อู๋เป่ยโกรธจนอกแทบระเบิด เหยียนเป้าคนนี้ช่างอำมหิตเกินไป ถึงกับวางยาพิษฆ่าเหวินเหรินจางหมิงต่อหน้าเขา แล้วยังหลอกให้เขารออยู่ที่นี่อีก คนผู้นี้ช่างมีจิตใจอำมหิตเพทุบายโดยแท้
เหวินเหรินจื่ออีส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “คุณชาย คุณนำตำรับโอสถต้าเชียนแล้วรีบหนีไปเถอะ ยอดฝีมือของตระกูลเหยียนกำลังจะมาถึง พวกเขาไม่มีทางปล่อยคุณแน่”
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว “ฉันกับพวกเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง เหตุใดต้องหาทางทำร้ายฉันด้วย”
เหวินเหรินจื่ออีว่า “คนตระกูลเหยียนเหิมเกริมไร้ขอบเขต ไม่มีผู้ใดกล้าขัดใจพวกเขา คุณชายเป็นปรมาจารย์ปรุงยา เขาคงสงสัยว่าท่านมีฝีมือสูง จึงไม่แน่ใจว่าจะจับตัวได้ไหม เลยแสร้งถ่วงเวลาไปหายอดฝีมือมาช่วย”
อู๋เป่ยหัวเราะเยาะเย้ย “ดีมาก เช่นนั้นฉันจะรอเขาอยู่ที่นี่ ฉันอยากเห็นนักว่า เขาจะหายอดฝีมือหน้าไหนมาจัดการฉัน”
เป็นไปตามคาด ไม่กี่นาที เหยียนเป้าก็กลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้มีชายหนุ่มร่างยักษ์สูงกว่า 2 เมตรครึ่ง เดินมาด้วย ผู้มาใหม่แผ่พลังลมปราณออกมาอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นชายผู้นั้น ใบหน้าเหวินเหรินจื่ออีก็ซีดเผือด “คุณชาย เขาคือเหยียนสง คนผู้นี้เป็นหนึ่งในเทียนเฉียวของสำนักเซวี่ยเตา”
เหยียนเป้าหัวเราะเสียงดัง “น้องสี่ ฉันรู้สึกว่าคนผู้นี้ฝีมือไม่ธรรมดา เมื่อครู่จึงอดกลั้นไม่ลงมือ รีบไปตามนาย”
เหยียหสงปรายตามองอู๋เป่ย แล้วหัวเราะ “พี่สามสายตาดีจริง คนผู้นี้ดูเหมือนจะมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ไม่เป็นไร พอเจอฉันแล้ว เขาก็ไม่ต่างอะไรกับไก่ในทุ่งหญ้าเท่านั้นแหละ”
อู๋เป่ยพูดเสียงเย็น “ไม่คิดเลยว่าแกจะเจ้าเล่ห์ถึงเพียงนี้ รู้ว่าแพ้ฉัน เลยแอบไปตามคนมาช่วย แต่แกคิดผิดแล้ว ขนาดเศษสวะอย่างหมอนี่ ฉันจัดการได้สิบคนพร้อมกันก็ยังไหว”
เหยียหสงกล่าวเสียงเย็น “ใกล้ตายยังปากดี งั้นลิ้มรสหมัดฉันดูก่อนเถอะ”
เขาก้าวออกไปหนึ่งก้าว ฝ่ามือขวาฟาดลงจากอากาศหมายฟาดใส่ศีรษะของอู๋เป่ย
ในเสี้ยววินาทีที่อีกฝ่ายออกหมัด ร่างของอู๋เป่ยก็สูงใหญ่ขึ้น กลายเป็นยักษ์สูง 6 เมตร พลางฟาดฝ่ามือสวนออกไปเช่นกัน
เมื่อวานนี้เขาเพิ่งฝึกเคล็ดลับลับชนิดหนึ่งเรียกว่า ร่างรบยักษ์จวี้หลิง สามารถกลายร่างเป็นยักษ์ในชั่วพริบตา พลังเพิ่มขึ้นมหาศาล
เหยียหสงตกตะลึง นี่มันวิชาอะไรกัน เขารีบยกสองแขนขึ้นขวางเพื่อป้องกันอย่างเต็มที่
“แคร่ก”
ฝ่ามือของอู๋เป่ยฟาดเพียงครั้งเดียว แขนของเหยียหสงก็หักทันที จากนั้นศีรษะของเขาก็ถูกฟาดจมเข้าไปในอก
ร่างไร้หัวของเหยียหสงเดินโซซัดโซเซอยู่ไม่กี่ก้าว ก็ล้มโครมลงไปนอนแน่นิ่ง
ทุกคนตกตะลึงจนพูดไม่ออก ส่วนเหยียนเป้านั้นหน้าซีดเป็นไก่ต้ม น้องสี่ผู้แข็งแกร่งของเขา ถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาแบบนี้
เขายังไม่ทันได้หนี อู๋เป่ยก็จับตัวเขาไว้ในกลางอากาศทันที แล้วเหวี่ยงลงกับพื้นตรงหน้าเหวินเหรินจื่ออี พร้อมกล่าวว่า “จื่ออี แก้แค้นให้พ่อคุณเถอะ”
เหยียนเป้าถูกเหวี่ยงอย่างแรงจนเลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน เหวินเหรินจื่ออีชักมีดสั้นออกมา แทงใส่ร่างเขาจนสิ้นใจ
