อู๋เป่ยยิ้มเยาะ:“ศิษย์พี่ฉันพูดไว้ไม่มีผิด โอดะยูคาริไม่กล้าที่จะมาเหยียบเหยียนหลงแม้แต่นิด เพราะงั้นทำได้แค่ส่งลูกหลานของเขามาตรวจสอบ เขามาหาฉัน คงจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับลานก่อสร้างล่ะมั้งนะ”
สวีจี้เฟยยังไม่รู้ว่าฝั่งนั้นเกิดอะไรขึ้น เขาถามด้วยความอยากรู้:“น้องชาย ลานก่อสร้างเกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”
อู๋เป่ย:“พี่สาม เป็นคดีของกลุ่มศิลปะการต่อสู้ขั้นเทพ อภัยให้ด้วยที่ฉันพูดมากไม่ได้”
สวีจี้เฟยพยักหน้า:“เข้าใจแล้ว คดีของกรมศิลปะการต่อสู้ขั้นเทพสำหรับคนนอกแล้วต้องเก็บเป็นความลับ พี่น้องสนิทกันก็ไม่จำเป็นต้องบอกหรอก”
อู๋เป่ยพูดขึ้นมาอีก:“พี่สาม อีกเดี๋ยวเจอกัน พี่จะไปด้วยกันกับผมไหม?”
สวีจี้เฟยถาม:“การเดินทางครั้งนี้หรือว่ามีอะไรน่าสนใจงั้นเหรอ?”
อู๋เป่ยพยักหน้า:“เบื้องหลังของโอดะฟุกุคนนี้คือโอดะยูคาริ คนคนนี้คือมารปีศาจฆ่าคน ในปีนั้นที่รุกรานประเทศเราฆ่าผู้บริสุทธิ์ตายไปหลักหมื่นเลยล่ะ”
ดวงตาสวีจี้เฟยเผยให้เห็นความสั่นไหว:“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ งั้นฉันจะไปเจอลูกหลานเขาสักหน่อย!”
ถังจื่อยี่:“อีกฝ่ายบอกว่าถ้าสามารถเจอได้แล้วล่ะก็ คืนนี้หนึ่งทุ่ม เขาจะนัดเจอนายที่’ที่ทำการสมาคมซากุระ’”
อู๋เป่ย:“ที่ทำการสมาคมซากุระนี่คือที่ไหน?”
ถังจื่อยี่:“เป็นที่ที่รวมตัวของคนญี่ปุ่นน่ะ อยู่ที่ถนนคนเดินญี่ปุ่น ถนนคนเดินญี่ปุ่นนั้นเต็มไปด้วยคนญี่ปุ่นน้อยมากที่จะมีคนเหยียนหลงไปที่นั่น”
อู๋เป่ย:“เธอบอกเขาไป ฉันจะไปตามนัดให้ตรงเวลา”
ถังจื่อยี่พยักหน้า:“โอเค ฉันจะบอกเค้าเดี๋ยวนี้”
ถังจื่อยี่โทรไปหาเบอร์หนึ่ง แต่ว่าก็ยังไปไหน เห็นว่าถึงเวลากินข้าวแล้ว เธอก็เลยเรียกพ่อครัวขึ้นมาทำอาหารไม่กี่อย่างให้อู๋เป่ยและสวีจี้เฟย
ไม่กี่วันมานี้สวีจี้เฟยอยู่กับอู๋เป่ยตลอด ทว่าเขาเป็นคนที่มีพลังจักษุ พอเห็นว่าถังจื่อยี่ยังไม่ไปไหน ก็รีบพูดขึ้นมา:“จู่ๆฉันก็นึกขึ้นได้ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ เอาแบบนี้ละกัน เดี๋ยวฉันจะมาอีกทีตอนเย็น”
ไม่รอให้อู๋เป่ยพูด เขาก็ออกไปทันที
ถังจื่อยี่ก็พูดขึ้นมา:“พี่สามนี่จริงๆเลย ข้าวก็ทำเสร็จแล้ว เขากลับไปซะได้”
ในใจของอู๋เป่ยนั้นคิดว่าเป็นเพราะเธอนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ช่วงบ่าย หลังจากที่ทั้งสองคนกินข้าวเสร็จ ถังจื่อยี่ก็หยิบเอกสารออกมาให้อู๋เป่ยเซ็น เขาดูคร่าวๆ นี่เป็นข้อตกลงผู้ร่วมหุ้นของเมืองมรกต
