หานปิงเหยียนเลยพามู่ปิงฉานแวะไปที่หอพักเด็กหญิงก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นค่อยมากับอู๋เป่ยมาที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามโรงเรียน เวลานั้นใกล้ถึงมื้อเย็นแล้ว อู๋เป่ยเลยชวนมู่ปิงฉานมาทานข้าวด้วยกันเสียเลย เพราะเรื่องรักษาโรคของเธอยังต้องอธิบายละเอียด
ร้านที่มานั่งกินค่อนข้างหรู ค่าใช้จ่ายต่อหัวเกินห้าพันบาท มู่ปิงฉานถึงจะเดินผ่านที่นี่บ่อย แต่ไม่เคยได้เข้ามาสักครั้ง พอเดินเข้าไปในร้านที่ตกแต่งหรูหราโอ่อ่า เธอก็อดเก้อเขินไม่ได้ มองซ้ายมองขวาไปทั่ว
ทั้งสามเลือกนั่งโต๊ะสี่ที่ที่ชั้นหนึ่งของร้าน อู๋เป่ยให้หานปิงเหยียนสั่งอาหารไปสองสามอย่าง แล้วหันให้มู่ปิงฉานเลือกบ้าง
มู่ปิงฉานรับเมนูมาเปิดดู แค่กับแกล้มเย็นจานถูกสุดยังจานละพันถึงพันห้าร้อยบาท เธอส่ายหัวรัว ๆ “ฉันไม่สั่งแล้ว”
หานปิงเหยียนทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องช่วยสั่งเพิ่มไปอีกสองสามจาน
ระหว่างรออาหาร อู๋เป่ยจับมือเธอไว้ บอกให้ไม่ต้องขยับ แล้วใช้พลังเวทย์ช่วยเปิดเส้นลมปราณให้ ผ่านไปไม่กี่อึดใจ มู่ปิงฉานก็รู้สึกทั้งตัวโล่งสบาย ทั้งคัดจมูก ปวดเอว ปวดหัวข้างเดียวที่ยังเป็นอยู่เมื่อครู่หายเกลี้ยง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตะลึง
“พี่เป่ย คุณสุดยอดเลย ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นเยอะมาก” มู่ปิงฉานพูดอย่างประหลาดใจ
อู๋เป่ยฝังเข็มที่ศีรษะและใบหน้าเธออีกยี่สิบสี่เล่ม จากนั้นก็หยิบสมุนไพรชั้นต่ำออกมาบางส่วน ผสมตำรับยาให้เธออยู่ตรงนั้นเลย พร้อมสอนวิธีต้มยาอย่างละเอียด
มู่ปิงฉานจดจำทุกขั้นตอนอย่างตั้งใจ ก่อนเงยหน้าถามด้วยแววตาเปี่ยมความหวัง “พี่เป่ย ถ้ากินยานี่แล้ว ฉันจะไม่ตายใช่ไหม”
อู๋เป่ยตอบเรียบ ๆ “มีพี่อยู่ ทั้งที่อยากตายยังยากเลย”
หานปิงเหยียนหัวเราะ “ไม่ต้องห่วงหรอก ทักษะการแพทย์ของพี่เป่ยของฉันน่ะสุดยอด เธอยังเห็นกับตาแล้วไม่ใช่เหรอว่าเขาใช้เวทมนตร์เซียนได้ การรักษาโรคยิ่งสบายมาก”
มู่ปิงฉานทั้งดีใจทั้งตื้นตัน เธอถอดหยกจักจั่นชิ้นหนึ่งจากตัวออกมา ยื่นสองมือส่งให้อู๋เป่ย “พี่เป่ย บุญคุณช่วยชีวิต ฉันตอบแทนไม่ได้ หยกจักจั่นนี่เป็นของที่ยายให้มา แม่บอกให้ฉันเก็บไว้ให้ดี ฉันไม่มีอะไรดีไปกว่านี้ ก็เลยอยากมอบให้พี่เป่ย”
ของที่ยายคนอื่นให้มา อู๋เป่ยย่อมไม่คิดจะรับ เขากำลังจะปฏิเสธอยู่แล้ว ทว่าเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นหยกจักจั่น กลับสะดุ้งวูบในใจ เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายโบราณสายหนึ่งที่แผ่ออกมาจากหยกชิ้นนั้น คล้ายไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในโลกนี้
เขารับหยกจักจั่นมาพลิกดู ก่อนเอ่ยว่า “ได้ พี่จะรับไว้”
มู่ปิงฉานดีใจมาก นี่คือของล้ำค่าที่สุดเท่าที่เธอจะหยิบมาให้ได้ การที่อู๋เป่ยยอมรับไว้ แสดงว่าเขาเห็นเธอเป็นเพื่อนคนหนึ่งแล้ว
อู๋เป่ยพลันหันไปถามหานปิงเหยียน “ปิงเหยียน โครงการทุนการศึกษาปีกแห่งอนาคตของกองทุนเรา ยังมีอยู่ใช่ไหม”
ตอนนั้นหานปิงเหยียนเคยเข้าร่วมประชุมหารือเรื่องโครงการนี้อยู่แล้ว เธอเองก็เป็นนักศึกษา เลยรู้ว่ากองทุนการกุศลมีกโครงการแบบนี้อยู่ และวงเงินช่วยเหลือถือว่าโหดมาก
“อือ สำหรับนักศึกษาที่ทั้งเก่งทั้งขยัน จะให้ทุนพื้นฐานปีละเจ็ดแสนห้าหมื่นบาท ถ้าทำเกรดได้ติดห้าสิบอันดับแรกของทั้งภาควิชา ก็จะให้ทุนการศึกษาเพิ่มอีกหนึ่งล้านสองแสนห้าหมื่นบาท”
มู่ปิงฉานถึงกับตะลึง จริง ๆ แล้วทุนการศึกษาและทุนช่วยเหลือที่เธอเคยได้ก็ไม่น้อยอยู่แล้ว เพียงแต่ที่บ้านเหมือนหลุมดำ สูบเงินไม่รู้จบ ทำให้เธอต้องกดค่าใช้จ่ายประจำวันของตัวเองลงจนเหลือขีดสุด พอได้ยินว่ามีทุนการศึกษาหลายล้านบาทแบบนี้ ใจเธอก็อดกระตุกวูบไม่ได้
“พี่ปิงเหยียน ทุนอะไรเหรอคะ เปิดให้ใครสมัครได้บ้าง”
อู๋เป่ยพูดว่า “เงื่อนไขของเธอน่ะเข้าข่ายพอดี เดี๋ยวพี่ช่วยยื่นเรื่องให้เอง อ้อ กรอกแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์นี่หน่อย แล้วส่งไปที่อีเมลนี้”
อู๋เป่ยส่งไฟล์แบบฟอร์มให้เธอกรอก พอเธอกรอกเสร็จ เขาก็แจ้งไปทางกองทุนการกุศล ไม่นานการอนุมัติก็ผ่านฉลุย
อาหารเพิ่งมาเสิร์ฟได้แค่สองอย่าง เงินทุนการศึกษาเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทก็ถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารที่มู่ปิงฉานกรอกไปเรียบร้อย
มู่ปิงฉานเบิกตากว้าง อุทาน “เร็วขนาดนี้เลยเหรอ”
อู๋เป่ยว่า “ใช่สิ กองทุนนี้ขึ้นชื่อว่าเร็วเป็นพิเศษ กินข้าวเถอะ กินเสร็จแล้วก็กลับไปพักซะ กลางคืนอย่าลืมกินยาด้วย”
“อืม!” มู่ปิงฉานพยักหน้ารับแรง ๆ



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...