ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1615

ก่อนที่จะมาถึงหอคอยชั่วนิรันดร์ บังเอิญมีคนผู้หนึ่งถูกพลังผลักออกมาจากประตู ทำให้เกิดพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่รอบตัวเขา และในช่วงเวลาที่ผู้อื่นกำลังลังเล จางจุนได้พยายามบีบตัวเข้าไปในหอคอยแล้ว

เมื่อเห็นมีคนแทรกเข้าไปก่อน เสียงของคนหลายคนดังขึ้นมาด้วยความโกรธ “เหตุใดเจ้าถึงไม่เข้าแถว?”

แต่เสี้ยววินาทีหลังจากนั้น พวกเขาหุบปากลงในทันใด เนื่องจากจางจุนสามารถข้ามผ่านประตูไปได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเกิดแสงสว่างขึ้นบนชั้นเก้า ของหอคอยชั่วนิรันดร์!

“อะไรกัน! ชั้นที่เก้า! เขาสามารถขึ้นไปถึงชั้นที่เก้า ได้เลยงั้นเหรอ? พลังยุทธ์ของเขาอยู่ระดับไหน เซียนผู้เที่ยงแท้งั้นเหรอ? หรือว่าต้าหลัวครึ่งก้าว?”

ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก และไม่ไกลจากตรงนั้นก็มีคนรีบบินไปยังวังเซียนนิรันดร์เพื่อแจ้งเรื่องนี้ให้เจ้าสำนักได้รับรู้!

มีคนขึ้นไปถึงชั้นที่เก้าของหอคอยชั่วนิรันดร์ เรื่องนี้เป็นที่น่าตกใจสำหรับแดนเซียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากตอนนั้นมรรคาจารย์ชั่วนิรันดร์ก็ไปถึงแค่ชั้นที่เก้าเท่านั้น!

และในตอนนี้ จางจุนเดินทางมาถึงชั้นที่เก้าของหอคอยชั่วนิรันดร์แล้ว รอบๆ ของเขามีแสงสีเงินส่องมา ห่างจากเขาประมาณพันกว่าเมตรมีร่างของคนผู้หนึ่งยืนอยู่อย่างเงียบสงบ

แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปมากกว่าพันเมตร แต่จางจุนก็สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันแข็งแกร่งของอีกฝ่าย คนผู้นี้มาจากยุคใดยุคหนึ่ง และเป็นบุคคลซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น การดำรงอยู่เช่นนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งยุค!

จางจุนเคยอยู่ชั้นที่ 7 มาก่อน และรู้ว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับการดำรงอยู่แบบไหน เขาก้าวเท้าออกไปหาอีกฝ่าย 900 ก้าว 800 ก้าว ตอนแรกแรงกดดันที่ได้รับมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เวลานี้แรงกดดันดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

500 ก้าว 300 ก้าว 100 ก้าว!

ชาติที่แล้ว จางจุนอยู่ห่างจากผู้แข็งแกร่งแห่งยุค 57 ก้าว! เขารู้ว่าครั้งนี้เขาสามารถก้าวข้ามชาติที่แล้วของตนเองได้ เพียงแต่สามารถก้าวไปได้ไกลแค่ไหน สามารถเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามได้หรือไม่ เรื่องนี้เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

80 ก้าว 70 ก้าว 60 ก้าว เวลานี้แรงกดดันนั้นยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก แต่เขายังคงแน่วแน่และยืนกรานต่อไป 59 ก้าว 58 ก้าว 57 ก้าว!

ไม่นานเขาก็สามารถทำลายสถิติของชาติที่แล้วไปได้ เขาก้าวไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง 40 ก้าว 30 ก้าว 20 ก้าว!

เวลานี้จางจุนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของผู้แข็งแกร่งแห่งยุค อีกฝ่ายได้แอบเล็งเป้ามาที่เขาแล้ว หากเขาก้าวออกไปด้านหน้าแม้เพียงครึ่งก้าว ผู้แข็งแกร่งแห่งยุคจะลงมือเป็นแน่

ในตอนที่ร่างอวตารของจางจุนกำลังจะลงมือ อู๋เป่ยในดินแดนวิญญาณห้าธาตุได้มาใช้ชีวิตอยู่ในลานเล็กๆ ข้างป่าซิ่งได้ระยะหนึ่งแล้ว ทุกวันเขารับประทานอาหารแสนอร่อย เฉินรั่วเสียนและเสือน้อยต่างอ้วนขึ้น แต่ยังคงไม่อาจหยุดความดึงดูของอาหารแสนอร่อยได้

แน่นอนว่าสุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ตัวนั้นมาทุกวัน และกินอาหารสามมื้อที่แสนอร่อยในแต่ละวันโดยไม่ซ้ำกัน

แน่นอนว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ได้ทำอาหารแต่เพียงอย่างเดียว พลังยุทธ์ของเขาเองก็พัฒนาขึ้นด้วย เขาไม่เพียงแค่ดูดซับพลังวิญญาณห้ารูปแบบ แต่ร่างกายของเขายังสมบูรณ์ไปด้วยธาตุทั้งห้าด้วย และทำให้เขาไปถึงคัมภีร์อมตะระดับเจ็ดได้อย่างราบรื่น หยดเลือดคืนร่าง!

