แดนเซียนนิรันดร์ ในหอคอยชั่วนิรันดร์ หลังจากที่จางจุนได้ตราประทับชั่วนิรันดร์มาครอบครอง เขารู้สึกว่าร่างกายและจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้น สูดลมหายใจพร้อมถามออกมาว่า “ข้าอยู่ได้แค่ในชั้นนี้งั้นหรือ?”
หอคอยชั่วนิรันดร์ตอบ “รอให้เจ้าแข็งแกร่งกว่านี้เสียก่อน เจ้าก็สามารถเข้าไปที่ชั้นสิบได้ ที่นั่นจะมีผู้แข็งแกร่งแห่งยุครอให้เจ้ามาท้าทาย แน่นอนว่ารางวัลบนชั้นที่สอบของหอคอยนั้นล้ำค่าเสียยิ่งกว่าตราประทับชั่วนิรันดร์”
จางจุน “ขอบคุณมาก”
จากนั้นเขาก็เดินออกมาจากหอคอยชั่วนิรันดร์ ทันทีที่ออกมาเขาก็ต้องตะลึงงัน เขาเห็นชายผู้สง่างามอายุ 30 ต้นๆ ยืนอยู่ด้านหน้าหอคอย เขาสวมเสื้อคลุมสีทอง สวมมงกุฎสีดำ มีอักขระลึกลับอยู่บนมงกุฎ
คนผู้นี้ก็คือผู้นำของวังเซียนนิรันดร์ จางเต้ากุย
จางเต้ากุยมองมาที่จางจุน เขาอดไม่ได้ที่จะตกใจ ความทรงจำเก่าๆ ลอยขึ้นมาในหัว เขาถามออกมาว่า “เจ้าคือจางจุน?”
ตอนนี้รูปลักษณ์ของจางจุนนั้นเหมือนกับชาติก่อน ดังนั้นจางเต้ากุยจึงจำเขาได้ทันทีที่ได้เห็น
จางจุนประสานมือทำความเคารพให้จางเต้ากุย “ข้าน้อยคือจางจุน คารวะท่านเจ้าวัง!”
เหล่าผู้คนซึ่งอยู่รอบๆ เงียบไปชั่วขณะ จากนั้นก็ส่งเสียงดังโวยวายขึ้นมาทันใด
“อะไรกัน! เขาคืออัจฉริยะแห่งยุคสมัยจางจุน เขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ เห็นกันอยู่ว่าเขาตายไปแล้ว เรื่องนี้วังเซียนเป็นผู้ประกาศออกมาเอง เหตุใดเขาจึงมาปรากฏตัวที่นี่ แถมยังสามารถเข้าไปในหอคอยชั่วนิรันดร์ชั้นที่เก้า?”
แม้ว่าจางเต้ากุยจะรู้สึกตกใจ แต่เนื่องจากเขาคือเจ้าแห่งวังเซียน เขาจึงถามออกมาว่า “จางจุน ข้าจำได้ว่าเจ้าตายไปแล้ว เหตุใดเจ้าจึงมาปรากฏตัวที่นี่?”
จางจุนตอบกลับไปอย่างนิ่งสงบ “ตอนนั้นข้าได้ฝึกฝนถึงอาณาจักรหยดเลือดคืนร่าง แม้ว่าข้าจะถูกคนสังหารไปแล้ว แต่เลือดหยดหนึ่งของข้านั้นไปติดอยู่บนร่างกายของทาสรับใช้ผู้หนึ่ง ต่อมาข้าได้ใช้เลือดหยดนั้นในการฟื้นคืนชีวิตกลับมา เพียงแต่กระบวนการในการฟื้นคืนค่อนข้างเชื่องช้า จนกระทั่งถึงวันนี้ ข้าถึงเดินทางกลับมายังวังเซียนนิรันดร์ได้สำเร็จ”
จางเต้ากุยตกใจ “เจ้าจะบอกว่า ตอนนั้นมีคนทำร้ายเจ้า? เขาเป็นใคร?”
จางจุนตอบกลับไป “ท่านเจ้าวัง ไม่ว่าเขาจะเป็นใครข้าก็ไม่มีทางพูดออกมา เพราะข้าจะเป็นคนท้าทายเขาด้วยตัวเองเพื่อชำระล้างความอับอายที่เกิดขึ้น!”
จางเต้ากุยพยักหน้า “ดี ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ข้าผู้นี้จะเป็นคนสนับสนุนเจ้าเอง ข้าจะยืนอยู่ข้างเจ้า!”
จางจุนไม่มีทางพูดจาเหลวไหลกับเรื่องพวกนี้ เขาเลือกที่จะเชื่อมั่น
ผู้เฒ่าในชุดสีม่วงซึ่งอยู่ด้านข้างผู้หนึ่งถามออกมาว่า “จางจุน ตอนที่เจ้าขึ้นไปถึงชั้นที่เก้า เจ้าได้เห็นผู้แข็งแกร่งท่านนั้นหรือไม่?”
จางจุน “ข้าไม่เพียงแต่ได้เห็นเขาเท่านั้น แต่ข้ายังรับกระบวนท่าของเขาไปสิบกระบวนท่า”
ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขารับกระบวนท่าของอีกฝ่ายไปสิบกระบวนท่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร!
ดวงตาคู่นั้นของจางเต้ากุยเปล่งประกาย จู่ๆ เขาก็เดินไปด้านหน้าหอคอยชั่วนิรันดร์ ก้าวเท้าเข้าไป ทุกคนรู้ดีว่าเขากำลังเข้าไปเพื่อขอคำยืนยัน
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาที จางเต้ากุยเดินออกมา เขามองไปที่จางจุนด้วยแววตาอันซับซ้อน จากนั้นหันไปพูดกับทุกคนว่า “จางจุนรับกระบวนท่ามาสิบกระบวนท่าจริงๆ!”
