ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 2342

อู๋เป่ยอธิบายว่า “ประตูเทพก็มีหลายระดับ ตั้งแต่สามหกเก้าชั้น โดยประตูเทพที่แข็งแกร่งที่สุดสามารถเชื่อมต่อกับมิติสูงสุด เรียกว่า ประตูเทพอันสูงสุด”

เยวี่ยชิงอิ่งพูด “ฉันรู้ว่าประตูเทพแบ่งเป็นระดับหนึ่งถึงสิบ ประตูเทพสูงสุดน่าจะเป็นระดับเหนือกว่าหนึ่งระดับ พ่อฉันเปิดประตูเทพตอนนั้น จัดอยู่ในระดับสี่”

ในโลกเซียนบรรพกาล จะมีผู้บำเพ็ญที่มีประตูเทพระดับสองเกิดขึ้นแค่ทุกหลายร้อยปี ดังนั้นประตูเทพระดับสี่ถือว่าดีมาก ส่วนประตูเทพระดับหนึ่ง ก็ต้องใช้เวลาหลายพันปี จึงจะมีผู้บำเพ็ญเกิดขึ้นหนึ่งคน ส่วนประตูเทพสูงสุดที่อู๋เป่ยพูดถึง ไม่เคยมีใครพบเจอ มีแต่ในตำนานเท่านั้น

ทั้งสองกลับถึงบ้าน อู๋เป่ยก็แนะนำเยวี่ยชิงอิ่งให้ครอบครัวรู้จักอย่างเป็นทางการ

เยวี่ยชิงอิ่งพักที่บ้านอู๋เป่ยคืนหนึ่ง วันรุ่งขึ้นก็ไปกับเขาเพื่อพบเหอจื่อเฉินที่เทียนหยวน

เทียนหยวนคล้ายกับเซินโจว เป็นแหล่งมงคลในโลกเซียนบรรพกาล แต่ขนาดยังใหญ่กว่าเซินโจวเสียอีก

ระหว่างทางที่ยังเหลืออีกพันลี้ อู๋เป่ยเห็นกลุ่มคนชุดดำปิดหน้า กำลังล้อมโจมตีเด็กสาวคนหนึ่ง เด็กสาววัยน้อยแต่มีพลังยุทธ์สูง แขนซ้ายพันด้วยผ้าพันสีแดงช่วยป้องกันการโจมตีส่วนใหญ่ มือขวาถือมีดสั้นที่แผ่แสงอันตราย ทำให้กลุ่มคนที่ล้อมต้องถอยหลังไปบ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนปิดหน้าเหล่านั้นกลับร่วมมือกันได้อย่างไร้รอยต่อ ราวกับฟ้าประสานแผ่นดิน สายล้อมรอบตัวค่อยๆ แคบลงเรื่อยๆ หญิงสาวถูกบีบจนขยับซ้ายก็ขวาง ขยับขวาก็ติด ร่างกายเคลื่อนไหวลำบากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็เริ่มเผยท่าทีอ่อนแรงออกมา ไม่นานก็ถูกหนึ่งในคนปิดหน้าโจมตีเข้าที่ไหล่เต็มแรง การโจมตีครั้งนี้ไม่เบาเลย หญิงสาวถึงกับถูกกระแทกจนร่างล้มกระแทกพื้น

จวนจะถึงเวลาที่หญิงสาวต้องตายใต้คมดาบคมดาบอยู่แล้ว ทันใดนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งร่วงลงมาจากฟากฟ้า อุ้มร่างหญิงสาวทะยานขึ้นไปในอากาศ แล้วหายวับไปในพริบตา

คนปิดหน้าหลายคนถึงกับอึ้งตาค้าง อยากจะตามไปไล่ล่า แต่เห็นชัดว่าตามไม่ทัน จึงได้แต่กระทืบเท้าด้วยความโกรธพร้อมสบทอออกมา

ผู้ที่ลงมือช่วยย่อมเป็นอู๋เป่ยนั่นเอง ครู่ต่อมา ในป่าลึกแห่งหนึ่ง เขาก็วางร่างหญิงสาวลง

ไหล่ของหญิงสาวถูกโจมตีจนแตก หญิงสาวเจ็บปวดจนเหงื่อหอมซึมเต็มหน้าผาก ใบหน้าของเธองดงามอ่อนช้อยยิ่งนัก เครื่องแต่งกายที่สวมใส่ก็หรูหรามีค่า ผ้าที่ใช้ทำชุดนี้ก็เป็นแบบเดียวกับที่เยวี่ยชิงอิ่งสวมอยู่ เพียงหนึ่งชุดก็มีค่าหลายล้านเงินเซียน ไม่ใช่หญิงสาวทั่วไปที่จะสวมใส่ได้

หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งใจ “ขอบคุณคุณชายที่ลงมือช่วยชีวิตไว้!”

