ขณะที่พูด เขายกขาขึ้นสูงและฟันลงไปอย่างแรง
"บูม!"
เงาเท้าที่น่าสะพรึงกลัว ทำลายประตูรั้วของคฤหาสน์และบ้านเรือนหลายหลังที่อยู่ด้านหลังเข้ามา
"บังอาจ!"
ในขณะนั้นเอง ปรมาจารย์ที่อยู่ภายนอกประตูคฤหาสน์ก็มีการเคลื่อนไหว
อู๋เป่ยแยกร่างออกมาสิบกว่าร่างในทันที และปรากฏตัวในตำแหน่งที่ตั้งแตกต่างกันและลงมือต่อยออกไปโดยพร้อมเพรียง
"ตู้ม ตู้ม ตู้ม!"
คนเหล่านั้นต่างถูกอู๋เป่ยต่อยจนล้มลง จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปด้านใน
"บุตรชายทั้งสิบของตระกูลโหวอยู่ที่นี่ ใครกันกล้าบังอาจอวดเก่งที่นี่?"
.??.
เงาของร่างสิบร่าง ร่อนผ่านลงตรงหน้า ทั้งสิบคนมีกลิ่นอายของทะเลและทั้งสิบคนล้วนเป็นสายเลือดของผู้เที่ยงแท้โบราณ แม้ความบริสุทธิ์จะเทียบกับโหวกงเทียนไม่ได้ แต่พวกเขาก็ค่อนข้างที่จะน่าสนใจ
อู๋เป่ยจ้องมองพวกเขา กลิ่นอายของผู้เที่ยงแท้โบราณรุ่นที่หนึ่งก็แผ่กระจายออกมา ก่อให้เกิดการปราบปรามสายเลือดที่ทรงพลังขึ้น
ร่างกายของบุตรชายทั้งสิบของตระกูลโหวต่างสั่นสะท้าน ขาของพวกเขาไร้เรี่ยวแรง ต่างคุกเข่าลงกับพื้นและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "คุณเป็นใครกัน?"
อู๋เป่ยเดินเขาไปตรงหน้าพวกเขาแล้วพูดว่า "พวกคุณได้รับสายเลือดของผู้เที่ยงแท้โบราณผ่านการฝึกฝนซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เดิมฉันต้องการจะทำลายพวกคุณแต่ผู้เที่ยงแท้โบราณนั้นหาได้ยาก จึงจะปล่อยพวกคุณไปก่อน แต่นับตั้งแต่วันนี้ไป พวกคุณจะต้องมารับใช้ฉันและจงรักภักดีต่อฉันตลอดชีวิต"
ทั้งสิบคนมีสีหน้าที่เจ็บปวด ในใจพยายามต่อต้านอย่างสุดกำลัง พวกเขาอยากจะภักดีต่อตระกูลโหว แต่กลิ่นอายของอู๋เป่ยนั้นน่ากลัวเกินไป ราวกับว่ามีบรรพบุรุษของตนเองมายืนอยู่ตรงหน้า
"ยอมแพ้ซะเถอะ "ทันใดนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินออกมา สายเลือดผู้เที่ยงแท้โบราณของเขามีความบริสุทธิ์มากกว่าโหวกงเทียน และอยู่ในระดับเดียวกับผู้เที่ยงแท้โบราณรุ่นที่เจ็ด
ชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้าอู๋เป่ย "คาดไม่ถึงว่าบนโลกนี้จะยังมีผู้เที่ยงแท้โบราณรุ่นแรกอยู่ รุ่นเยาว์ โหวหวังเยว่ ได้พบผู้อาวุโส!"
อู๋เป่ยมองดูคนๆนั้นแล้วถามว่า "เป็นนายที่ฆ่าโหวกงเทียน?"
ชายหนุ่มพยักหน้า "ครับ เขาควบคุมผู้คน เป็นหายนะของตระกูลโหว เก็บเอาไว้ไม่ได้!"
