ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1483

สรุปบท บทที่ 1483 พลังเทพขั้นแปด ท้าทายพลังสวรรค์: ยอดคุณหมอตาวิเศษ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1483 พลังเทพขั้นแปด ท้าทายพลังสวรรค์ – ยอดคุณหมอตาวิเศษ โดย เสี่ยวเยา

บท บทที่ 1483 พลังเทพขั้นแปด ท้าทายพลังสวรรค์ ของ ยอดคุณหมอตาวิเศษ ในหมวดนิยายความสามารถแปลก เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี่ยวเยา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เขานั้นมีคัมภีร์พลังเทพขั้นที่แปด ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ความก้าวหน้าของเขานั้นค่อนข้างราบรื่นเป็นไปด้วยดี ถึงวันที่สอง เขานั้นได้ใช้ร่างที่แท้จริงเริ่มที่จะดูดซับพลังของโลกดึกดำบรรพ์และพลังแห่งสวรรค์ เพื่อนำมาใช้

ในเวลาเที่ยง ร่างกายของเขานั้นรู้สึกสายตัวมาก เหมือนว่าแรงกดดันจากโลกดึกดำบรรพ์ที่ได้ส่งผลต่อเขานั้นไได้หายไปแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนปลาที่อยู่ในน้ำ เหมือนนกอินทรีย์ที่อยู่บนท้องฟ้า รู้สึกสบายตัวมาก กฎของสวรรค์นั้นได้ซึมซับเข้าไปในร่างกายของเขาถูกเขาเปลี่ยนแปลง ในเวลาเดียวกันกฎแห่งสวรรค์ก็ได้ถูกเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

เจียงเยว่หรูได้จ้องมองไปที่ร่างกายของอู๋เป่ยที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงในระยะไกลๆ ในตอนนี้ดูเหมือนว่าอู๋เป่ยนั้นได้รวบรวมผสมผสานเข้ากับโลกของสวรรค์ได้แล้ว พลังเวทย์ที่โหมซัดสาดก็ได้พุ่งพล่านออกมา ราวกับว่าเขานั้นได้เป็นผู้บำเพ็ญของโลกดึกดำบรรพ์

ทันใดนั้นจู่ๆก็มีสายฟ้าลงมาจากท้องฟ้าฟาดไปที่ร่างกายของอู๋เป่ย ร่างกายของเขานั้นได้สั่นสะเทือน จากนั้นในหัวของเขาก็ได้มีเสียงหนึ่งโผล่ขึ้นมา:"คุณนั้นได้เข้ามาในการทดสอบนี้ จะยินดียอมรับหรือไม่?"

อู๋เป่ยได้นึกถึงคำแนะนำที่เพียวเมี่ยวเทียนจุนนั้นได้บอกมา เขาจึงถามไปว่า:"คุณคือเจตจำนงของโลกดึกดำบรรพ์หรอ?"

อีกฝ่ายตอบ:"ใช่ คุณสามารถเรียกฉันว่า'ฮวง' "

อู๋เป่ย:"รายละเอียดการทดสอบนี้คืออะไร? ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?"

ฮวงพูด:"ชั้นตอนนี้จะผ่านไปเร็วมาก จะเป็นการทดสอบคุณสมบัติ โชค และทักษะภูมิปัญญาของคุณทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ว่าคุณสมบัติที่คุณมีนั้นเหมาะสมที่จะเป็นพระบุตรศักดิ์สิทธิ์ของโลกดึกดำบรรพ์หรือไม่"

อู๋เป่ย:"ถ้าสำเร็จเป็นพระบุตรศักดิ์สิทธิ์แล้ว จะสามารถอยู่ฝึกฝนที่นี่ได้ไหม?"

”นอกจากจะฝึกฝนได้แล้ว คุณยังสามารถรับภารกิจได้อีกด้วย ทุกคนที่สามารถทำภาระกิจสำเร็จ ก็ได้จะรับรัางวัล หลังจากทำภาระกิจเสร็จแล้วนั้นคุณก็จะสามารถปรับเปลี่ยนเจตจำนงได้"

อู๋เป่ยตกใจ:"ปรับเปลี่ยนเจตจำนง? แบบนี้ก็เหมือนกับว่าผมเป็นเจ้าของโลกดึกดำบรรพ์ใช่ไหม?"

