ตงหวางพยักหน้าเบา ๆ “เจ้ามาถามข้า ก็ถือว่าถามถูกคนแล้วล่ะ”
อู๋เป่ยว่า “ขอท่านอ๋องชี้แนะด้วยครับ”
ตงหวางสั่งคนให้รินเหล้าให้อู๋เป่ยจนเต็มจอกก่อน แล้วจึงกล่าวว่า “อีกแค่สามปี จักรพรรดิก็จะสละราชบัลลังก์แล้ว เพราะอย่างนี้ การช่วงชิงกันระหว่างเหล่าองค์ชายถึงได้ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ”
อู๋เป่ยประหลาดใจ “จักรพรรดิต้องสละราชบัลลังก์เหรอครับ? ทำไมล่ะ? ผมเห็นในทีวี พระวรกายท่านแข็งแรงดีเลย ดูไม่แก่สักนิด”
ตงหวางส่ายศีรษะ “ไม่เกี่ยวกับพระวรกาย เบื้องหลังต้าซา มีกลุ่มอำนาจที่แข็งแกร่งมากอยู่กลุ่มหนึ่ง พวกเขาไม่ต้องการให้ใครนั่งบัลลังก์จักรพรรดินานเกินไป จึงกำหนดว่า จักรพรรดิทุกรัชกาลครองราชย์ได้สูงสุดสามสิบห้าปี นับถึงตอนนี้ ฝ่าบาทจักรพรรดิครองราชย์มาแล้วสามสิบสองปี”
อู๋เป่ยว่า “อย่างนี้ไม่ว่าพระวรกายฝ่าบาทจักรพรรดิจะดีแค่ไหน อีกสามปีก็ต้องสละราชบัลลังก์อยู่ดี อำนาจของพวกนั้นใหญ่ขนาดบังคับจักรพรรดิให้สละราชย์ได้เลยหรือครับ!”
ตงหวางว่า “หลังสละราชบัลลังก์แล้ว ก็ไปเป็นท่านอ๋องว่าง ๆ อยู่ในโลกแห่งเซียนต่อ เสวยสุขหรูหราฟู่ฟ่าไปทั้งชาติ”
อู๋เป่ยว่า “อ้อ จักรพรรดิหลังสละราชย์แล้ว ยังไปโลกแห่งเซียนได้อีกหรือครับ?”
ตงหวางพยักหน้า “จักรพรรดิบางองค์ถึงกับเข้าสังกัดสำนักบางแห่ง เดินบนหนทางการบำเพ็ญเพียรไปได้ไกลทีเดียว”
อู๋เป่ยถอนใจ “อย่างนี้จักรพรรดิในโลกฆราวาสก็เป็นแค่หุ่นเชิดของพวกเขาน่ะสิ”
ตงหวางโบกมือ “ในโลกฆราวาส จักรพรรดิก็มีอำนาจมากพอจริง ๆ เพียงแต่เป็นอำนาจที่มีอายุจำกัด แค่สามสิบห้าปีเท่านั้น ดังนั้น การนองเลือดระหว่างเหล่าองค์ชายย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว อู๋เป่ย ข้าเตือนเจ้า อย่าเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้จะดีกว่า!”
อู๋เป่ยถอนหายใจเบา ๆ “รู้อย่างนี้แต่แรก ผมคงอยู่ห่างจากองค์ชายหกแล้ว”
ตงหวางว่า “ตอนนี้จะถอนตัวยังไม่สาย เรื่องที่ชายแดนตะวันตกเฉียงใต้ เจ้าอย่าไปยุ่งอีก มาพักที่จวนอ๋องสักสองสามวันก่อน พรุ่งนี้เจ้าไปแดนจักรพรรดิ์มนุษย์”
ครั้งก่อนอู๋เป่ย lập côngใหญ่ ได้เหรียญตรามังกรศักดิ์สิทธิ์มา จึงถูกเลื่อนฐานะขึ้นเป็นขุนนางได้ทันที และได้รับโอกาสเข้าไปในแดนจักรพรรดิ์มนุษย์หนึ่งครั้ง
อู๋เป่ยถามว่า “ท่านอ๋อง เหรียญตรามังกรศักดิ์สิทธิ์ออกมาแล้วหรือครับ?”
ตงหวางพยักหน้า สั่งให้คนยกถาดมา ถาดนั้นวางเหรียญตราสามสีอยู่หนึ่งอัน ขนาดเท่าฝ่ามือ หนักอึ้ง เขายิ้มพลางว่า “หลายปีแล้วนะที่ไม่มีใครได้เหรียญตรามังกรศักดิ์สิทธิ์”
อู๋เป่ยรับเหรียญตรามาแล้วถามว่า “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมก็ไปแดนจักรพรรดิ์มนุษย์เลย แต่ไม่รู้ว่าจะไปอธิบายทางองค์ชายหกยังไงดี”
ตงหวางกล่าวว่า “ในแดนจักรพรรดิ์มนุษย์มีสมบัติล้ำค่ามากมาย ในฐานะผู้ฝึกพลังยุทธ์ ย่อมไม่มีใครอยากพลาดโอกาส เขาย่อมเข้าใจ อีกอย่าง พอเป็นแบบนี้ เจ้าก็จะได้ห่างจากความขัดแย้งระหว่างเหล่าองค์ชายด้วย”
อู๋เป่ยพยักหน้า “ครับ งั้นผมขอไปจัดการธุระที่เหลือให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เช้า จะมาที่จวนอ๋องแต่เช้าครับ”
ออกจากจวนอ๋องแล้ว อู๋เป่ยก็ย้อนกลับไปชายแดนตะวันตกเฉียงใต้อีกครั้ง พาหยางกั๋วหาวกับคนอื่น ๆ กลับวิทยาลัยการทหารต้าซาไปด้วย ระหว่างนั้น เขาแวะไปหา ฉาอิงเฉวียน เพื่อขอลาหยุดสักสองสามวัน
ตอนนั้นฉาอิงเฉวียนกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน พอเห็นอู๋เป่ยอีกครั้ง แววตาก็ยังไม่เป็นมิตรเช่นเดิม เขาถามว่า “ไม่ใช่ว่าให้เจ้าอยู่ประจำสมรภูมิชายแดนตะวันตกเฉียงใต้เหรอ ทำไมกลับมาเองตามใจแบบนี้?”
อู๋เป่ยตอบ “ผมมีเรื่องส่วนตัวต้องจัดการ เลยต้องออกมาจากที่นั่นชั่วคราว อาจารย์ฉา ผมอยากขอลาหยุดสักสองสามวันครับ”
“ลาหยุด? เวลาของเจ้าแต่เดิมก็แน่นอยู่แล้ว ยังจะกล้าขอลาอีก!” เขาฮึเย็น ๆ หนึ่งที
อู๋เป่ยมองเขาแล้วพูดว่า “อาจารย์ฉาดูเหมือนจะมีอคติกับผมนะครับ?”
ฉาอิงเฉวียนหัวเราะเย็น “ใช่ ข้ามีอคติกับเจ้า!”
อู๋เป่ยลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งตรงข้ามฉาอิงเฉวียน “งั้นก็ว่ามาให้ชัดเลยครับ”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...