บ่ายนั้น อู๋เป่ยไม่ได้เข้าเรียนและไม่ได้ฝึกซ้อม เขาไปที่ดาดฟ้าของอาคารเรียนคนเดียวเพื่อฝึกตน
ขั้นต่อไปของการฝึกตนคือขั้นที่แปดแห่งการกลั่นลมปราณ ซึ่งเรียกว่าขอบเขตประตูแห่งความลี้ลับ แก่นของมันคือการ “เปิดประตู” หนึ่งบานในร่างกาย ซึ่งเรียกว่า ‘ประตูแห่งความลี้ลับ’ เป็นเหมือนประตูภายในร่างกาย
ประตูแห่งความลี้ลับนี้มีคุณสมบัติพิเศษมาก มันสามารถรับพลัง ขัดเกลาพลัง และเก็บสะสมพลังไว้ได้ เมื่อนำคนที่มีประตูแห่งความลี้ลับไปเทียบกับคนที่ไม่มี ความสามารถในการต่อสู้ต่างกันราวฟ้ากับดิน ผู้บำเพ็ญที่มีประตูแห่งความลี้ลับจะอึดกว่า แข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด!
แน่นอนว่าประตูแห่งความลี้ลับก็มีการแบ่งระดับเช่นกัน ประตูแห่งความลี้ลับของผู้บำเพ็ญตนแบ่งเป็นตั้งแต่ระดับหนึ่งถึงระดับสิบ คนทั่วไปมักทำได้แค่ระดับสิบ บางคนต่ำเสียจนไม่เข้าขั้น หากมีประตูแห่งความลี้ลับระดับแปดก็ถือว่าเป็นหนึ่งในร้อยแล้ว
ส่วนประตูแห่งความลี้ลับระดับเจ็ดนั้น จัดเป็นผู้บำเพ็ญระดับอัจฉริยะ แต่พอประตูแห่งความลี้ลับของอู๋เป่ยปรากฏขึ้น กลับพบว่าเกิดนิมิตมงคลอันยิ่งใหญ่ เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์สิบสายออกมา พลังภายในกายพอหมุนวนครบหนึ่งรอบ อานุภาพก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าทันที!
อู๋เป่ยเข้าใจในทันทีว่า ‘ประตูแห่งความลี้ลับ’ ของเขาเป็นระดับหนึ่ง ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งที่สุด! กระทั่งเขายังรู้สึกว่าประตูบานนี้เหนือกว่าระดับหนึ่งไปอีกขั้น ควรจะเป็น ‘ประตูแห่งความลี้ลับเหนือระดับหนึ่ง’!
เมื่อปล่อยให้พลังทั้งหมดโคจรครบรอบในประตูแห่งความลี้ลับ พลังทั้งร่างของเขาก็ยกระดับขึ้นอีกหกเจ็ดเท่า รู้สึกว่าทุกอิริยาบถอัดแน่นไปด้วยพลัง
อู๋เป่ยฉวยจังหวะนั้นฝึกวิชาก้าวย่างหนึ่งชุดบนดาดฟ้าจนสำเร็จ วิชานี้ปรากฏขึ้นหลังจากเขาเปิดประตูแห่งความลี้ลับได้สำเร็จ ชื่อว่าวิชาก้าวย่าง ‘ก้าวภูตเทพ’ ความยากไม่สูงนัก แต่ใช้รับมือศัตรูได้ผลเยี่ยม
เมื่อใช้วิชานี้ออกมา ก็ลี้ลับจนคาดเดาไม่ได้ จับทิศทางไม่ถูก
หลังเลิกเรียน อู๋เป่ยไปหาที่บ้านหานเจียก่อน กินข้าวเย็นที่นั่นแล้วค่อยรักษาให้หานจื้อเฉิง ผ่านการรักษาสามวัน เนื้องอกในสมองของหานจื้อเฉิงยุบลงมาก อาการก่อนหน้าแทบหายเกลี้ยง ถึงกับเอ่ยชมอู๋เป่ยว่าเป็นหมอเทวดา
ระหว่างรักษา หานจื้อเฉิงส่งเช็คเงินสดใบหนึ่งให้อู๋เป่ย แล้วยิ้มพูดว่า “น้องอู๋ เจ้าหนูทองคำนั่นชั่งแล้ว หนักร้อยยี่สิบเอ็ดกิโลกรัมกว่า ความบริสุทธิ์ประมาณเก้าสิบแปดเปอร์เซ็นต์ อิงราคาตลาด ผมควรจ่ายให้คุณ 120,200,000 บาท ผมจะปัดเป็นเลขกลมให้เป็น 125,000,000 บาท คุณว่าไงครับ?”
