อู๋เป่ยไม่ได้สนใจจะ拜เป็นศิษย์ใครเลย เขารีบพูดว่า “อีกไม่นานผมต้องไปวิหารดาบสูงสุด ช่วงนี้คงไม่เหมาะจะไปกราบคนอื่นเป็นอาจารย์แล้ว”
ทุกคนที่ได้ยินถึงกับสะดุ้ง วิหารดาบสูงสุด!
เหลิ่งชิงฮุยมองจับจ้องเขา “นายเป็นศิษย์วิหารดาบสูงสุด? เป็นแค่ผู้บำเพ็ญจากโลกฆราวาส แบบนี้เข้าไปอยู่วิหารดาบสูงสุดได้ยังไง?”
อู๋เป่ยมองเขาแวบหนึ่ง “ก็แค่ดวงดี ผมตรัสรู้สายสืบทอดที่จอมดาบสูงสุดทิ้งเอาไว้ได้”
สายตาของเหลิ่งชิงฮุยที่มองอู๋เป่ยเปลี่ยนไปทันที แววดูแคลนหายวับ ถูกแทนที่ด้วยความหวาดหวั่นลึก ๆ คนที่ตรัสรู้สายสืบทอดของจอมดาบสูงสุดได้ อย่างไรก็ต้องไม่ธรรมดา!
ชิวหนานอุทานเสียงหวาน “ดีเกินไปแล้ว! คุณชายอู๋มีพรสวรรค์ถึงขนาดนี้ ท่านลิ่วซือซูต้องชอบแน่ คุณชายอู๋วางใจได้ วิหารดาบสูงสุดเป็นองค์กรหลวม ๆ ไม่ได้ห้ามสมาชิกไป拜เข้าสำนักอื่นหรอก”
อู๋เป่ยว่า “แต่ก็ยังไม่เหมาะอยู่ดี ผมเป็นศิษย์ของเหลียนซานจงแล้ว”
ตอนแรกเขาก็ปฏิเสธนิกายเทียนเฉินไปแล้ว ยิ่งไม่สนใจจะเข้าร่วมไท่หวงเจี้ยว ตอนนี้จึงได้แต่หยิบชื่อเหลียนซานจงมาอ้างอีกครั้ง
“เหลียนซานจงรึ? เคยได้ยินชื่อเหมือนกันนะ” จื่อซีถาม “คุณชายอู๋เป็นศิษย์หัวกะทิของเหลียนซานจงหรือเปล่า?”
อู๋เป่ยตอบตามจริงว่า “เป็นศิษย์ชั้นสูง”
ทุกคนถึงกับอึ้งอีกรอบ ศิษย์ชั้นสูงของสำนัก ย่อมไม่ด้อยกว่าศิษย์ชั้นสูงของนิกายใหญ่เลย ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะตรัสรู้สายสืบทอดของจอมดาบสูงสุดได้!
จื่อซีถอนหายใจเบา ๆ “ศิษย์ชั้นสูงของไท่หวงเจี้ยวเรามีรวมกันร้อยแปดคน ปกติพวกเราเห็นศิษย์ชั้นสูงทีไร ต้องหยุดยืนคำนับทุกครั้ง”
เหลิ่งชิงฮุยฮึหนึ่งเสียง “ศิษย์ชั้นสูงก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร อนาคตของพวกเราไม่แน่ว่าจะด้อยกว่าพวกเขานะ!”