ฮงพูด:"ใช่"

อู๋เป่ยได้คิดทบทวนอยู๋สักพัก แล้วพูดว่า:"ผมยินดีทำการทดสอบ"

ฮวง:"การทดสอบนี้มีความเสี่ยงต่อชีวิต หากว่าร่างกายของคุณนั้นไม่สามารถบรรลุได้ตามเงื่อนไข คุณอาจจะเสียชีวิตละหว่างการทดสอบได้"

อู๋เป่ยถาม:"ก่อนหน้านี้มีคนเข้ามาทดสอบนี้กี่คน มีกี่คนที่ผ่าน มีกี่คนที่ตาย?"

ฮวง:"มีคนยินยอมที่จะเข้ารับการทดสอบนั้นหนึ่งพันคน มีเพียงห้าคนที่ผ่าน ในระหว่างการทดสอบนั้น มีสามร้อยเก้าคนที่ตาย"

เมื่อได้ยินแบบนั้นมีอัตราการตายถึงสามส่วน ในใจอู๋เป่ยนั้นก็แบบกลัวจนขนลุก แต่ว่าเขาก็ไม่อยากที่จะพลาดโอกาสนี้ไป เมื่อได้คิดคิดดูแล้ว เขาก็ได้กัดฟันพูดว่า:"เริ่มเลย!"

จู่ๆก็ได้มีพลังมหาศาลเข้ามาในร่างกายของเขา เขานั้นได้ตรวจสอบอย่างละเอียดรอบครอบ เจาะลึกลงไปเพื่อตรวจสอบ กระดูกทุกชิ้น กล้ามเนื้อทุกจุด เซลล์ทุกเซล เส้นขนทุกเส้น แม้แต่เทพหยางของเขานั้นก็ไม่ได้ถูกละเว้น

ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการนี้ เขานั้นก็ได้หมดสติไป เมื่อคนได้อยู่ในสภาวะหมดสติไป และเมื่อเจียงเยว่หรูเห็น ก็ได้มีแสงทั้งเก้าสีได้ส่องลงมาจากท้องฟ้า จากนั้นก็ได้ครอบคลุมห่อหุ้ม อู๋เป่ยที่หมดสติอยู่นั้นนั้นได้ลอยขึ้นมาอยู่ในลำแสง

เจียงเยว่หรูตึกใจอย่างมาก เธอนั้นทำได้เพียงเรียกชื่ออู๋เป่ยอยู่ตลอด แต่อู๋เป่ยก็ไม่ได้ตอบสนองอะไร

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง จู่ๆแสงจากท้องฟ้าก็หายไป ร่างของอู๋เป่ยได้ค่อยๆล่วงหล่นลงมากับพื้น เขานั้นยังหมดสติและยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร

เจียงเยว่หรูนั้นก็รับเข้ามา พยายามที่จะปลุกให้เขาตื่น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็ยังดี ที่อู๋เป่ยไม่เป็นอะไร เป็นเหมือนอาการมึนงง เธอนั้นไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงปล่อยให้อู๋เป่ยนอนพักอยู่ที่บนตักของเธอ จากนั้นก็รอให้เขาตื่นฟื้นขึ้นมา

จนกระทั่งถึงกลางคืน ดวงจันทร์ก็ได้ขึ้นมา บนท้องฟ้าก็ได้มีดาวระยิบระยับเต็มไปหมด แล้วรอบๆก็มีเสียงแมลงกรีดร้องไปทั่ว

"ฟื้นแล้ว" อู๋เป่ยฟื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว อู๋เป่ยได้ถูกปลุกจากเสียงเสียงหนึ่ง ช่วยดึงสติเขากลับมา จากนั้นก็ได้มองเห็นแสงสว่างจ้า ในแสงนี้ก็ได้มีเสียงออกมา

"คุณคือฮวง?" เขาถาม

เเสงจ้านั้นก็ได้พูดขึ้นว่า:"ฉันคือ หลี่ซวนเป่ย การทดสอบนี้ได้สิ้นสุดแล้ว คุณได้ผ่านการทดสอบแล้ว จากนี้ต่อไป คุณคือพระบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกดึกดำบรรพ์แล้ว"

อู๋เป่ย:" พระบุตรศักดิ์สิทธิ์มีข้อดียังไง?"

