าไปมองแล้วก็เห็นอู๋เป่ยกำลังยิ้มให้เขา

หลี่เย่าซือส่งเสียงเรียกม้าและทันทีที่เขาดึงสายบังเหียน มังกรขาวตัวน้อยก็รีบวิ่งเข้ามาหาอู๋เป่ย จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นสิบเมตรไปที่อ้อมออกของอู๋เป่ย

อู๋เป่ยมองไปที่ชายชราแล้วถามว่า "คุณปู่มีไอเดียอะไรเหรอ?"

หลี่อวิ๋นโต้วกล่าว "ฉันค้นคว้าข้อมูลมาครึ่งปีแล้ว พบว่าผู้ใช้พลังยุทธ์ต้องการมีที่ปักหลัก ดังนั้นจึงทำอสังหาริมทรัพย์ได้ ทุกวันนี้ที่ดินทุกตารางนิ้วของร้านค้าในหลงจิงล้วนมีค่า แกรู้ไหมว่าร้านค้าราคาสูงสุดคือเท่าไหร่?”

อู๋เป่ยไม่ค่อยแน่ใจ จึงถามไปว่า "เท่าไหร่เหรอครับ?"

หลี่อวิ๋นโต้วตอบ "ร้านค้าขนาดหนึ่งพันตารางเมตรในทำเลที่ดีเยี่ยม มีมูลค่าประมาณหนึ่งพันล้านเหรียญสมบัติ"

ดวงตาของอู๋เป่ยเบิกกว้าง "หนึ่งพันล้านเหรียญสมบัติ? ถ้าอย่างนั้นหนึ่งตารางเมตรก็เทียบเท่ากับหนึ่งแสนเหรียญสมบัติงั้นเหรอ? นี่มันโคตรแพงเลยปู่!"

หากเป็นเงินยันต์หนึ่งพันล้านเขายังยอมรับได้ แต่นี่พันล้านเหรียญสมบัติ ล้อกันเล่นหรือไง?

หลี่อวิ๋นโต้วพูดต่อ "หกเดือนที่แล้วราคาเพียงแค่สิบห้าล้านเหรียญสมบัติเอง แกรู้ไหมว่าทำไม? เพราะแคว้นหลงกั๋วมีเสถียรภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ไงล่ะและการควบคุมสิ่งต่างๆ ก็มีแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ความมั่นคงย่อมนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจและเมื่อมีธุรกิจก็ต้องมีร้านค้า”

อู๋เป่ย "ลงมือตอนนี้ช้าไปหรือเปล่าครับ? เพราะยังไงราคามันก็แพงขึ้นแล้ว"

หลี่อวิ๋นโต้วส่ายมือ "แกใช้สายตาคนทั่วไปมองธุรกิจร้านค้าพวกนี้ไม่ได้ ร้านค้าเหล่านี้ขายยาอายุวัฒนะ ขายวิชายุทธ ยาอายุวัฒนะหนึ่งเม็ดราคาเท่าไหร่? วิชายุทธหนึ่งครั้งราคาเท่าไหร่? อาจเป็นหลายสิบล้านหรือหลายร้อยล้านเลย แพงหน่อยก็หลักหลายพันล้านก็เป็นไปได้ ยอดขายต่อปีของร้านก็มีมูลค่านับหมื่นล้านเหรียญสมบัติ ร้านค้าใหญ่ๆ หน่อยก็แตะล้านล้านกันเลย เมื่อคำนวณดูแล้วแกยังคิดว่าแพงอยู่ไหม?"

อู๋เป่ยพยักหน้า "งั้นก็ดีครับ ถ้าปู่มีไอเดียล่ะก็ เราก็สามารถลงทุนได้บ้าง"

เขาหยิบถุงเงินออกมาแล้วพูดว่า "ข้างในมีอยู่หนึ่งแสนล้านเหรียญสมบัติ ปู่เอาไปลงทุนก่อนได้ครับ"

หลี่อวิ๋นโต้วยิ้มและพูดว่า "เงินก็ส่วนหนึ่ง เมื่อเราจะเปิดร้านเราจำเป็นต้องมีผู้สนับสนุน แกเป็นผู้ฝึกสอนกองทัพต้องห้ามไม่ใช่เหรอ? ร้านนี้จะซื้อในชื่อของแก หลังจากซื้อแล้ว ปู่จะส่งคนไปดูแลแทนแก”

อู๋เป่ยคิดว่าสมเหตุสมผลแล้วจึงตอบไปว่า "ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปเลยไหมครับ?"

หลี่อวิ๋นโต้ว "แกไม่เข้าใจธุรกิจ พาหลี่เหมยไปด้วยและให้เธอเลือกร้านให้แก"

อู๋เป่ยตอบ "ได้ครับ ถ้างั้นผมเข้าไปเมืองหลวงก่อน!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