เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1659

เทพเจ้าจระเข้อธิบายว่า "ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ เหล่าอ้าวนี้ไม่มีความสามารถอื่นใด เพียงสามารถเห็นความยุ่งเหยิงของกรรมระหว่างผู้คนได้"

อู๋เป่ยมีความประหลาดใจเล็กน้อย "อ่อ นายสามารถเห็นกรรมได้?"

ปีศาจเต่ายักษ์ "ถูกต้องแล้ว ในปีนั้นข้าน้อยได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าได้ชี้แนะ ดังนั้นข้าน้อยจึงสามารถเห็นกรรมได้"

อู๋เป่ยมีความลังเล ทำไมตัวเขาถึงมีความเกี่ยวข้องกับเจ้านายของมันขนาดนี้?

เขาถาม "เจ้านายของนายตอนนี้อยู่ที่ไหน?"

ปีศาจเต่ายักษ์ "เจ้านายของข้า ไปฟังธรรมที่ต้าเต้าจวินพยัคฆ์มังกรแล้ว"

อู๋เป่ยจู่ๆก็เกิดความคิดบางอย่าง "อ่อ เจ้านายของนายกับต้าเต้าจวินพยัคฆ์มังกรมีความสัมพันธ์อะไรกัน?"

ปีศาจเต่ายักษ์ "เจ้านายของข้า เป็นหนึ่งในศิษย์คนโปรดของเต้าจวิน"

อู๋เป่ยเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "เอาล่ะ ฉันจะปล่อยนาย แต่ว่าก็เหมือนกับเทพเจ้าจระเข้ ฉันต้องการผนึกข้อจำกัดในตัวนาย ป้องกันไม่ให้พวกนายกระทำความชั่วซ้ำ"

เมื่อได้ยินว่าไม่ตายแล้ว ปีศาจเต่ายักษ์ก็รีบพูด "ขอบพระคุณท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่เมตตา!"

เมื่ออู๋เป่ยกำลังผนึกข้อจำกัดที่ตัวของปีศาจเต่ายักษ์นั้น ก็บังเอิญพบลูกปัดเก้าสีในท้องของมัน ซึ่งมีขนาดใหญ่และแผ่พลังพุทธศาสนาที่เข้มข้นออกมา

จากนั้นเขาก็นำลูกปัดนั้นออกมา เมื่อไม่มีลูกปัดแล้วพลังของปีศาจเต่ายักษ์ก็ลดลงครึ่งนึงทันที มันจึงรีบพูดว่า "ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ สามารถคืนมันให้ผู้น้อยได้รึไม่?"

อู๋เป่ยตรวจสอบอยู่ครู่นึง เขาพูดเสียดสีว่า "ความสามารถที่มองเห็นกรรมได้ของนาย ก็พึ่งเจ้าลูกปัดนี้สินะ? พูดมา ไปขโมยลูกปัดนี้มาจากไหน?"

ปีศาจเต่ายักษ์เห็นว่าไม่สามารถปกปิดได้ มันพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้งว่า "ข้าน้อยนั่งฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าจริง หลังจากนั้นข้าก็ขโมยสมบัตินี้จากพระพุทธเจ้า ลูกปัดบัวเก้าสี ลูกปัดบัวเก้าสีนี้เป็นสิ่งที่ในอดีตพระพุทธเจ้าเคยใช้เพื่อขัดเกลาฝึกฝน เป็นสิ่งที่มีประโยชน์จริงๆ"

อู๋เป่ยเก็บลูกปัดบัวเก้าสีไว้แล้วพูดว่า "ในเมื่อขโมยมา ฉันจะหาโอกาสนำไปคืนพระพุทธเจ้าเอง"

ปีศาจเต่ายักษ์ยังคงอยากจะขอร้อง แต่ถูกอู๋เป่ยเตะเข้าที่ลำตัว เขาจึงไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงแล้ว

เมื่อลงผนึกข้อจำกัดเสร็จแล้ว อู๋เป่ยก็พูดว่า "นับตั้งแต่นี้ต่อไป ฉันต้องการให้พวกนายปกป้องประชาชนชาวไห่เจียงในนามของจักรวรรดิเทียนหวู่"

เหล่าวิญญาณต่างมองหน้ากันด้วยความสับสน เมื่อก่อนพวกมันล้วนกินมนุษย์ ตอนนี้กลับต่อปกป้องมนุษย์ จึงรู้สึกไม่คุ้นชินอยู่บ้าง

อู๋เป่ย "เข้าใจหรือไม่?"