เมื่อฆ่าเหยียนเป้าเสร็จ อู๋เป่ยก็กล่าวว่า “คุณเหวินเหริน เก็บของเถอะ พวกเราต้องออกจากที่นี่แล้ว”
เหวินเหรินจื่ออีได้ล้างแค้นให้พ่อสำเร็จ จึงพยักหน้าเบา ๆ แล้วรีบสั่งให้สาวใช้และข้ารับใช้ออกจากบ้าน จากนั้นก็เดินทางออกจากเมืองไป๋ซวงไปพร้อมกับอู๋เป่ย
หลังออกจากเมืองได้ไม่นาน คนของตระกูลเหยียนก็มาถึง พร้อมส่งยอดฝีมือมากมายออกค้นหาตัวอู๋เป่ยและเหวินเหรินจื่ออี
สำนักเซวี่ยเตามียอดฝีมือมากมายราวกับเมฆหมอก อู๋เป่ยในตอนนี้ยังมีพลังยุทธ์ไม่สูงพอ เขาจึงไม่อยากปะทะด้วย เวลานี้กลยุทธ์สามสิบหก หนีคือทางที่ดีที่สุด
อู๋เป่ยพาเหวินเหรินจื่ออีกลับเข้าสู่พื้นที่บึงอีกครั้ง
ในบึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง พวกคนก่อนหน้าไม่สามารถตามจับคนที่ขโมยสมุนไพรได้ หลายคนจึงถูกลงโทษ
อาเจิน “แน่นอน ที่แห่งนี้คือแดนสวรรค์ของพืชพรรณทั้งปวง”
อู๋เป่ยจึงเปิดไปยังหน้าสมบัติแห่งผืนดิน ทันใดนั้นลูกแก้วไม้ที่อาจินแปลงร่างเป็นก็ลอยเข้าไปทันที แล้วหายวับไปในหน้ากระดาษ ด้านหลังของหน้าหนังสือคือมิติอันกว้างใหญ่ มีสิ่งมีชีวิตพืชพรรณมากมาย อาเจินลงหลักปักฐานในนั้น แล้วเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
อู๋เป่ยจึงแยกสมุนไพรที่เขาเก็บได้ก่อนหน้านี้ตามชนิด แล้วโยนลงไปในหน้าหนังสือที่เหมาะสม สมุนไพรที่เขาเก็บมาได้มีนับพันต้น ทำให้จำนวนหน้าตำรับโอสถต้าเชียนเพิ่มเป็นหลายพันหน้าในทันทีืจากที่ก่อนหน้ามีเพียงร้อยกว่าหน้า เมื่อสมุนไพรเหล่านี้เข้าสู่คัมภีร์แล้ว ก็ไม่เพียงแต่จะรักษาคุณสมบัติของยาไว้ได้ ยังสามารถเติบโตและแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วในพื้นที่เฉพาะของตน ต้นหนึ่งกลายเป็นสอง สองกลายเป็นสิบ นับได้ว่าใช้เท่าไรก็ไม่หมดสิ้น
เมื่อเก็บสมุนไพรเรียบร้อย อู๋เป่ยจึงว่า “จื่ออี คุณพักที่นี่ก่อน อีกเดี๋ยวฉันจะไปสำรวจพื้นที่อื่นในบึง เพื่อหาเก็บสมุนไพรให้ได้มากที่สุด”
เหวินเหรินจื่ออีพยักหน้า “ค่ะ พี่อู๋ไปเถอะ ฉันจะรออยู่ตรงนี้”
อู๋เป่ย “ตรงนี้ฉันวางยันต์ต้องห้ามไว้ ต่อให้คนอื่นอยู่ใกล้แค่ไหนก็จะไม่พบคุณ คุณสามารถพูดจาหรือพักผ่อนตามปกติได้ แต่ห้ามเดินออกนอกขอบเขตรัศมีสิบก้าวเด็ดขาด”
เหวินเหรินจื่ออี “ค่ะ ฉันรู้แล้ว”
เมื่อมอบหมายเรื่องต่าง ๆ แล้ว อู๋เป่ยก็ออกไปเก็บสมุนไพรต่อ บึงแห่งนี้กว้างใหญ่ไม่น้อย มียาอายุวัฒนะแห่งวิญญาณอยู่มากมาย เขาเลือกเก็บแต่ที่จำเป็น แล้วโยนเข้าไปในตำรับโอสถต้าเชียน
การออกสำรวจครั้งนี้กินเวลาทั้งวัน เขากลับมาอีกทีตอนเย็นของวันถัดมา
เหวินเหรินจื่ออีปรับอารมณ์ได้แล้ว นางถามว่า “พี่อู๋ เก็บเกี่ยวได้อย่างไรบ้างคะ”
อู๋เป่ยยิ้มตอบ “ไม่เลวเลย ฉันได้ยาเก้าระดับ 2 ต้น ยาแปดระดับ 7 ต้น”
เหวินเหรินจื่ออีว่า “ครั้งก่อนเพื่อมาหายา ฉันเคยสืบข่าวเกี่ยวกับบึงนี้มาไม่น้อย มีข่าวลือว่าภายในบึงนี้ มียาอายุวัฒนะแห่งวิญญาณชนิดหนึ่งที่สามารถหลบซ่อนตัวได้ ว่ากันว่าอาจเป็นยาอายุวัฒนะแห่งวิญญาณระดับสิบขึ้นไป ในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมา เคยมีผู้คนพบร่องรอยของมันอยู่หลายครั้ง แล้วก็ออกค้นหาเต็มกำลัง แต่สุดท้ายก็ไม่พบอะไรเลยสักครั้ง”
อู๋เป่ยสะดุ้งในใจ “โอ้ เรื่องแบบนี้ก็มีด้วย”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...