ดวงตาคุณหลิวเหลียนสว่างวาบ รีบเปิดหีบใบหนึ่งออกมาตรวจนับทีละชิ้น
อู๋เป่ยนั่งจิบชาอยู่ข้าง ๆ ส่วนซือปี้ต้ามองด้วยแววตาซับซ้อน เพราะเขาจำได้ว่าหีบทั้งเจ็ดใบคือของที่ท่านเซียนทิ้งไว้
อู๋เป่ยรู้ทันความคิดเขา จึงเอ่ยว่า “นายไม่ได้มองผิดหรอก ก็หีบเจ็ดใบนั่นนั่นแหละ ฉันจะขายมันทั้งหมด แล้วเอาเงินที่ได้ไปทำการกุศลทั้งหมด”
ซือปี้ต้าสะดุ้ง “หีบเจ็ดใบนี้ ของข้างในมูลค่าหลายแสนล้านนะ จะเอาไปทำการกุศลหมดเลย?”
อู๋เป่ยว่า “นี่เป็นความต้องการของท่านเซียน อีกอย่าง พอทำแบบนี้แล้ว ของสามหีบที่นายใช้ไปก็จะสืบย้อนกลับมาไม่ได้แล้วเหมือนกัน”
ในใจซือปี้ต้าปรีดาล้น เอ่ยว่า “ท่านนี่รอบคอบจริง ๆ!”
ใช้เวลาสิบกว่านาที กว่าคุณหลิวเหลียนจะตรวจนับของในหีบใบแรกเสร็จ เขากลับมาที่โต๊ะ ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณชายอู๋ ของในหีบใบนี้ล้วนเป็นผลงานอักษรและภาพวาดของบรมครูในสมัยโบราณ รวมทั้งหมดสามสิบเจ็ดชิ้น นี่คือราคาประเมินตามราคาตลาด ลองดูหน่อย” ว่าแล้วก็ยื่นใบรายการให้อู๋เป่ย
อู๋เป่ยรับมาเหลือบดูคร่าว ๆ ก็พบว่าภาพและงานเขียนเหล่านี้ชิ้นที่ถูกที่สุดยังมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าสิบล้าน ส่วนชิ้นที่แพงที่สุดประเมินไว้ถึงเจ็ดร้อยล้านเหรียญซ่ง รวมสามสิบเจ็ดชิ้นมีมูลค่าทั้งสิ้นสามพันเก้าร้อยห้าสิบล้านเหรียญซ่ง
เขาพยักหน้าเบา ๆ “ได้ ดำเนินต่อเลย”
เรื่อยมาจนถึงสักห้าทุ่ม คุณหลิวเหลียนจึงประเมินราคาสมบัติทุกชิ้นเสร็จสิ้น หีบสมบัติทั้งเจ็ดใบรวมกับของสะสมบางส่วนของอู๋เป่ย มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 48,637,000,000 เหรียญซ่ง คิดเป็นเหรียญเซี่ยก็ราว ๆ ยี่สิบสี่ล้านสามแสนกว่า สุดท้ายคุณหลิวเหลียนปัดเศษให้กลมแล้ว เสนอราคาเป็นยี่สิบห้าล้านเหรียญเซี่ย
เงินก้อนนี้ถูกโอนเข้าบัญชีหลายบัญชีของกองทุนการกุศลที่อู๋เป่ยให้ไว้โดยตรง ไม่ถึงสิบ นาที ทางโอวหยางจื้อหยวนก็ส่งข่าวมาว่า ทรัพย์สินสองแสนห้าหมื่นล้านได้เข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว
พอเห็นยอดเงินเข้า อู๋เป่ยก็หัวเราะ “บอสหลิว ร่วมงานกันอย่างราบรื่นนะ”
หลิวเหลียนว่า “ร่วมงานกันอย่างราบรื่น ต่อไปคุณชายอู๋มีอะไรในมือ ก็เรียกใช้ฉันได้ทุกเมื่อ”
เวลานั้นก็ดึกพอสมควรแล้ว อู๋เป่ยกับซือปี้ต้าจึงขอตัวกลับ
พอสองคนนั้นออกไป รอยยิ้มบนหน้า หลิวเหลียนก็เลือนหาย นางหันไปถามชายชราข้างกาย “ของพวกนี้ มีอยู่ในคัมภีร์สมบัติใต้หล้าทั้งหมดไหม?”