อู๋เป่ยเข้าใจดี ว่าอีกฝ่ายพูดแบบนั้นแค่ปลอบใจตัวเอง ศิษย์ชั้นสูงมีทั้งพรสวรรค์ดีกว่า แถมทรัพยากรที่ได้รับก็เหนือกว่า พวกศิษย์ธรรมดาอย่างพวกเขาจะวิ่งตามให้ตายก็ไม่ทัน ช่องว่างระหว่างกันมีแต่จะยิ่งถ่างกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
ชิวหนานถอนหายใจ “เฮ้อ ทุกคนก็พยายามกันต่อไปเถอะ”
ซิงเหยียนพูดขึ้นมาทันที “ได้ยินมาว่าวันนี้ศิษย์ชั้นสูงหลินเปี๋ยลู่ก็มาที่แดนจักรพรรดิ์มนุษย์เหมือนกัน แค่ไม่ได้มาอยู่กับพวกเรานี่แหละ”
ชิวหนานว่า “รู้แล้ว เขาเหมือนจะไปยอดเขาเสินหนงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะเจอกันไหม”
เหลิ่งชิงฮุยพูดขึ้น “เจอเขาแล้วจะได้อะไร? ให้พวกเรายกสมุนไพรที่เก็บมาถวายเขาหมดน่ะเหรอ?”
พอเขาพูดแบบนี้ ทุกคนก็พากันเงียบลง ใช่สิ ถ้าหลินเปี๋ยลู่เอ่ยปากขอสมุนไพร พวกเขากล้าจะไม่ให้หรือไง?
รถม้าลากไปนานไม่รู้เท่าไร ซิงเหยียนก็ให้เลี้ยวออกทางซ้าย เมื่อเลี้ยวออกจากถนนแสงทอง รถม้าวิ่งไปได้อีกพักเดียวก็เริ่มไปต่อไม่ไหว ทุกคนจึงลงจากรถแล้วเดินเท้าแทน
ด้านหน้า ปรากฏยอดเขาลูกหนึ่งตั้งตระหง่าน รูปทรงแปลกตา สูงตระหง่าน นั่นแหละคือยอดเขาเสินหนง
ทั้งกลุ่มใช้ตัวเบาทะยานไปครู่หนึ่ง ก็ถึงเชิงเขาเสินหนง ยอดเขาเสินหนงสูงหมื่นจั้ง เวลานี้ตรงเชิงเขาเบื้องล่างมีคนมารวมตัวกันหลายร้อยคน มีไม่น้อยที่กำลังยืนเร่ขายของกันอยู่ คล้ายตลาดนัดขนาดย่อม
อู๋เป่ยถามอย่างแปลกใจ “พวกเขาขายอะไรกัน?”
เหลิ่งชิงฮุยตอบ “ก็ขายสมุนไพรที่ตัวเองเก็บมาไง ถ้าเอาสมุนไพรกลับไป ส่วนใหญ่ก็ต้องส่งให้สำนักอยู่ดี แต่ถ้าขายทิ้งซะ เงินก็จะเป็นของตัวเองทั้งหมด ยังไงสำนักก็ไม่มานั่งใส่ใจหรอกว่าลูกศิษย์พกเงินมากหรือน้อยแค่ไหน”
ดวงตาอู๋เป่ยสว่างวาบ เขากำลังคิดจะซื้อสมุนไพรพอดี จึงรีบเดินตรงไปทางกลุ่มคน ทว่าถูกเหลิ่งชิงฮุยคว้าตัวเอาไว้ก่อน
อู๋เป่ยหันไปมอง เขาก็กระซิบถาม “นายจะทำอะไร?”
อู๋เป่ยว่า “มาซื้อสมุนไพร”
เหลิ่งชิงฮุยว่า “ลองมองดี ๆ สิ มีสักกี่คนที่กล้าซื้อสมุนไพรตรงนี้?”
อู๋เป่ยเพ่งมองไปจริงจังขึ้น ทีนี้ถึงได้เห็นชัด คนที่ตะโกนขายสมุนไพรมีเยอะก็จริง แต่คนที่มาซื้อกลับไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เหลิ่งชิงฮุยว่า “มีแต่พวกเพิ่งมาครั้งแรกเท่านั้นแหละที่กล้าซื้อสมุนไพร พอซื้อเสร็จเดี๋ยวก็มีคนกลุ่มหนึ่งตามประกบ ท้ายที่สุดไม่ใช่แค่สมุนไพรที่หายไป แต่ชีวิตตัวเองก็ไม่เหลือเหมือนกัน!”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...