สุราเซียนนี้ฤทธิ์ไม่น้อยเลย เพียงหยดเดียวร่วงหล่นลงพื้นก็สามารถกลายเป็นสุราฤทธิ์แรงถังใหญ่ ดังนั้นคนธรรมดาย่อมดื่มไม่ไหว เหล่าทหารสวรรค์และเซียนแม่ทัพดื่มเพียงไม่กี่ลิตรก็เมาเสียแล้ว แต่อู๋เป่ยและโย่วฉางซิ่นแบ่งกันดื่มคนละห้าสิบขวดกลับสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
ดื่มถึงหนึ่งร้อยขวด อยู่ๆ อู๋เป่ยก็รู้สึกเมาส่วนใบหน้าของโย่วฉางซิ่นก็ขึ้นสีแดง ฝีเท้าเริ่มสับสน โย่วฉางซิ่นเริ่มโบกมือไปมา : “ดื่มไม่ไหวแล้ว น้องชาย นายโคตรเจ๋ง!”
เหล่าทหารที่อยู่ด้านหลังอู๋เป่ยต่างส่งเสียงเชียร์ ที่หัวหน้าของตนสามารถมอมเหล้าท่านนายพลได้ ช่างแข็งแกร่งนัก!
เหล่าทหารชั้นผู้น้อยต่างแยกย้ายกัน ส่วนอู๋เป่ยและโย่วฉางซิ่นนั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกันกินถั่วลิสงชนิดหนึ่งของแดนเซียนและพูดคุยเกี่ยวกับสงครามระหว่างแดนเทพและแดนเซียน
“พี่โย่วครั้งนี้แดนเซียนกับแดนเทพต้องการตายกันไปข้างหนึ่งเลยหรือ?” เขาถาม
โย่วฉางซิ่นพยักหน้าพลางพูด : “ศึกนี้ ที่จริงแล้วจะเกิดเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งขึ้น ก่อนที่เรื่องๆ นั้นจะเกิดขึ้น แดนเซียนจำต้องได้ครองที่แห่งนี้ ไม่เช่นนั้นละก็ทุกคนคงไม่มีหนทางรอด ดังนั้น ต้าเทียนจุนตอนนี้ต้องการสู้ตายกับพวกเขา ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ต้องไล่พวกเผ่าเทพออกจากที่นี่”
อู๋เป่ยคิดในใจ ที่เขาเอ่ยมาว่าเรื่องใหญ่นั้นหรือว่าจะเป็นหายนะนั้นกัน?
“พี่โย่ว ทำไมต้องได้ครองที่แห่งนี้กัน?”
โย่วฉางซิ่นเอ่ยเสียงต่ำ : “แผ่นดินคุนหลุน มีดินแดนต้องห้ามสองแห่ง นายรู้รึเปล่า? ”
อู๋เป่ย : “ผมรู้”
โย่วฉางซิ่น : “แดนต้องห้าม สำหรับแดนเซียน สำหรับเผ่ามนุษย์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราไม่สามารถสูญเสียที่แห่งนี้ไปได้”
อู๋เป่ย : “เช่นนั้นพี่โย่วคิดว่า ราชสำนักเซียนมีความมั่นใจกี่ส่วนกัน?”
โย่วฉางซิ่น : “การต่อสู้เช่นนี้ เอาความมั่นใจมาจากไหนกันเล่า? ใช้ชีวิตเอาเข้าแลก แค่ดูว่าใครที่ยืนหยัดต่อไม่ไหว เพื่อวันนี้แล้วต้าเทียนจุนเตรียมพร้อมมาโดยตลอด ฉันคิดว่าพวกเรายังมีโอกาส”
อู๋เป่ย : “พี่โย่ว ข้างๆยังมีจักรวรรดิเทียนหวู่อยู่ พวกเราจะไปโจมตีไหม?”
โย่วฉางซิ่นโบกมือไปมา : “จักรวรรดิเทียนหวู่เป็นเผ่ามนุษย์ ตีเขาไปทำไมกัน? สิ่งสำคัญคือการที่พวกเราทำลายเผ่าเทพ แน่นอนว่าหากจักรวรรดิเทียนหวู่สามารถร่วมมือกับพวกเราได้ย่อมเป็นเรื่องดี”
ทั้งสองนั่งพูดคุยกันจนดึกดื่นเที่ยงคืนนาทีนี้ช่วงเวลาที่มืดที่สุดก่อนใกล้รุ่งสาง จู่ๆ หมอกหนาก็ปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง ท่ามกลางหมอกหนาก็มีเสียงประหลาดเกิดขึ้นฟังแล้วช่างดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก และปรากฏสิ่งมีชีวิตแปลกๆ ในหมอกหนา แต่แล้วมันก็หายวับไป
อู๋เป่ยและโย่วฉางซิ่น รีบออกคำสั่งให้เหล่าทหารตื่นตัวเฝ้าระวังค่ายทหารให้ดี
“น้องชาย ดูเหมือนเผ่าเทพเล่นของแรงเสียแล้ว ครั้งนี้พวกเขาได้เปิดประตูโลกแห่งความชั่วร้ายและนำจิตวิญญาณชั่วร้ายส่งมายังที่นี่”
“โลกแห่งความชั่วร้าย? ไม่รู้ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดเช่นใดกัน” พูดจบ เขาก็มองไปทางหมอกหนา
โย่วฉางซิ่นเอ่ยเสียงดัง : “น้องชาย ระวัง!”