อู๋เป่ย "อืม นายเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวทีเดียว นายคุกเข่าต่อหน้าฉัน นายจะเลือกที่ยอมจำนนใช่ไหม?"
โหวหวังเยว่ "รุ่นเยาว์รู้ดีว่าความแข็งแกร่งนั้นเทียบไม่ได้กับผู้อาวุโส และมันก็ไร้ประโยชน์ที่จะต่อต้าน นอกจากนี้ก็เป็นเกียรติสำหรับตระกูลโหวที่จะได้รับใช้ภายใต้คำสั่งของคุณ ฉันคิดว่านี้เป็นผลดีมากกว่าผลเสียต่อตระกูลโหว"
อู๋เป่ย "นายเป็นคนที่ฉลาด ไม่เลวเลย ตอนนี้ลุกขึ้นมาพูดคุยกันเถอะ"
โหวหวังเยว่ลุกขึ้นยืน ในเวลานั้นเขารู้สึกว่าอู๋เป่ยมีกลิ่นอายของมหาเทพ แม้มันจะจางมากแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกได้ เขาจึงพูดอย่างประหลาดใจ "ท่านยังเป็นมหาเทพอีกด้วย?"
อู๋เป่ย "อืม ฉันเข้ามาในดินแดนนี้ได้ไม่นาน เดิมฉันตั้งใจจะยึดทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลโหว แต่ดูเหมือนวันนี้คงจะไม่ต้องแล้ว"
โหวหวังเยว่ "ท่านผู้อาวุโส ไม่ว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไร พวกเรากจะสนับสนุนท่านอย่างเต็มที่"
เขาแตะคางตนเองแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "จักรพรรดิน้อยนี้ดีจริงๆ ตอนนี้พวกคุณสองฝ่ายเป็นเหมือนน้ำกับไฟ ฉันจำเป็นต้องไปชักชวนเขา โหวหวังเยว่ นายไปกับฉัน"
ไม่นานอู๋เป่ยและโหวหวังเยว่ก็มาถึงราชสำนัก
เมื่อสือชางฮุยเห็นโหวหวังเยว่ก็พูดอย่างเยาะเย้ย "โหวหวังเยว่ ทำไมนายยังไม่คุกเข่าลง?"
แต่โหวหวังเยว่ไม่แม้เต่จะขยับ เพียงแต่มองเขากลับด้วยสายตาเย็นชา
อู๋เป่ยเดินเข้าไปและวางมือลงบนไหล่ของสือชางฮุยแล้วพูดว่า "พี่ชาย โหวหวังเยว่คนนี้ฉันสู้ไม่ชนะเขา"
อู๋เป่ย "ฉันจะให้งานหนึ่งกับนาย"
เขาหยิบแผนที่ออกมา ด้านบนแสดงให้เห็นจักรวรรดิเทียนหวู่และราชวงศ์ต้าเจิ้น ทั้งสองประเทศอยู่ห่างกันหลายล้านลี้ ในหมู่นั้นราชวงศ์ต้าเจิ้นตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจักรวรรดิเทียนหวู่
เขาพูด "จากนี้ นายจะต้องขยายอาณาเขตไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ จักรวรรดิเทียนหวู่จะขยายอาณาเขตไปทางตะวันตกเฉียงใต้ สุดท้ายสองประเทศก็จะมีพรมแดนติดกัน"
โหวหวังเยว่ "ไม่ใช่เรื่องยากที่ด้านหนึ่งขยายออกไปห้าแสนลี้ เพียงแต่ระหว่างสองประเทศนั้น มีกองกำลังที่ทรงพลังมากมายอยู่"
อู๋เป่ย "นายจัดการแค่การโจมตี หากเจอกับกองกำลังที่สู้ไม่ได้ ฉันจะเป็นคนลงมือช่วยเอง หายนะใหญ่กำลังมา ยิ่งอาณาเขตของพวกเรากว้างใหญ่ ก็จะยิ่งสามารถควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้นเท่านั้น"
โหวหวังเยว่ "ขอรับ ผู้น้อยรับคำสั่ง!"
