บัดนี้อู๋เป่ยเป็นเจ้าแห่งสามแคว้นในมือมีทหารกว่าสามแสนนาย แคว้นหลงกั๋วย่อมต้องเกรงใจเขา
อู๋เป่ยมองไปยังทูตผู้นั้น คนคนนี้อายุประมาณห้าสิบกว่าปีพลังยุทธ์ไม่สูงนักแต่กลับชำนาญการพูดโน้มน้าว
“ใต้เท้าโจว ที่ท่านมามีสิ่งใดต้องการชี้แนะหรือไม่?” อู๋เป่ยถาม
โจวกุยยิ้มตอบ “ท่านแม่ทัพใหญ่ ฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยจะแต่งตั้งท่านเป็นไท่ชิงหวาง!”
อู๋เป่ยได้ฟังก็หัวเราะออกมา : “ไท่ชิงหวาง? สามแคว้นแห่งแดนไท่ชิงนี้เป็นฉันที่ใช้ชีวิตแลกมาแล้วเกี่ยวอะไรกับแคว้นหลงกั๋วกัน?”
โจวกุย “ท่านแม่ทัพใหญ่ เบื้องหลังของแคว้นหลงกั๋วนั้นคือต้าเทียนจุน ในอนาคตแคว้นหลงกั๋วย่อมรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่ง ควบคุมแผ่นดินคุนหลุนไว้ในมือ ยอมสวามิภักดิ์เสียแต่ตอนนี้มีแต่ข้อดีมิมีข้อเสีย”
“ขอบคุณ แต่ฉันไม่มีความไม่สนที่จะเข้าร่วมกับแคว้นหลงกั๋ว หากแคว้นหลงกั๋วต้องการดินแดน เช่นนั้นก็ส่งทหารมาสู้กับกองทัพปีศาจหมาป่าของฉัน” เขากล่าวเสียงเรียบ
โจวกุยสีหน้าไม่เปลี่ยน “ท่านแม่ทัพใหญ่ สถานการณ์ในตอนนี้เผ่าปีศาจนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ ที่สำคัญตอนนี้ก็คือเผ่าเทพ พวกเราได้ข่าวมาว่าเผ่าเทพส่งยอดฝีมือมาไม่น้อย ต้องการก่อตั้งแคว้นเทพที่แดนคุนหลุน หากเป็นเช่นนี้จริง แคว้นไท่ชิงย่อมต้องรับศึกหนักเป็นแน่ แต่หากไท่ชิงยอมเข้าร่วมกับหลงกั๋วเรื่องเช่นนี้ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น”
อู๋เป่ย : “จริงหรือ? ถ้าจำไม่ผิดละก็ที่นี่ก่อนหน้านี้แคว้นหลงกั๋วไม่เคยมีผู้สำเร็จราชการใช่หรือไม่? หากกองทัพใหญ่เผ่าปีศาจมาเมื่อไหร่ คนของพวกเจ้าอยู่ที่ไหนกัน? เคยสู้กับเผ่าปีศาจหรือไม่?”
โจวกุย : “ “วันนี้กับวันนั้นไม่เหมือนกัน หลงกั๋วกำลังสะสมความแข็งแกร่ง เตรียมที่จะโจมตีกองทัพปีศาจหมาป่า”
“เช่นนี้นี่เอง” อู๋เป่ยกล่าวเสียงเรียบ “ไม่ทราบว่าจะลงมือเมื่อไหร่หรือ? เดิมทีอยากที่จะยึดค่ายเผ่าปีศาจ ในเมื่อพวกนายมีแผนการนี้ เช่นนั้นฉันขอมอบโอกาสนี้ให้แก่พวกนายแล้วกัน”
โจวกุยกลอกตาไปมา : “อันนี้นี้หรือ ยังอยู่ระหว่างวางแผน”
อู๋เป่ยส่งเสียงในลำคอหนักๆ : “นายกลับไปบอกแก่จักรพรรดิแคว้นหลงกั๋ว จากนี้ไปดินแดนเซียนไท่ชิงเป็นอาณาเขตของลัทธิเซียนไท่ชิง คนนอกอย่าได้คิดสอดมือ!”
