อู๋เป่ย : “ไม่ต้องขอบคุณ ใครให้คุณเป็นพี่สาวของผมล่ะ”
นึกถึงสถานการณ์ที่ไป๋ปิงพูดก่อนหน้านี้ เขาถาม : “พี่สาว ตอนนี้คุณป้าเป็นยังไงบ้าง”
ไป๋ปิงส่ายหน้า : “คุณแม่สุขภาพไม่ค่อยดี รักษาตัวอยู่ที่บ้านตลอด”
อู๋เป่ย : “ผมจำได้ว่า บ้านของพี่สาวอยู่เมืองไก้ใช่ไหม”
ไป๋ปิงพูดด้วยรอยยิ้ม : “นายยังจำได้เหรอ บ้านของฉันอยู่เมืองไก้ ห่างจากเมืองหมิงหยางไม่ไกล ขับรถประมาณหนึ่งชั่วโมง”
อู๋เป่ย : “ใกล้จริงๆ ใช่แล้ว คุณป้าเคยไปตรวจที่โรงพยาบาลไหม”
ไป๋ปิง : “เคยไปหลายโรงพยาบาล หมอก็ไม่บอกว่าตกลงเธอเป็นอะไรกันแน่ ตอนนี้สามารถทำได้แค่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน”
อู๋เป่ยคิดสักพัก พูด : “เอาแบบนี้ คืนนี้ไปบ้านคุณ ผมลองดูอาการของคุณป้า”
ไป๋ปิงค่อยนึกขึ้นได้ ดูเหมือนอู๋เป่ยจะมีความรู้การแพทย์ เธอรีบพยักหน้า : “ได้ ขอบคุณนายมากๆเลย”
หลังจากดื่มกาแฟเสร็จ ไป๋ปิงแย่งจ่ายเงิน พวกเขาเตรียมเดินทางไปเมืองไก้ ดังนั้นอู๋เป่ยเลยโทรศัพท์ให้กังจื่อมา ขับรถชีรอนคันนั้นมาที่ร้านกาแฟ
รอไม่กี่นาที รถสีดำแดงคันหนึ่ง รถบูกัตติ ชีรอนอันทรงพลังมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู เสียงรถยนต์สั่นสะเทือนอย่างมาก สั่นจนพื้นดินสั่นไปหมด
มองดูรถคันนี้ ไป๋ปิงตะลึงอย่างมาก ถาม : “อู๋เป่ย รถคันนี้เป็นของนายเหรอ”
อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม : “เพื่อนให้มา พี่สาว พวกเราไปกันเถอะ!”
กังจื่อขับรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าจากไป อู๋เป่ยพาไป๋ปิงขึ้นรถ เหยียบคันเร่งเพียงครั้งเดียวรถก็พุ่งออกไป ขับตรงไปยังเส้นทางเมืองไก้
ต่างมณฑลขับรถไม่เร็ว แต่ทันทีที่ขึ้นสู่ทางด่วน อู๋เป่ยแสดงศักยภาพของรถคันนี้ถึงขีดสุด จากหนึ่งร้อยเป็นสองร้อย และจากนั้นเป็นสามร้อย
ความเร็วสูงสุดของรถคันนี้อยู่ที่สี่ร้อยกว่า แต่คุณภาพของทางด่วนส่วนนี้แย่เล็กน้อย ไม่สามารถตอบสนองความเร็วสูงเกินไปได้ ดังนั้นอู๋เป่ยเลยควบคุมความเร็วอยู่ที่ประมาณสามร้อย
เส้นทางต้องใช้เวลาสี่สิบกว่านาที ถูกเขาขับเพียงสิบกว่านาทีก็ถึงแล้ว ลงมาจากทางด่วน จากนั้นเขาก็ขับรถไปที่ชุมชนฝูอันซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านของไป๋ปิงอย่างไม่เร่งรีบ
ชุมชนฝูอันค่อนข้างเก่าแก่แล้ว ที่จอดรถไม่เพียงพอ อู๋เป่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจอดรถของเขาในลานจอดรถใกล้ชุมชน หลังจากนั้นทั้งสองคนเดินไปบ้านไป๋ปิง
มาถึงหน้าประตูชุมชน คุณลุงเฝ้าประตูทักทายทันที : “ไป๋ปิง เธอกลับมาแล้วเหรอ”
ไป๋ปิงรีบพูด : “ลุงโจว ฉันกลับมาแล้ว คุณสบายดีไหม”
“สบายดี”
พูดได้ไม่กี่คำ ทั้งสองมาถึงอาคารแห่งหนึ่ง
บ้านของไป๋ปิงอยู่ชั้นหนึ่ง เธอใช้กุญแจเปิดประตูบ้าน ข้างในมีเสียงทีวีดังออกมา ไป๋ปิงพูด : “แม่ ฉันกลับมาแล้ว”
ป้าคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับ อายุประมาณห้าสิบต้นๆ เธอพูดด้วยรอยยิ้ม : “ปิงปิงกลับมาแล้วเหรอ คนนี้คือ.....”
