ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1763

ผู้บัญชาการทหารพยักหน้า : “เผ่ามนุษย์เคยมีผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง ทะลวงถึงระดับจักรพรรดิผู้ศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์สวรรค์สร้างศาลสวรรค์ ตอนที่ถึงจุดสูงสุด เผ่าเทพถูกโจมตีจนหมดหนทางจนต้องร่วมมือกับเผ่าเอเลี่ยน โลกวงกลมที่พวกเราอยู่แห่งนี้ อันที่จริงก็คือสถานที่ที่ตั้งของศาลสวรรค์ในตอนนั้น”

อู๋เป่ยเข้าใจทันที เขาพูด : “ต้าเทียนจุนอยากสร้างศาลสวรรค์อีกครั้งเหรอ”

ผู้บัญชาการทหารพูด : “ไม่ผิด สร้างศาลสวรรคค์อีกครั้ง รวบรวมพลังของเผ่ามนุษย์ ต่อต้านเผ่าเทพ กู้คืนความรุ่งโรจน์ของเผ่ามนุษย์! นี่คือความปรารถนาของต้าเทียนจุน และก็เป็นความปรารถนาที่พวกเราตามล่าเช่นกัน”

อู๋เป่ย : “ดังนั้น ก้าวที่หนึ่ง ก็คือการรวบรวมทวีปรกร้างที่สมบูรณ์แบบเข้าด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าเผ่าเทพรู้จุดประสงค์ของต้าเทียนจุน ดังนั้นจึงลงมือด้วยพลังทั้งหมด”

ผู้บัญชาการทหาร : “ถึงเวลานั้น ประเทศที่เป็นเอกภาพจะถูกสร้างขึ้นในทวีปคุนหลุน รวบรวมพลังของทุกคนเข้าด้วยกัน มีเพียงแบบนี้ พวกเราถึงจะสามารถแข่งขันกับเผ่าเทพ กลายเป็นเผ่าที่แข็งแกร่ง!”

อู๋เป่ยพูด : “ถ้าหากสามารถทำแบบนี้ได้จริงๆ มันก็เป็นเรื่องดี แต่ผมได้ยินมาว่า ภัยพิบัติครั้งใหญ่กำลังจะมาเยือน ไม่ทราบว่าต้าเทียนจุนมีมาตรการป้องกันยังไงเหรอ”

ผู้บัญชาการทหาร : “ภัยพิบัติครั้งใหญ่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่พวกเราทำแบบนี้ สามารถลดการบาดเจ็บล้มตายของผู้บริสุทธิ์จากภัยพิบัติครั้งใหญ่ได้อย่างมาก”

อู๋เป่ย : “ตามที่ผู้บัญชาการทหารพูด เผ่าเทพจะต้องโต้กลับอย่างแน่นอน ตอนนี้พวกเราต้องหาทางปกป้องประตูหนานเทียน”

ผู้บัญชาการทหาร : “ผู้ที่เคยปกป้องประตูหนานเทียนในตอนนั้น จำเป็นมหาเทพสองท่าน ต้องการสร้างประตูหนานเทียนอีกครั้ง จำเป็นต้องหามหาเทพอีกท่านหนึ่ง ถ้าหากสามารถเปิดค่ายกลของประตูหนานเทียนอีกครั้ง ต่อให้เผ่าเทพแข็งแกร่งขึ้นอีกสิบเท่า ก็ยากที่จะบุกทะลวงเข้ามาได้”

หัวใจของอู๋เป่ยเต้นแรง ถาม : “ไม่รู้ว่าหามหาเทพเจอหรือยัง”

ผู้บัญชาการทหารส่ายหน้า : “เดิมทีหาเจอหนึ่งท่านแล้ว แต่คนผู้นั้นยังห่างจากมหาเทพอีกหนึ่งก้าว ไม่สามารถทะลวงได้ ก่อนหน้าที่เขาจะทะลวง พวกเราทำได้แค่ปกป้องประตูหนานเทียนด้วยกำลังทั้งหมด”

อู๋เป่ย : “ผมได้ยินมาว่า เคยมีมหาเทพคนหนึ่งปรากฏตัวที่แผ่นดินคุนหลุน ทำไมถึงไม่ไปเชิญเขาออกจากภูเขาล่ะ”

ผู้บัญชาการทหาร : “คนผู้นั้นเป็นเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง พวกเราค้นหาด้วยกำลังทั้งหมด แต่ไม่มีเบาะแสแม้แต่นิดเดียว”

“ผู้บัญชาการทหาร การโจมตีครั้งหน้าของเผ่าเทพ อีกนานแค่ไหน”

ผู้บัญชาการทหารครุ่นคิดสักพักหนึ่ง : “ด้วยประสิทธิภาพการระดมพลของเผ่าเทพ ภายในสิบวัน โต้กลับอย่างแน่นอน”

อู๋เป่ยลังเลอยู่พักหนึ่ง พูด : “ผู้บัญชาการทหาร ผมรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง เขาเป็นมหาเทพ ผมสามารถเชิญเขามาช่วยได้”

ดวงตาของผู้บัญชาการทหารเป็นประกาย : “อ่อ คนผู้นั้นคือใคร”

อู๋เป่ย : “เขาคือจักรพรรดิของประเทศเทียนหวู่ หลี่ซวนเป่ย”

ผู้บัญชาการทหารขมวดคิ้วเล็กน้อย : “ประเทศเทียนหวู่แห่งนี้ เคยบุกโจมตีแคว้นหลงกั๋ว เขาจะยอมช่วยเหรอ”

อู๋เป่ย : “ถ้าหากผมใช้เหตุผลที่เพียงพอ เข้าใจถึงความยุติธรรม เขาจะต้องช่วยอย่างแน่นอน”

ผู้บัญชาการทหารเงียบหลายวินาที พูด : “นายสามารถบอกกับเขา ถ้าหากเขายอมช่วย ในอนาคต ศาลสวรรค์จะยอมรับการมีอยู่ของประเทศเทียนหวู่ แต่งตั้งพระราชทานให้เขาเป็นจักรพรรดิอย่างเป็นทางการ!”