หยดเลือดคืนร่างนี้ เป็นอาณาจักรระดับสูงอันล้ำลึก ตราบใดที่วิญญาณยังไม่สูญสลาย แม้ว่าเหลือเพียงเลือดหยดเดียวก็สามารถหลบหนีเอาตัวรอดออกมาได้ สามารถสร้างร่างกายที่สมบูรณ์กลับมาได้ มันเป็นเหมือนกับโคลนเซลล์ในโลกยุคใหม่ แต่สิ่งที่เหนือชั้นไปกว่านั้นก็คือ ร่างกายที่ฟื้นคืนกลับมาจากหยดเลือดคืนร่าง สามารถสืบทอดทุกอย่างในร่างเทพได้ ขอแค่ได้รับทรัพยากรที่เพียงพอ ในระยะเวลาอันสั้นก็สามารถฟื้นคืนพลังยุทธ์ดั้งเดิมกลับมาได้

ด่านนี้ถือเป็นด่านที่ยากมาก แต่เนื่องจากอู๋เป่ยฝึกฝนคัมภีร์สายเลือดสวรรค์ แถมยังสามารถไปถึงอาณาจักรแห่งเลือดบรรพบุรุษ ประกอบกับประโยชน์ของพลังวิญญาณห้ารูปแบบ ในที่สุดวันนี้เขาก็บุกทะลวงไปได้ด่านนี้ไปได้สำเร็จ และก้าวไปถึงอาณาจักรหยดเลือดคืนร่าง!

อาณาจักรหยดเลือดคืนร่าง ในทางกลับกัน เขาสามารถทะลวงคัมภีร์สายเลือดสวรรค์อีกครั้งเพื่อก้าวขึ้นไปยังอาณาจักรเลือดสวรรค์ได้

เขาฝึกฝนอย่างหนักตลอดทั้งคืน ในตอนที่ดวงอาทิตย์พ้นขอบฟ้า เขารู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเขากลายเป็นเลือดสวรรค์ เลือดสวรรค์เป็นแสงประเภทหนึ่ง เป็นแสงอันสุกใส มีสีสันสวยสดอย่างยิ่ง ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของแสง เลือดสวรรค์สามารถไหลเวียนไปสู่ทุกส่วนในร่างกายได้อย่างง่ายดาย เป็นสารอาหารแก่เซลล์ต่างๆ แถมเลือดสวรรค์ยังสามารถเชื่อมต่อกับเทพหยาง ทำให้สามารถบำรุงเทพหยางของเขาได้

ไม่นานพลังวิญญาณห้ารูปแบบจำนวนมากก็ถูกเขาดูดซับเข้าไป ทั้งหมดเข้าไปในเลือดสวรรค์ และเลือดของเขาก็กลายเป็นเลือดสวรรค์ห้ารูปแบบ!

ในช่วงเวลาที่อู๋เป่ยทะลุทะลวง มันก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของจางจุน

“บู้ม!”

ในเวลานั้น ความคิดอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาในทะเลแห่งการรับรู้ของเขา ราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่า แต่เขายังไม่ล้มลง เขาพยายามเดินออกไปอีกสองก้าว

ผู้แข็งแกร่งแห่งยุคที่น่าสะพรึงกลัว เขากลายเป็นลำแสง ปล่อยหมัดออกมาสู่ร่างกายของจางจุน

ในวินาทีนั้น ทันใดนั้นวิธีการใช้ฟ้าฟาดก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของจางจุน ร่างของเขากลายเป็นสายฟ้าและพุ่งออกไปทันที

??

เฉินรั่วเสียน “พี่ซวนเป่ย พวกเราอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว ยังต่ออยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน?”

อู๋เป่ย “เราจะไปจากที่นี่วันนี้”

ทันใดนั้น สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู มันจ้องมาที่อู๋เป่ยโดยไม่กะพริบตา “เจ้าบอกว่าเจ้าจะไปงั้นหรือ?”

อู๋เป่ย “ใช่ เหล่าหวง ข้ารบกวนเจ้ามานานมากแล้ว ต้องขอโทษจริงๆ วันนี้ข้าจึงตัดสินใจที่จะจากไป”

สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ “การที่เจ้าจะจากไปเช่นนี้ มันไม่ไร้เยื่อใยเกินไปหน่อยหรือ!”

อู๋เป่ยกลอกตาขาว คิดในใจว่าตนเองมีความสัมพันธ์อะไรกับสุนัขตัวนี้?

เขาพ่นลมหายใจออกมา จากนั้นพูดว่า “เหล่าหวง ข้ามีธุระจริงๆ จำเป็นต้องจากไป”

สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่เห็นว่าอู๋เป่ยต้องการไปจริงๆ เขาลังเลอยู่เล็กน้อย “อีกสองสามวันเจ้าค่อยไปได้ไหม ข้าจะเชิญเจ้าไปเป็นแขกของบ้านข้า”

อู๋เป่ยรีบตอบกลับไปว่า “ข้าได้ยินจีซือซานบอกว่า บ้านของเจ้ามีผู้แข็งแกร่งอยู่มากมาย ข้าคิดว่าข้าไม่ไปจะดีกว่า เพราะไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่อาจรุกรานผู้ใดได้”

สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น “มีข้าอยู่ ใครจะกล้ารังแกเจ้า? ไม่ต้องกลัว เจ้าไปอยู่ในคอกสุนัขของข้าสักสองวัน”

อู๋เป่ยหมดคำจะพูด อยู่ในคอกสุนัข?

แต่เขารีบตอบกลับไปว่า “เหล่าหวง ความคิดของเจ้าน่าสนใจ พอดีเลย ข้าเตรียมอาหารไว้สองสามอย่าง อยากจะเชิญเจ้ามาร่วมทานด้วยกัน”

ดวงตาคู่นั้นของสุนัขสีเหลืองตัวใหญ่เปล่งประกาย “เช่นนั้นเจ้าก็ตามข้ามาเดี๋ยวนี้เลย!”