"ขอรับ" ทั้งสองตอบรับอย่างรวดเร็ว

หลังการจำนนจากหนึ่งเต่าหนึงจระเข้แล้ว อู๋เป่ยก็กลับมาที่เรือรบ หันหัวเรือกลับแล้วมุ่งหน้าต่อไป เรือรบเพิ่งผ่านไปทางเหนือได้ไม่ไกลเท่าไหร่ก็พบกับปรากฏการณ์ประหลาดในทะเลตอนใต้ มีลำแสงสังหารที่รุนแรงสายหนึ่งมาจากทิศทางไหนก็ไม่รู้พุ่งมา

อู๋เป่ยรู้ได้ทันทีว่ามีผู้ที่แข็งแกร่งอยู่บริเวณนี้ อีกทั้งยังเป็นภัยพิบัติของผู้เที่ยงแท้โบราณ!

หลังเขาสั่งการเหล่าสนาบดีให้รออยู่ที่เดิม ก็สร้างสายฟ้าสายหนึ่ง ฟาดลงมาทำให้เอาชีวิตรอดจากภัยพิบัตินี้ได้

บนพื้นมหาสมุทร มีหญิงสาวสวมหน้ากากคนหนึ่งยืนอย่างภาคภูมิใจอยู่ มือขวาของเธอมียันต์ปากัวปรากฏขึ้นเพื่อต่อต้านกับการโจมตีของแสงสังหาร อย่างไรก็ตาม แสงสังหารนั้นยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และยันต์ปากัวก็ค่อยๆหม่นแสงลง อู๋เป่ยนั้นมองออกบุคคลนี้อย่างมากก็อยู่ในระดับผู้เที่ยงแท้โบราณรุ่นที่สาม ดังนั้นเขาเกรงว่าจะต้านแสงสังหารนี้ไม่ได้ เมื่อยันต์ปากัวถูกทำลายลง

เขาจึงแอบส่งเสียงไปถึงหญิงสาวว่า "แม่นาง ม่านพลังปากัวของเธอใช้ไม่ถูกต้อง ฉันจะส่งเคล็ดลับของปากัวให้ เธอลองใช้เปลี่ยนวิถีของม่านพลังดู"

พูดจบ เขาก็ส่งเคล็ดลับของปากัวไป หญิงสาวนั้นมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพียงฟังแค่ครั้งเดียว ยันต์ปากัวในมือก็มีแสงเจิดจ้าขึ้นทันที และจัดเรียงตัวขึ้นใหม่บนพื้นฐานนี้เป็นหกสิบสี่แฉก

แสงสังหารยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่อาจสามารถทะลุการป้องกันแฉกโดยกำเนิดนี้ได้ และในที่สุดก็ค่อยๆจางลง และหายไปในตอนสุดท้าย เมฆดำบนฟ้าสลายหายไป ร่างของหญิงสาวแกร่งไปมาเล็กน้อย ดูเหมือนภัยพิบัตินี้จะดึงพลังกายของเธอไปมากกว่าครึ่ง

แต่ว่า หญิงสาวคนนั้นลากสังขารที่เหนื่อยล้าของตนมาหาอู๋เป่ย เธอโค้งคำนับอย่างสุภาพ "ขอบคุณคุณชายที่ชี้แนะ"

อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม "ด้วยความยินดี ได้พบผู้เที่ยงแท้โบราณนั้นไม่ง่ายเลย ฉันดีใจมากๆ จึงสอดมือไปช่วยเธอ"

หญิงสาว "ขออนุญาตถามต้องเรียกคุณชายว่าอย่างไร?"