ราวกับว่าฉากดังกล่าวจะระเบิดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงกรีดร้อง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจและความเหลือเชื่อ
“สิบกระบวนท่าเลยนะ! ไหนบอกว่าในตอนนั้นอาจารย์ทวดนิรันดร์รับได้เพียงแค่หนึ่งกระบวนท่าไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ นี่มันก็หมายความว่า ตอนนี้เขาแข็งแกร่งกว่าอาจารย์ทวดนิรันดร์แล้วงั้นหรือ?”
“พระเจ้า! วังเซียนนิรันดร์กำลังจะผงาดขึ้น อัจฉริยะที่ก้าวข้ามบรรพบุรุษได้ถือกำเนิดแล้ว!”
จางเต้ากุยสะบัดแขนเสื้อ เขาและผู้อาวุโสอีกสองสามคน รวมถึงจางจุนหายตัวไปในทันใด วินาทีถัดมา พวกเขาปรากฏตัวอยู่ในพระราชวัง ที่แห่งนี้คือห้องโถงนิรันดร์ สถานที่ซึ่งผู้คนในวังเซียนนิรันดร์ใช้ประชุมและหารือกันใน
จางเต้ากุยพูดขึ้นมาว่า “จางจุน เจ้าจะไปท้าทายกับศัตรูของเจ้าเมื่อใด?”
จางจุนตอบกลับมาว่า “คิดว่าตอนนี้เขาน่าจะรู้ว่าข้ากลับมาแล้ว ปล่อยให้เขาหวาดกลัวไปสักระยะ ท่านเจ้าวัง ต่อไปข้าจะก้าวเข้าสู่อาณาจักรเซียน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก หวังว่าวังเซียนนิรันดร์จะให้การสนับสนุนข้า”
จางเต้ากุยยิ้มออกมา “เจ้าคือความหวังของวังเซียน ต่อให้ต้องขายวังเซียนทิ้งไป พวกเราก็จะสนับสนุนเจ้าไปจนถึงที่สุด!”
จางจุน “ขอบคุณมาก!”
หน้าห้องมีคอกสุนัขอยู่คอกหนึ่ง สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่พาอู๋เป่ยมาด้านหน้าคอกสุนัข “พื้นที่ค่อนข้างคับแคบ เจ้าคงทำได้เพียงนั่งอยู่ด้านนอกเท่านั้น”
อู๋เป่ยหันกลับมา ห่างจากเขาไม่ไกลมีกระท่อมอยู่หลังหนึ่ง ซึ่งมีพลังลึกลับเล็ดลอดออกมาจากกระท่อมหลังนั้น
เขายิ้มออกมาและพูดว่า “เหล่าหวง ข้ามาทำอาหาร จำเป็นต้องมาเตาและไฟ” ขณะที่พูดเขาก็เดินไปที่กระท่อม
เหล่าหวงตกใจและรีบพูดออกมาว่า “เข้าไปไม่ได้นะ!”
ทันทีที่เท้าของอู๋เป่ยข้ามธรณีประตู พลังลึกลับก็กวาดเข้ามาทั่วร่างกายของเขา ร่างกายของเขาหยุดนิ่งอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเท้าของเขาก็สัมผัสกับพื้นด้านในของกระท่อม
สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่แทบบ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ เขาพึมพำออกมาว่า “ไม่ใช่! ห้องของนายท่าน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดสามารถก้าวผ่านไปได้ เหตุใดเขาถึงเข้าไปได้?”
ในตอนนี้วัวดำเดินเข้ามา เขายังคงเคี้ยวเมล็ดแอปริคอตไว้ในปาก “เจ้าเด็กนั้นมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์การเป็นศิษย์ของนายท่าน ดังนั้นอุปสรรคทั้งหมดจึงไร้ผล”
สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ตกใจเป็นอย่างมาก “ผ่านคุณสมบัติการเป็นลูกศิษย์ของนายท่านงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้ นายท่านเป็นถึงหนึ่งในผู้แข็งแกร่งแห่งยุคที่แข็งแกร่งที่สุดเลยนะ!”
วัวดำ “ในโลกนี้มักมีผู้มีพรสวรรค์อยู่เสมอไม่ใช่หรือ?” พูดจบวัวดำก็หันหลังและค่อยๆ เดินจากไป
สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่รีบกระโดดตามอู๋เป่ยเข้าไปในห้อง “ข้าบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเจ้าห้ามแตะต้องสิ่งของซึ่งเป็นของนายท่านโดยพลการ สิ่งเหล่านี้ไม่อาจดูถูกได้ หากเจ้าสัมผัสมันสุ่มสี่สุ่มห้า มันอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของเจ้าได้......”
พูดได้เพียงครึ่งประโยค เหล่าหวงก็หุบปากในทันใด เนื่องจากอู๋เป่ยได้หยิบหนังสือเล่มหนึ่งจากชั้นวางหนังสือออกมาแล้ว เขาเปิดมันอ่านด้วยท่าทางสนุกสนาน
“นี่เจ้า......” สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ตกใจเป็นอย่างมาก
อู๋เป่ยหันมายิ้มให้เขา “เหล่าหวง หนังสือที่นายท่านของเจ้าเก็บไว้ที่นี่ไม่เลวเลยจริงๆ ข้าขออ่านก่อนนะ เดี๋ยวจะไปทำอาหารให้”
สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ไม่พูดอะไร มันนั่งอยู่บนพื้น จับจ้องการเคลื่อนไหวของอู๋เป่ย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...