ในวันเดียวกันนั้น อู๋เป่ยกลับไปที่จักรวรรดิเทียนหวู่ และเริ่มขยายอาณาเขต เชื่อมต่ออาณาเขตต่างๆเป็นหนึ่งเดียว
เพื่อขยายอาณาเขตแล้วนั้น เขาจะต้องมีทหารที่สามารถต่อสู้ ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องจัดการคือฝึกฝนทหาร และสิ่งนี้จะต้องใช้อาณาจักรหนึ่งของมหาเทพ อาณาจักรทหารศักดิ์สิทธิ์
เหตุผลที่มหาเทพถูกเรียกว่า "มหา" ก็เพราะว่ามหาเทพเป็นแม่ทัพรุ่นที่หนึ่ง แม่ทัพผู้มีชื่อเสียงในยุคศักดิ์สิทธิ์ ล้วนเป็นมหาเทพ หรือเป็นราชาผู้ศักดิ์สิทธิ์
มหาเทพอาณาจักรนี้ ยังเป็นช่วงเวลาแห่ง "ผลประโยชน์ของตนเองความเห็นแก่ตัวของผู้อื่น" แต่ละอาณาจักรไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับตัวเองเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับเผ่ามนุษย์ทั้งหมดอีกด้วย
บทบาทของมหาเทพคือการใช้ความรู้ ยกระดับและปกป้องมนุษย์โลก อาณาจักรทั้งห้าของมหาเทพ น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อาณาจักรทั้งห้า ได้แก่ อาณาจักรศิลปะการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์, อาณาจักรทหาร, อาณาจักรอาวุธศักดิ์สิทธิ์, อาณาจักรพันศักดิ์สิทธิ์และอาณาจักรหมื่นศักดิ์สิทธิ์
ในบรรดานี้ อาณาจักรทหารสามารถสร้างค่ายทหารในวิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อฝึกฝนได้ ด้วยสิ่งนี้จะฝึกฝนทหารศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้ พลังการต่อสู้อันน่าประหลาด เกินกว่าทหารชั้นยอดทั่วไปจะเทียบได้ในยุคศักดิ์สิทธิ์ เผ่ามนุษย์จะสามารถอยู่ยงคงกระพัน จากการฝึกฝนในค่ายทหารของมหาเทพ
ในขณะนั้น อู๋เป่ยยังคงอยู่ในอาณาจักรศิลปะการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์ อาณาจักรศิลปะการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์นั้นกำหนดพลังตามความสามารถพิเศษของตนเอง สร้างพลังอันแข็งแกร่งได้ก็ต่อเมื่อพลังแข็งแกร่งแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถฝึกฝนต่อไปได้
อาณาจักรศิลปะการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์เป็นอาณาจักรที่ยากลำบากมาก คัมภีร์จักรพรรดิไท่อีแบ่งขอบเขตการต่อสู้ศักดิ์สิทธิ์ออกเป็นเจ็ดระดับ แต่ว่า ปรมาจารย์ในตอนแรกที่สร้างพลังอันยิ่งใหญ่ของคัมภีร์จักรพรรดิไท่อีนั้น เพียงสามารถฝึกฝนถึงขั้นที่ห้า ถึงอย่างไรด้วยสติปัญญาอันสูงส่งของเขา ก็สามารถเข้าใจขั้นสี่ขั้นตอนสุดท้ายได้ เพื่ออ้างอิงให้กับคนรุ่นหลัง
ขั้นตอนของมหาเทพ เรียกว่ามหาเทพการต่อสู้และมหาเทพการต่อสู้นั้นมีอยู่เจ็ดระดับ ในบรรดามหาเทพ ผู้ที่สามารถไปถึงระดับที่สามได้นั้นหาได้ยากมาก สามารถไปถึงระดับสี่และห้านั้น ใช้สิบนิ้วนับก็ครบแล้ว!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...