ใบหน้าของโจวกุยเข้มขึ้นเล็กน้อย : “ท่านแม่ทัพหลี่ แน่ใจหรือที่จะเป็นศัตรูกับแคว้นหลงกั๋ว?”
อู๋เป่ยกล่าวเสียงเรียบ : “หากฉันต้องการเป็นศัตรูกับแคว้นหลงกั๋วแล้ว นายย่อมไม่มีโอกาสมายืนคุยอยู่ตรงนี้กับฉันหรอก”
โจวกุยรู้ว่าหากยังโน้มน้าวต่อไปคงไม่ได้ผลอะไร เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ : “เช่นนั้นก็ขอลาก่อน หวังว่าท่านแม่ทัพหลี่จะไตร่ตรองให้ดี”
หลังจากกุยโจวจากไป อู๋เป่ยพูดกับอวิ๋นซีว่า : “การปรากฏตัวของโจวกุยผู้นี้ถือว่าได้เตือนสติฉันพื้นที่ของดินแดนไท่ชิงทั้งเจ็ดรัฐนี้ไม่ถือว่าเล็กเลย มรดกที่มีมาอย่างยาวนาน วัฒนธรรมประเพณีคล้ายคลึง หากสร้างมีการโลกเซียน ไม่แน่ว่าก็อาจสามารถสืบทอดสถานะโลกเซียนได้”
อวิ๋นซี : “แม้ไม่สามารถสืบทอดตำแหน่งโลกเซียนได้ ก็ยังสามารถอยู่ยังที่ดินแดนคุนหลุนได้เช่นเดิม เดิมทีดินแดนเซียนไท่ชิงก็มีความเกี่ยวข้องกับอาณาเขตของลัทธิเซียนไท่ชิง จากนี้ก็สามารถพึ่งพิงลัทธิเซียนไท่ชิงได้”
อู๋เป่ย : “จุดนี้ทำได้ไม่ยาก ฉันไปบอกกับอาจารย์ทวดสักหน่อยว่าให้ลัทธิเซียนไท่ชิงเป็นอาณาเขตพื้นที่ของลัทธิเซียน”
อวิ๋นซี : “เมื่อถึงเวลา นายก็สามารถ พึ่งพาเหล่ามนุษย์หมาป่าให้กลายร่างเป็นนักรบแล้วเข้าควบคุมเจ็ดรัฐ และซวนเป่ย นายก็จะเป็นจักรพรรดิโลกเซียนคนแรก”
อู๋เป่ย : “ฉันจะเป็นจักรพรรดิโลกเซียนหรือไม่นั้นไม่สำคัญ เจ็ดรัฐแห่งไท่ชิงต้องการเพียงความมั่นคงพวกเขาจะต้องรวมเป็นหนึ่งเดียว ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าเผ่าปีศาจจะบุกรุกมาอีกครั้ง เจ็ดรัฐก็ยังสามารถต่อต้านไหว”
รอเพียงสถานการณ์ของทั้งสามรัฐมั่นคงแล้ว อู๋เป่ยก็จะบุกเข้ายึด คังโจว เซียวโจว และกวนโจว อย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้อู๋เป่ยเข้าควบคุมดินแดนทั้งหกรัฐในเจ็ดรัฐ
มีทหารอย่างน้อยหนึ่งแสนนายประจำการอยู่ในหกรัฐนี้เพื่อป้องกันการรุกรานของกองทัพปีศาจตลอดเวลา และท้ายที่สุดอู๋เป่ยก็ยังคงต้องการยึด จงโจว
เผ่าปีศาจในจงโจวนั้นมีจำนวนเยอะที่สุด อีกทั้งยังมีค่ายเผ่าปีศาจอีกด้วย หากค่ายปีศาจแห่งนี้ไม่แตกเช่นนั้นเผ่าปีศาจก็จะไม่มีวันหยุดรุกรานเจ็ดรัฐ
ที่จริง ค่ายเผ่าปีศาจในตอนนี้กำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย หนึ่งคือบ่อกลั่นปีศาจถูกทำลาย ราชาปีศาจอีกสามท่านก็สิ้นชีพ ทั้งยังสูญเสียมนุษย์หมาป่าไปหลายแสนคน ไม่สามารถที่จะสร้างมนุษย์หมาป่าได้อีกแต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือครรภ์ปีศาจก็หายไป!