อู๋เป่ยพูด : “ผู้บัญชาการทหาร ชักช้าไม่ได้แล้ว ผมจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้เลย”

ผู้บัญชาการทหารพูด : “รีบไปรีบกลับ ฉันจะรอข่าวดีจากนาย”

หลังจากอู๋เป่ยจากไป ผู้บัญชาการทหารมองกำแพงเมืองที่อยู่ตรงข้าม บ่นพึมพำ : “หวังว่าจะมาทัน!”

ในไม่ช้า อู๋เป่ยก็กลับมาถึงพระราชวัง เวลาเร่งด่วน เขาฝึกฝนพลังแห่งความโกลาหลด้วยกำลังทั้งหมด ก่อนหน้านี้ เขาอยู่ในส่วนที่สอง ทะลวงถึงความเป็นระเบียบแห่งความโกลาหล จึงหาความเป็นระเบียบออกมาจากความโกลาหล

“ได้เวลาแล้ว” เขาพูดกับชิงหมิง “คุณเป็นร่างอวตารของอู๋เสี่ยวเป่ยต่อไป ตอนนี้ พวกเราไปพบผู้บัญชาการทหารด้วยกัน”

กลับมาที่ประตูหนานเทียน อู๋เป่ยพบว่าผู้บัญชาการทหารกำลังยืนอยู่บนกำแพงเมือง มียอดฝีมือนับไม่ถ้วนและกองทัพสามสิบล้านนายรวมตัวอยู่ข้างหลัง เขามองไปข้างหน้า

มองไปตามการจ้องมอง ที่แสนไกล แสงศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนส่องลงมาจากท้องฟ้า มีผู้แข็งแกร่งและแม่ทัพเทพและทหารเทพเดินออกมาจากแสงศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าเผ่าเทพกำลังรวบรวมกองกำลังทหารแล้ว

เห็นว่าชิงหมิงกลับมา ดวงตาของผู้บัญชาการทหารเป็นประกาย เขาจ้องมองอู๋เป่ย ผสานมือทำความเคารพ : “เข้าพบจักรพรรดิเทียนหวู่!”

อู๋เป่ยพยักหน้าเล็กน้อย : “คุณก็คือผู้บัญชาการทหาร ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว”

ผู้บัญชาการทหารพูด : “ฝ่าบาทเข้าสู่ขั้นมหาเทพแล้วจริงๆ ขอแสดงความยินดีด้วย!”

อู๋เป่ย : “ไม่จำเป็นต้องพูดคำพูดที่สุภาพแล้ว ผมรู้เรื่องหมดแล้ว คุณบอกผมมา ต้องทำยังไงถึงจะสามารถปลุกค่ายกลของประตูหนานเทียน”

ผู้บัญชาการทหารหยิบตราประทับทองคำออกมาหนึ่งอันอย่างเคร่งครึม พูด : “นี่เป็นตราประทับของประตูหนานเทียน ถือมันไว้ มีอำนาจในการเปิดและปิดประตูหนานเทียนได้ จักรพรรดิเทียนหวู่ โปรดรับตราประทับไว้!”

อู๋เป่ยรับตราประทับใหญ่ด้วยมือทั้งสองข้าง พลังเทพหลั่งไหลเข้าไป มีพลังในตราประทับใหญ่กำลังสื่อสารกับเขา ตัวตนของมหาเทพอู๋เป่ยได้รับการยอมรับจากตราประทับใหญ่ และการเสียสละก็เสร็จสิ้นในทันที

หลังจากนั้น ในสมองของอู๋เป่ย ก็มีฉากของประตูหนานเทียนทั้งหมดปรากฏขึ้น หลังจากนั้นเขาบินมาที่กำแพงเมือง มีแท่นหยกที่โดดเด่นอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าผ่านมานานแค่ไหนแล้ว

เขายืนอยู่บนแท่นหยก พลังของตราประทับใหญ่หลั่งไหลลงสู่พื้นดิน แท่นหยกค่อยๆสูงขึ้น เปล่งแสงสีทองนับล้านดวง เชื่อมต่อกับกำแพงเมือง หลังจากนั้น กำแพงเมืองสูงขึ้นอย่างช้าๆ ตำแหน่งตรงกลางสูงขึ้นเร็วที่สุด นั่นเป็นประตูทางเข้าขนาดใหญ่ สูงหนึ่งแสนฟุตและกว้างสามหมื่นฟุต มีพลังสีม่วงหนาแน่นอยู่ด้านหลังประตู

ที่เสาประตูทั้งสองข้างมีภาพนูนของทหารสวรรค์และนายพลจำนวนหนึ่งแสนคน และตรงกลางประตู แต่ละบานมีอักขระยันต์ลึกลับสลักไว้ข้างบน

ในเวลาเดียวกันบนกำแพงเมือง หอคอยลูกศรและป้อมปืนถูกยกขึ้น และรูปแบบการป้องกันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่ เมื่อเทียบกับค่ายกลใหญ่ที่เผ่าเทพสร้างขึ้นก่อนหน้านี้ พลังของค่ายกลใหญ่ในตอนนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า!