ตามข้อตกลงอู๋เป่ยลงทุนไปสามหมื่นล้าน ถือหุ้นของเมืองมรกตอยู่สี่สิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้สิทธิผู้ถือหุ้นอีกสี่สิบเปอร์เซ็นต์ เป็นของถังกรุ๊ป แล้วก็ยังมีอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ถือหุ้นลงทุนของจวินยี่ ผู้ถือหุ้นจวินยี่นี้ ก็คือการลงทุนร่วมกันของพ่อลูกถังหมิงฮุยและถังจื่อยี่
อู๋เป่ยเซ็นชื่อแล้วหัวเราะ:“ไม่นานมานี้ ฉันยังเป็นคนยากจนอยู่เลย ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าจะมีเงินถึงหลายหมื่นล้าน”
ถังจื่อยี่หัวเราะ:“ก็นี่มันเป็นความสามารถของนายไงล่ะ ความสามารถของนายมากขนาดนั้น เงินมันก็จะมาหานายเองนั่นแหละ”
หลังจากนั้นเธอก็หยิบใบที่พับออกมาแล้วพูด:“นี่เป็นสัญญาแต่งตั้งและปลดตำแหน่งกรรมการบริหารของถังกรุ๊ป อ่าวไป๋หลงกับเมืองมรกต นายล้วนถือหุ้นอยู่แถมในมือยังมีสิทธิของผู้ถือหุ้นอีกสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นเป็นกรรมการบริหารก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว
อู๋เป่ยพูด:“ฉันไม่ดูแล้ว เธอบอกฉันก็พอ ว่ากรรมการบริหารนี้เงินเดือนและสวัสดิการมีอะไรบ้าง”
ถังจื่อยี่หัวเราะ:“ก็ได้ สิทธิและประโยชน์ของกรรมการบริหารมีสองส่วน ส่วนแรกคือรางวัลของสิทธิผู้ถือหุ้นปันผลกำไร จำนวนเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับการประชุมกรรมการบริหารตัดสินจากผลงานนายในปีนั้นๆ อีกส่วนคือเงินเดือนและโบนัส จำนวนไม่น้อยกว่าสิบล้าน แน่นอนว่ายังมีเงินปันผลกำไรและโบนัสอีกด้วย”
“งานนั้นความจริงแล้วมันง่ายมาก เวลาที่ประชุมกรรมการบริหารก็ต้องมา ส่วนงานอื่นๆก็ไม่ได้ผูกมัด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...
ด้วยความเคารพนะครับ หลังๆ มานี่ดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจเลย ตอนละ 2-3 บรรทัด เห็น 2-3 เรื่องล่ะ เหมือนรีบเอามาลง แต่ไม่ได้ตรวจสอบเนื้อหาข้างในเลยว่าตอนที่ลงมีเนื้อหาครบสมบูรณ์หรือไม่...
เหลือตอนละ5บรรทัดแล้วครับหลายตอนแล้วครับ...
รบกวนเรียนถามหน่อยครับ ทำไมหลังๆจึงเพี้ยนไปหมด จากนิยายดีๆจนอ่านไม่รู้เรื่อง มีบทละ 5 บรรทัด พอขึ้นบทใหม่เป็นคนละตอนกันเลยครับ แอดและคณะควรตรวจดูก่อนโพสต์นะครับ...