เผ่าปีศาจตอนนี้ตกอยู่ในความวุ่นวาย ทั้งยังสูญเสียพื้นที่ไปหลายรัฐแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรฉันได้ เหตุเพราะพวกเขาไม่สามารถส่งนักรบมนุษย์หมาป่าออกมาได้มากกว่านี้แล้ว นักรบมนุษย์หมาป่าที่เหลือกว่าล้านนายตอนนี้ถูกสั่งให้เฝ้าที่ค่ายเผ่าปีศาจทั้งหมดเพื่อป้องกันคนเผ่าพันธุ์มนุษย์ของทั้งหกรัฐบุกโจมตีสังหาร
เวลานี้ ราชาหมาป่ากำลังนั่งอยู่ในตำหนักใหญ่ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง เหล่าแม่ทัพปีศาจด้านล่างต่างก้มหัวไม่เอ่ยวาจาใด
ราชาหมาป่าพูดด้วยเสียงทุ้ม : “พวกนายว่า ตอนนี้ควรทำเช่นไรดี?”
อู๋เป่ย : “เทพอสูรแล้วอย่างไร? บอกความจริงนายอย่างหนึ่ง ที่จริงแล้วอาจารย์ของฉันคือต้าเต้าจวินพยัคฆ์มังกร พวกนายเผ่าปีศาจหมาป่าหากไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ฉันจะได้ขอให้อาจารย์มาสังหารเสีย!”
ราชาหมาป่าตกตะลึง ชื่อเสียงของต้าเต้าจวินพยัคฆ์มังกร เขาย่อมเคยได้ยิน เทพอสูรของตนก็มิใช่คู่ต่อสู้ด้วยได้จริงๆ
เขาสูดหายใจลึกๆ แล้วตอบว่า : “ได้ ฉันขอสู้กับนายสักตั้ง!”
อู๋เป่ย : “หากนายพ่ายแพ้ จงเหลือมนุษย์หมาป่าไว้ที่นี้ทั้งหมด จากนั้นนำผู้ใต้บังคับบัญชาของนายไสหัวออกไปจากดินแดนคุนหลุนซะ”
ราชาหมาป่า : “หากเป็นนายที่แพ้เล่า?”
อู๋เป่ยหัวเราะพลางตอบ : “หากฉันพ่ายแพ้ ย่อมเป็นไปตามที่นายต้องการ”
ราชาหมาป่าขบฟันแล้วตอบ : “ได้!”
สิ้นคำ เขาก็ปลดปล่อยร่างที่แท้จริงออกมา กลายเป็นหมาป่ายักษ์ตนหนึ่ง ทางด้านอู๋เป่ยก็ปลดปล่อยร่างที่แท้จริงออกมาเปลี่ยนเป็นยักษ์ตนหนึ่งสูงกว่าพันเมตรเพื่อเผชิญหน้ากับหมาป่ายักษ์
เสียงคำรามดังก้อง หนึ่งคนหนึ่งหมาป่าต่างเริ่มต่อสู้กันกลางอากาศ อู๋เป่ยใช้วิชาหมัดกระบวนท่าหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเจ็ดการเคลื่อนไหว แต่ล่ะท่าล้วนมีพลังการทำลายล้าง
“บูม!”
หมาป่าตัวใหญ่กระโจนและถูกอู๋เป่ยต่อยที่คาง หมาป่าตัวใหญ่หอนคร่ำครวญออกมาและถอยกลับไป อู๋เป่ยก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จับขนรอบคอของหมาป่าด้วยมือซ้าย และชกมันอย่างแรงด้วยหมัดขวาของเขา
“บูม บูม บูม!”
เพียงแค่สามหมัดเท่านั้น ราชาหมาป่าก็เริ่มร้องขอชีวิตเสียแล้ว “ท่านจักรพรรดิ์มนุษย์โปรดไว้ชีวิต!” ทันทีที่อู๋เป่ยออกหมัดต่อย เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอู๋เป่ย ท่านนี้คือจักรพรรดิ์มนุษย์อย่างแน่นอน!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...