เมื่อเห็นอู๋เป่ย คุณป้าตกใจเล็กน้อย
ไป๋ปิงรีบพูด : “แม่ คนนี้เป็นเพื่อนของฉัน อู๋เป่ย”
อู๋เป่ยรีบพูด : “สวัสดีคุณป้า ผมชื่ออู๋เป่ย เป็นเพื่อนของไป๋ปิง”
คุณป้ามองอู๋เป่ยขึ้นๆลงๆ รู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้เต็มไปด้วยพลัง รูปร่างหน้าตาก็ไม่เลว เธอหัวเราะออกมาทันที : “เสี่ยวอู๋เองเหรอ รีบเข้ามานั่ง ฉันจะไปเอาผลไม้ให้นาย”
“คุณป้าไม่ต้องเกรงใจ” อู๋เป่ยรีบพูด
คุณป้าล้างแอปเปิ้ลและองุ่นแล้ววางลงบนโต๊ะ ถามด้วยรอยยิ้ม : “เสี่ยวอู๋ นายทำงานอะไรเหรอ”
เห็นได้ชัดอย่างมาก เธอคิดว่าอู๋เป่ยเป็นแฟนหนุ่มของไป๋ปิง ท้ายที่สุดแล้วถ้าหากเขาไม่ใช่แฟนหนุ่ม ทำไมลูกสาวต้องพามาบ้านด้วย
อย่างไรก็ตามคุณป้ากระตือรือร้นอย่างมาก ยังคงวิ่งไปที่ห้องครัว ทำอาหารหลายจานเสียงดังติงๆตังๆ จากนั้นทำน้ำซุปหนึ่งหม้อ ให้อู๋เป่ยกินบ้างเล็กน้อย
อู๋เป่ยทำอะไรไม่ได้ สามารถทำได้แค่รอคุณป้าทำอาหารไปด้วย พร้อมกับคุยกับไป๋ปิงไปด้วย รอจนทำอาหารเสร็จแล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้ไป๋ปิงไม่ได้กินข้าว ก็เลยกินบ้างเล็กน้อย
อู๋เป่ยนั้นไม่เป็นอะไร ต่อให้เขากินติดต่อกันสี่มื้อก็ไม่รู้สึกอิ่ม เริ่มกินอย่างปลดปล่อย กินอาหารสี่จานและน้ำซุปหนึ่งถ้วยจนหมดจด
เมื่อเห็นว่าความอยากอาหารของอู๋เป่ยดีขนาดนี้ คุณป้าดีใจอย่างมาก ชมเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีผู้ชายมาที่บ้านของเธอนานมากแล้ว ปกติกินข้าวล้วนแล้วกินทีละคำเล็กๆ ทันทีที่เห็นอู๋เป่ย ก็เป็นผู้ชายที่กินเก่งขนาดนี้ ภายในใจจู่ๆก็รู้สึว่าลูกสาวของตัวเองควรจะหาผู้ชายแบบนี้ถึงจะรู้สึกโล่งใจ!
กินข้าวเสร็จ อู๋เป่ยดื่มชาไปอีกหนึ่งแก้ว พูด : “คุณป้า ใบสั่งยาผมเขียนเสร็จแล้ว คืนนี้ผมยังต้องกลับบ้าน”
คุณป้าพูดด้วยรอยยิ้ม : “ดึกขนาดนี้แล้ว ค่อยกลับพรุ่งนี้เช้าดีกว่า”
อู๋เป่ยพูดอย่างต่อเนื่อง : “ไม่ดีกว่าคุณป้า ผมไม่ค่อยสะดวกที่จะอยู่ต่อ.....”
“สะดวกสะดวก บ้านของฉันมีห้องรับแขก นายพักที่นั่นก็พอแล้ว”
คุณป้าให้อยู่ต่ออย่างต่อเนื่อง อู๋เป่ยทำอะไม่ได้ สามารถทำได้แค่ตอบตกลงพักหนึ่งคืน
มีคุณป้าอยู่ เขาไม่ค่อยสะดวกที่จะวิ่งไปคุยกับไป๋ปิง ถึงสี่ทุ่มกว่าก็กลับห้องพักผ่อนแล้ว ดูเหมือนว่าคุณป้ากับไป๋ปิงจะมีเรื่องที่พูดไม่รู้จบ ทั้งสองคุยกันจนดึกมาก
ภายในห้อง อู๋เป่ยนั่งสมาธิ หลังจากออกจากสมาธิ ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว เขาเปิดผ้าม่านหน้าต่าง มองเห็นคำว่า "บะหมี่เนื้อเมืองไก้" ห้าคำบนป้ายร้านฝั่งตรงข้าม ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคนๆหนึ่งในเมืองไก้ เขารวบรวมอำพันสมุนไพรได้มากมาย ต้องไปหาสักหน่อยไหม
คิดถึงตรงนี้ เขาหยิบมือถือออกมา หาเบอร์โทรของถูเป่าฉวนแล้วโทรออกไป
ในไม่ช้า มีคนรับสาย มีเสียงดังมาจากปลายอีกด้านของโทรศัพท์ : “ฮัลโหล หาใคร”
อู๋เป่ยพูด : “ถูเป่าฉวน ผมคืออู๋เป่ย ตอนนี้ผมอยู่เมืองไก้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...