อู๋เป่ยที่จริงก็ไม่รู้ความแค้นระหว่างสองฝ่าย จึงเพียงแค่ช่วยชีวิต แต่ไม่ได้ลงมือทำร้ายผู้ใด เขาจึงถามว่า “พวกเขาทำไมถึงต้องการฆ่าคุณ?”

หญิงสาวถอนหายใจแผ่ว ๆ “ฉันทำตามคำสั่งท่านพ่อมุ่งหน้าไปยังเทียนหยวน เพื่อคารวะท่านอาวุโสระหว่างตระกูล ระหว่างทาง กลุ่มคนพวกนี้ก็ปรากฏตัวขึ้น พอเห็นหน้าก็จะฆ่าฉันทันที ฉันหนีเอาชีวิตรอดมาตลอดทาง แต่ก็ยังถูกพวกเขาตามจนทัน หากมิใช่คุณชายช่วยไว้ ฉันคงถูกพวกเขาฆ่าไปแล้ว”

อู๋เป่ย “พูดอย่างนี้แสดงว่าคุณก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร?”

หญิงสาวส่ายหน้า “ไม่รู้แน่ชัด”

เยวี่ยชิงอิ่งซึ่งเงียบอยู่นาน เพิ่งถามขึ้น “น้องสาว คุณชื่ออะไรหรือ?”

หญิงสาวตอบ “ฉันชื่อ ฟางชิงชิง”

เยวี่ยชิงอิ่งทำท่าครุ่นคิด “คุณมาจากตระกูลฟาง แห่งทะเลสาบอู๋ซวงหรือ?”

ฟางชิงชิงพยักหน้า “ใช่ค่ะพี่สาว บ้านฉันอยู่ที่ทะเลสาบอู๋ซวง พี่หญิงรู้จักบ้านฉันด้วยหรือ?”

เยวี่ยชิงอิ่งแย้มยิ้มอย่างขื่นขม “เซียนหอก ฟางเทียนฮว่า ใครในโลกเซียนบรรพกาลจะไม่รู้จักเล่า?”

ฟางชิงชิงถอนหายใจ “ท่านพ่อของฉันก็คือ เซียนหอก ฟางเทียนฮว่า”

อู๋เป่ยไม่รู้จักบุคคลนี้มาก่อนจึงถาม “ชิงอิ่ง ท่านเซียนหอกผู้นี้ฝีมือต้องร้ายกาจมากสินะ?”

ฟางชิงชิง“เป็นหนึ่งในสิบสุดยอดผู้แข็งแกร่งแห่งโลกเซียนบรรพกาล ฝีมือย่อมร้ายกาจอย่างไม่ต้องสงสัย”

อู๋เป่ยถึงกับตกใจ “สิบสุดยอดผู้แข็งแกร่ง! อยู่ขั้นใดของขอบเขตแห่งเต๋า?”

ฟางชิงชิง “ขั้นที่แปดแห่งขอบเขตแห่งเต๋า”

อู๋เป่ย “นั่นแปลกนัก ใครกันช่างกล้าคิดสังหารบุตรสาวของหนึ่งในสิบสุดยอดผู้แข็งแกร่ง พวกเขาคงอยากตายเต็มที”

ฟางชิงชิง“ถ้าไม่ใช่เพราะท่านพ่อทิ้งยันต์หอกไว้สามแผ่น ฉันคงตกเป็นเหยื่อพวกเขาไปแล้ว”

อู๋เป่ยครุ่นคิดก่อนเอ่ย “พวกเราก็กำลังจะไปเทียนหยวนอยู่ หากคุณจะไปต่อ ก็เดินทางไปด้วยกันได้”

ฟางชิงชิงดีใจนัก “จริงหรือ? ขอบคุณคุณชาย! ขอบคุณพี่สาว!”

เยวี่ยชิงอิ่ง “คุณหนูฟาง คุณจะไปพบใครที่เทียนหยวน?”