ชายชราพยักหน้า “หีบเจ็ดใบ มีสองใบที่ของข้างในตรงกับของวิเศษที่คัมภีร์สมบัติใต้หล้าบันทึกไว้เป๊ะ ๆ”
หลิวเหลียนว่า “สามสิบปีแล้ว ในที่สุดเราก็เจอร่องรอย! รีบแจ้งเบื้องบน เดินงานก่อนฟ้าสาง!”
อู๋เป่ยกับซือปี้ต้าไม่ได้อยู่ต่อ จากนั้นก็กลับหมู่บ้านซานซิง
ตอนนั้นล่วงเลยเที่ยงคืนแล้ว อู๋เป่ยกลับไปขัดเกลาคัมภีร์ดาบสูงสุดให้สมบูรณ์ต่อ
ตีสาม เขาลืมตาขึ้นอย่างฉับพลัน จากนั้นผลักประตูออก บินขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านซานซิง
พอขึ้นสู่ที่สูง เขาก็เห็นกลุ่มคนหลายสิบกำลังเหาะตรงมาจากระยะไกล
คนกลุ่มนั้นต่างก็สัมผัสได้ถึงลมปราณของอู๋เป่ย พากันชะงักหยุด หย่อนตัวลอยอยู่ไม่ไกลตรงหน้าของเขา
อู๋เป่ยกวาดตามองก็พบว่ามีคนมาทั้งหมดสามสิบสี่คน ในกลุ่มนั้นมีคุณหลิวเหลียนอยู่ด้วย
สีหน้าของอู๋เป่ยไม่เปลี่ยน “บอสหลิว หรือว่าคิดบัญชีผิด เลยต้องมาหาฉันอีกรอบ?”
หลิวเหลียนยิ้ม “คุณชายอู๋ ฉันมาคราวนี้อยากขอให้คุณช่วยสักเรื่องหนึ่ง”
อู๋เป่ยว่า “ว่ามาสิ ถ้าฉันทำได้ก็จะช่วยแน่”
หลิวเหลียนว่า “ฉันอยากรู้ว่าสมบัติในหีบเจ็ดใบของคุณ มาจากที่ใด”
อู๋เป่ยว่า “ค้าขายกันไม่ถามที่มา บอสหลิวถามซะละเอียดแบบนี้ มันเสียกติกากันพอดี”
หลิวเหลียนถอนหายใจแผ่วเบา “ขอโทษด้วย แต่ฉันจำเป็นต้องรู้ที่มาของสมบัติทั้งเจ็ดหีบนั่น ถ้าคุณชายอู๋ไม่ยอมบอก พวกเราก็คงต้องเสียมารยาทแล้ว”
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว “ถามกันถึงขนาดนี้ เป้าหมายคืออะไรกันแน่?”
“พวกเขากำลังตามหาตัวหวงซื่อแห่งจักรวรรดิมิ่งต่างหาก” เสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน เป็นซือหลาน นางไม่รู้โผล่มาตอนไหน ตอนนี้ยืนอยู่ไม่ไกลด้านหลังอู๋เป่ย
หลิวเหลียนจ้องซือหลานเขม็ง “งั้นก็แปลว่า คนที่เป็นเจ้าของสมบัติชุดนี้ก็คือเธอสินะ?”
ซือหลานเอ่ยเรียบ ๆ “จะว่าแบบนั้นก็ได้”
หลิวเหลียนหัวเราะ “ดีมาก พวกเราตามหาเธอมาตลอด! บอกมา หวงซื่อจักรวรรดิมิ่งอยู่ที่ไหนกันแน่?”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...