บนรถตู้คันนั้น คนขับหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปอู๋เป่ยไปหลายช็อต
ในหมู่บ้านคนรวยแห่งหนึ่งในจงโจว บุรุษวัยกลางคนมองรูปที่เพิ่งถูกส่งเข้ามาในมือถือแล้วเผลอขมวดคิ้วเล็กน้อย เจ้าหนุ่มในรูปหน้าตาหล่อ สูงราวๆ หนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร บุคลิกก็ดี แต่ดูจากการแต่งตัว น่าจะมาจากครอบครัวธรรมดา
คุณผู้หญิงที่ดูแลตัวเองอย่างดีคนหนึ่งเดินเข้ามาดูแล้วหัวเราะกล่าวว่า “ตาถึงขึ้นทุกทีนะปิงเหยียน ครั้งที่แล้วไอ้เฉินเม่าจงนั่นหน้าตาเหมือนลิง แต่นี่ดูแล้วสบายตากว่ามาก ทั้งสีผิวทั้งรูปร่างก็ดี”
สองคนนั้นก็คือพ่อแม่ของหานปิงเหยียน พวกเขาคอยติดตามเรื่องของลูกสาวที่โรงเรียนตลอด ครั้งก่อนที่เธอสนิทกับคนชื่อเฉินเม่าจง พวกเขาก็ไม่ค่อยพอใจ
พอดีคนขับส่งข้อความมาอีกฉบับว่า: ท่าน เด็กหนุ่มที่ชื่ออู๋เป่ยคนนี้ คราวนี้สอบได้ที่หนึ่งของทั้งเมือง 740 คะแนน
คุณผู้หญิงยิ้มแล้วว่า “อุ๊ย เป็นผู้สอบอันดับหนึ่งของทั้งเมืองด้วย หานจื้อเฉิง ฉันว่านี่เป็นเด็กดีนะ ถ้าปิงเหยียนชอบจริงๆ ก็ให้คบหาดูได้ค่ะ”
หานจื้อเฉิง “ฮึ” เบาๆ แล้วว่า “เก่งเรื่องคะแนนแล้วไง? ในบริษัทของผม มีคนที่เคยเป็นผู้สอบอันดับหนึ่งระดับเมืองตั้งสามคน ระดับมณฑลอีกหนึ่งคน สุดท้ายก็เป็นลูกน้องผมเหมือนกันครับ”
คุณผู้หญิงหัวเราะ “สมัยก่อนคุณก็สร้างตัวจากศูนย์ไม่ใช่หรือ ทำไมเดี๋ยวนี้กลับดูแคลนเจ้าหนุ่มบ้านๆ ล่ะคะ”
หานจื้อเฉิงถอนหายใจ “ยุคสมัยมันไม่เหมือนเดิมแล้ว สมัยก่อนคนชั้นล่างยังพอมีโอกาสไต่ขึ้น เดี๋ยวนี้ยากมาก ไม่มีเส้นสาย ไม่มีผู้ใหญ่หนุน คนธรรมดาแทบไม่มีทางแจ้งเกิดครับ”
คุณผู้หญิงว่า “คุณก็เป็นคนหนุนหลังให้เขาสิคะ”
หานจื้อเฉิงว่า “ก็ต้องดูว่าเขาคุ้มค่าที่ผมจะอุปถัมภ์ไหมล่ะครับ!”
คุณผู้หญิงว่า “งั้นคืนนี้ชวนเขามาบ้านหน่อยสิคะ พวกเราจะได้ดูให้ชัดๆ ว่าเด็กคนนี้เป็นยังไง”
หานจื้อเฉิงพยักหน้า “ก็ดี ผมเห็นว่าปิงเหยียนสนใจเขามาก งั้นก็เรียกมาบ้านมาดูหน่อยก็แล้วกันครับ”
ตอนเช้าครูเฉลยข้อสอบ แต่อู๋เป่ยแทบไม่ได้ฟัง เขานั่งทบทวนบทเรียนเองเงียบๆ
เที่ยงเลิกเรียน เขากำลังจะกลับบ้านไปกินข้าว ก็ได้รับสายจากแม่ หยางกุ้ยจือ ทางโทรศัพท์แม่พูดลนๆ ว่า “เสี่ยวเป่ย บ่ายเลิกเรียนแล้ว ไปบ้านป้าก่อนนะ พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน ต้องออกไปสองวันนะลูก”
อู๋เป่ยได้ยินแว่วๆ ว่าทางนั้นมีคนเอะอะโวยวาย ตอนนี้หูเขาคมกริบจนจับได้ว่ามีคนสองคนกำลังด่าข่มขู่กันอยู่
เขาเอะใจขึ้นมา ปากก็รับคำไปงั้นๆ พอวางสายก็พุ่งกลับบ้าน เขาต้องไปดูให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
พอกลับถึงบ้าน ก็เห็นตรงหน้าตึกของหมู่บ้านจัดสรรจอดรถออฟโรดสองคัน แต่ละคันมีคนนั่งอยู่หลายคน
อู๋เป่ยกวาดตามองครู่หนึ่ง แล้วรีบวิ่งขึ้นบันได
ถึงหน้าบ้าน เห็นประตูเปิดอ้ากว้าง กลุ่มคนยืนสูบบุหรี่กันอยู่ในห้องรับแขก อู๋ต้าซิงถูกสองคนกดคว่ำหน้าแนบพื้น มุมปากมีเลือดไหล ส่วนแม่ หยางกุ้ยจือ ล้มฟุบอยู่มุมผนัง ใบหน้าช้ำเขียวม่วง ผมถูกกระชากหลุดเป็นกระจุกตกเรี่ยราด
อู๋ต้าซิงดิ้นสุดแรง แต่ชายร่างใหญ่สองคนกดเขาไว้แน่นจนขยับไม่ได้แม้แต่น้อย
ชายสวมแว่นกันแดดคนหนึ่งนั่งไขว่ห้างบนโซฟา พูดเสียงเย็นว่า “เงินส่วนที่เหลือ 1,500,000 บาท พวกแกคิดจะคืนเมื่อไหร่”
อู๋ต้าซิงโต้ด้วยความโกรธ “เงินผมคืนครบไปนานแล้ว ไม่ได้ติดหนี้พวกแกอีก!”
ชายแว่นดำยิ้มเย็น พอเห็นอู๋เป่ยเดินเข้ามาก็ถามว่า “นี่ลูกชายพวกแกใช่ไหม”
อู๋เป่ยหน้าเคร่ง เขาเดินไปข้างอู๋ต้าซิง คว้าคอเสื้อชายร่างใหญ่สองคนนั้นด้วยมือข้างละคน แล้วยกพวกมันขึ้นจากพื้น ก่อนเหวี่ยงอัดใส่หน้าต่างอย่างแรง
เพล้ง!
หลังจากผ่านขั้นหลอมไขกระดูก เขามีกำลังมหาศาล ทุกจังหวะหัวใจเต้นแรงผิดธรรมดา แค่เหวี่ยงครั้งเดียวคนก็ปลิว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...