ผู้ศักดิ์สิทธิ์คือผู้ที่สามารถเอาชีวิตรอดจากความทุกข์ยากครั้งใหญ่ของราชวงศ์หยวน ดำรงอยู่และไม่ตาย หากผู้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ ไฟแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็จะลุกโซนตลอดไป ไม่มีวันดับลง ดังนั้น ผู้ศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นความหวังและอนาคตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ฝ่าทุกข์ภัยนับพันหมื่นไม่เหนื่อยล้า ไม่ถูกละเลยด้วยเหตุและผล อยู่ร่วมกับสวรรค์ ดำรงอยู่อย่างทรงพลังร่วมกับลัทธิเต๋า!

ผู้ศักดิ์สิทธิต่างกับเซียน สิ่งที่เซียนแสวงหาคือการบรรลุสภาวะชีวิตในเผ่าเซียน ผ่านการเปลี่ยนแปลงจากเทียนเซียน,ต้าหลัวจินเซียนและอื่นๆ ใกล้ชิดเผ่าเซียนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น ในทางกลับกัน ผู้ศักดิ์สิทธิ์แสวงหาความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์ตน และเพิ่มขีดจำกัดความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้ ผู้ศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งที่สุดในเผ่ามนุษย์ เป็นผู้บุกเบิก เป็นผู้นำ! สถานะของเขานั้นแน่นอนว่าสูงส่งกว่าจักรพรรดิมนุษย์!

อู๋เป่ยช่วยพยุงเธอลุกขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ไม่ต้องมากพิธี"

ราชาทะเลจีนใต้เงยหน้าขึ้นมองชายผู้ที่มีอำนาจผู้นี้แล้วพูดว่า "ข้าน้อยมู่เฉียนเสว่"

อู๋เป่ย "แม่นางมู่ คนที่ต้องการทำร้ายเธอมาจากที่ใดกัน?"

ราชาทะเลจีนใต้มู่เฉียนเสว่ตอบ "แคว้นหลงกั๋ว เผ่าเทพ กองกำลังขนาดใหญ่ในทะเล ต่างก็คงไม่อยากให้ฉันมีชีวิตอยู่"

อู๋เป่ย "นี้ก็หมายความว่าเธอเป็นภัยคุกคามมากพอต่อพวกเขา"

มู่เฉียนเสว่ "ฝ่าบาท ด้านหน้านี้อีกไม่ไกล คือเกาะที่ฉันอยู่อาศัย ท่านอยากไปที่นั้นหรือไม่?"

อู๋เป่ยมีเรื่องที่จะพูดคุยกับเธอพอดี จึงยิ้มแล้วพูดว่า "ได้สิ ต้องรบกวนแล้ว"

ทั้งสองมาถึงเกาะแห่งหนึ่งไม่ใหญ่ไม่เล็ก บนเกาะมีชาวประมงธรรมดาๆอาศัยอยู่ มีเมืองที่ไม่ใหญ่โตนัก ชานเมืองมีเมืองเล็กๆอยู่ เป็นที่ที่มู่เฉียนเสว่อาศัยอยู่ และมีบ้านหลังที่ธรรมดามาก

เมื่อมาถึงบ้านธรรมดาๆ ทันทีที่เข้าประตูไป สาวใช้คนหนึ่งก็เข้ามาทักทายและพูดด้วยรอยยิ้ม "พี่สาว พี่กลับมาแล้ว"

มู่เฉียนเสว่พยักหน้า "ฮงกั๋ว ไปชงชามานะ มีแขกมา"

สาวใช้ชื่อฮงกั๋วตอบรับและไม่นานกนำชามาเสริฟ

มู่เฉียนเสว่ "ฝ่าบาท โปรดอย่ารังเกียจที่บ้านฉันซอมซ่อ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