อู๋เป่ยก็ไม่เกรงใจ ยิ้มตอบ “ได้ครับ งั้นผมไม่เกรงใจลุงแล้วนะครับ”
หานจื้อเฉิงยิ้มว่า “เช็คเงินสดใบนี้ คุณไปขึ้นเงินภายในเจ็ดวันได้ เดี๋ยวให้โอนเข้าบัญชีคุณตรงๆ”
อู๋เป่ยพยักหน้า “ได้ครับ”
ตอนนั้นเอง หานปิงเหยียนหยิบสร้อยคอเส้นหนึ่งออกมา ทับทิมที่อู๋เป่ยมอบให้เธอถูกฝังอยู่บนเรือนสร้อย ลวดลายเก๋ สวยมาก
“พี่เป่ย สวยไหมคะ?”
อู๋เป่ยยิ้ม “สวยสิครับ”
หานปิงเหยียนว่า “เมื่อวานมีลูกค้ามาที่ร้าน เห็นสร้อยเส้นนี้ของฉัน จะทุ่ม 40,000,000 บาทซื้อให้ได้ ยังไงฉันก็ไม่ขายหรอก!”
อู๋เป่ยหัวเราะ “ไว้ช่วยเจียระไนอีกเม็ดให้ผมด้วยนะครับ ผมจะเอาไปให้แม่เป็นของขวัญวันเกิด”
หานปิงเหยียนรีบว่า “ได้เลย เรื่องนี้ฝากฉันได้ค่ะ!”
รักษาให้หานจื้อเฉิงเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยพอดี เขาจึงมุ่งหน้าไปยังโกดังเดิมนั่นอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ในโกดังแห่งหนึ่งของเขตโรงงาน หวงลี่เจี๋ยมาที่นี่ด้วยตัวเอง คราวนี้เพื่อรับมืออู๋เป่ย เขาพาผู้แข็งแกร่งตัวจริงมาด้วย เป็นยอดฝีมือขั้นที่ห้าแห่งการกลั่นลมปราณ! ระดับนี้ทั้งเมืองจงโจวยังมีไม่มากนัก มีวิชาฝีมือล้ำลึก โดยเฉพาะวิชากำลังภายในที่แข็งแกร่ง ดาบฟันไม่เข้า มือเดียวบีบหินให้แตกได้!
หวงลี่เจี๋ยนั่งคุยหัวเราะกับยอดฝีมือคนนั้น ไม่ได้ใส่ใจอู๋เป่ยเลย ต่อให้หมอนั่นเก่งแค่ไหน ก็แค่เหนือกว่าคนธรรมดา เทียบกับยอดฝีมือเบื้องหน้าห่างชั้นกันสุดกู่
ยอดฝีมือผู้นั้นหน้ากลม สูงราวหนึ่งเมตรเจ็ดสิบห้า มือทั้งสองข้างด้านหนาและเหลืองคล้ำ ซึ่งเป็นร่องรอยที่เกิดจากการฝึกวิชา
แล้วก็มีคนหนึ่งเดินดิ่งเข้ามา ตอนอยู่หน้าโกดังคนคุ้มกันกว่าหนึ่งโหลกลับไม่รู้ตัวเลย!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...