ฮวง:"คุณสามารถปฏิบัติได้เหมือนกับชาวโลกดึกดำบรรพ์ ยิ่งไปกว่านั้น คุณนั้นจะเป็นสูงศักดิ์ ในโลกดึกดำบรรพ์ แม้แต่ผู้บำเพ็ญสูงสุดของโลกดึกดำบรรพ์นั้นก็ต้องยอมจำนนเมื่อได้พบคุณ ไม่ว่าใครก็ตามในโลกดึกดำบรรพ์ที่กล้าที่จะทำร้ายพระบุตรศักดิ์สิทธิ์ ก็จะถูกลงโทษ

อู๋เป่ยตาลุกวาว:"งั้นก็ดีเลย ผมมีเพื่อนคนนึงที่อยู่ที่โลกดึกดำบรรพ์ สามารถช่วยผมหาเธอได้หรือไม่? "เขาพูดนั้นหมายถึงซูเฟย

อู๋เป่ยตอบว่า:" ฉันเป็นเพื่อของกษัตริย์ที่นี่ โปรดไปบอกกษัตริย์หญิงว่า เพื่อเก่าอู๋เป่ยมาเยี่ยม"

คนคนนั้นก็ไม่กล้วที่จะเมินเฉย แล้วได้บอกให้อู๋เป่ยรอสักครู่ แล้วเขาก็ได้รีบไปแจ้งข่าวด้านบนเขา

หลังจากผ่านไปครึ่งนาที ก็ได้มีสะพานสายรุ้งที่เป็นบรรไดลอยลงมาจากบนยอดเขา ในขณะเดียวกัน ก็ได้มีเสียงของซูเฟยดังออกมาจากบนเขา:"คิดไม่ถึงเลย คุณจะมาในโลกดึกดำบรรพ์"

ก่อนที่คนจะมาถึงนั้นเสียงของเธอก็ได้มาถึงก่อนแล้ว จากนั้นก็ได้ปรากฎร่างที่สวยงามขึ้นมา เธอนั้นคล้ายกับซูเฟยมาก แต่กริยาของเธอนั้นกับดูนิ่งสง่าเย็นชามาก

ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ยิ้ม แล้วยืนอยู่ที่ด้านหน้าของอู๋เป่ย

อู๋เป่ยยิ้มแล้วพูดว่า:"ผมควรที่จะทักทายคุณยังไงดีล่ะ?"

หญิงสาว:"แค่เรียกฉันว่าซูเฟยก็พอ"

เมื่อเธอพูดจบ จู่ก็ได้รู้สึกว่างเปล่า พูดว่า:"พลังลมปราณของคุณนั้นมีความพิเศษมาก " เมื่อพูดอันนี้เธอนั้นก็ได้ใช้มือของเธอนั้นวางอยู่บนไหล่ของอู๋เป่ย

เมื่อมือของเธอนั้นได้สัมผัสไปที่อู๋เป่ย ใบหน้าสวยๆของเธอก็ได้ซีดลง ทันใดนั้นเธอก็ได้คุกเข่าลงบนพื้น:"หม่อนฉันคาราวะพระบุตรศักดิ์สิทธิ์!"

อู๋เป่ยตกใจ เขานั้นคิดไม่ถึงเลยว่าตัวตนการเป็นพระบุตรศักดิ์สิทธิ์จะมีอำนาจมากขนาดนี้ เขานั้นก็ได้รีบเข้าไปพยุงตัวซูเฟยลุกขึ้นมา แล้วพูดว่า:" ผมกับคุณเป็นเพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้"

ซูเฟยนั้นมีสีหน้ามึนงง แล้วพูดว่า:"พระบุตรศักดิ์สิทธิ์ ท่านเป็นผู้ที่สูงศักดิ์ดำลงอยู่ในโลกดึกดำบรรพ์ ซูเฟยนั้นไม่กล้าที่จะไม่ทำคำนับ"

อู๋เป่ย:"ผมพึ่งมาที่โลกดึกดำบรรพ์เมื่อวานนี้เอง แล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะมาเป็นพระบุตรศักดิ์สิทธิ์ด้วย"

ซูเฟย:"พระบุตรศักดิ์สิทธิ์นั้นมีฐานะที่สูงส่ง สามารถมาอยู่ในตำหนักจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้"

ใจของอู๋เป่ยสั่นไหว:"ตำหนักจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หรอ? ที่นั่นคือที่ประทับของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