อู๋เป่ยโบกมือไปมา : “พี่ชายวางใจเถอะ ฉันไม่ทางเป็นอะไรหรอก”
ไม่นาน เขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกทึบ
ทันใดนั้น เงาสายหนึ่งโผล่ขึ้นมา พลันร่างของอู๋เป่ยก็ปล่อยแสงสีม่วงออกมา ชิงหมิงก็ได้กลืนสัตว์ประหลาดตนนั้นลงไปในพริบตา
“ไม่เลว พลังงานของจิตวิญญาณพวกนี้แข็งแกร่งนัก ฉันกินมากสักหน่อยก็สามารถเพิ่มตบะได้แล้ว” ชิงหมิงเอ่ยขึ้น
อู๋เป่ย : “แม้กระทั่งสัตว์ประหลาดแบบนี้ก็กินหรอ?”
ชิงหมิง : “ตามหลักแล้ว ยิ่งฉันกลืนกินจิตวิญญาณมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่ง และยิ่งสามารถปรับตัวให้เข้ากับโลกนี้ได้มากขึ้นอีกด้วย ฉันยังสามารถศึกษาองค์ประกอบทางร่างกายและพลังงานของพวกมันเพื่อปรับตัวอย่างต่อเนื่อง”
เขาโยนหินพลังงานนี้ให้แก่ชิงหมิง : “นายชิมดู”
กลืนหินศักดิ์สิทธิ์แล้วชิงหมิงก็เอ่ย : “ไม่เลว พลังงานของราชาเทพเทียบเท่ากับจิตวิญญาณชั่วร้ายถึงสิบดวงด้วยกัน”
ราชาเทพตาย หมอกทึบก็สลายหายไปแล้ว อู๋เป่ยจึงได้ย้อนกลับไปที่ค่ายทหาร
เห็นเขาปลอดภัยกลับมา ทุกคนต่างโล่งใจ โย่วฉางซิ่นถาม : “น้องชาย นายไม่ได้เจออันตรายอะไรใช่ไหม?”
อู๋เป่ย : “แค่สัตว์ประหลาดเท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ย พี่ชาย ภารกิจของพวกเราก็คือการทำให้เมืองนี้สงบใช่หรือไม่?”
โย่วฉางซิ่น : "คำสั่งจากเบื้องบนคือการปกป้องเมืองนี้ หากมีกำลังเหลืออยู่ สามารถบุกไปทางใต้เพื่อร่วมมือกับกองกำลังรบหลัก"
อู๋เป่ย : “พี่ชาย เช่นนั้นก็อย่าได้ชักช้าเลยไม่สู้เราโจมตีต่อไปยังทางใต้ต่อ”
โย่วฉางซิ่นก็เริ่มหวั่นไหว ต้องรู้ว่าการยึดเมืองๆหนึ่งได้นั้นถือเป็นผลงานใหญ่! แต่เขาก็ยังรู้สึกเป็นกังวล จึงเอ่ย : “น้องชาย เมืองสุ่ยจิงทางตอนใต้ เผ่าเทพมีกองทหารอาวุธหนักประจำการอยู่ อย่างน้อยก็แปดแสนนายบนฟ้ายังมีเรือรบสองลำ การป้องกันด้วยพลังกันน่ากลัวเช่นนี้ ด้วยทหารของเราเพียงเท่านั้นจะไหวหรือ?”
อู๋เป่ย : “ไหวสิ เดี๋ยวฉันรับผิดชอบโจมตีเรือบินของเผ่าเทพเองอีกทั้งพวกเราก็ยังมีปืนใหญ่เซียนไม่ใช่หรือ? ถ้าเราโจมตีเมือง เชื่อเถอะว่าเบื้องบนต้องมอบปืนใหญ่เซียนให้พวกเราอย่างแน่นอน”
โย่วฉางซิ่นคิดไปคิดมา : “ฉันจะไปรายงานเดี๋ยวนี้ และจะพยายามขออุปกรณ์มาให้มากหน่อย!”
จากนั้น โย่วฉางซิ่นก็วิ่งไปที่ตำหนักใหญ่ หลังจากกลับมาเขาก็ตอบด้วยรอยยิ้มกว้างว่า : “เบื้องบนพอใจกับการที่พวกเราทำลายหมอกทึบได้และบอกว่าพวกเขาสามารถจัดหาปืนใหญ่เซียนได้ ห้าพันกระบอก รถม้าศึกหนึ่งหมื่นคัน และรถโจมตีเมืองห้าร้อยคัน”
อู๋เป่ย : “เพียงพอแล้ว! ตอนนี้ให้เริ่มเตรียมพร้อม เมื่อฟ้ามืดเริ่มเข้าโจมตีได้!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...