ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 446

อู๋เป่ยมองตรงเข้าไปในสายตาของเขา:“ปีนี้ ความจริงนายอายุแค่สี่สิบปีนี่? แต่ร่างกายอย่างกับคนอายุเจ็ดสิบกว่าปี ในร่างกายของนายมีพลังแปลกประหลาดอยู่ พลังนี้ทำให้นายมีความสามารถมากกว่าคนปกติทั่วไป และก็ทำให้นายเจ็บปวดมากเช่นกัน ทุกคืนที่พระจันทร์เต็มดวง พลังนี้จะทำให้นายดุร้าย นายก็จะหาที่ที่ไม่มีใครอยู่ซ่อนตัว เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องที่นายไม่สามารถควบคุมได้ แต่มีครั้งหนึ่ง วันนั้นน่าจะเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง พลังนี้ทำให้นายขาดสติ นายใช้กำลังโจมตีส่วนศีรษะ ทำให้กลายเป็นรอยจนถึงตอนนี้ ถึงขนาดว่าบาดเจ็บไปจนถึงตาข้างหนึ่ง”

คำพูดของอู๋เป่ยถูกหมด! จู่ๆเฟ่ยเหลียนทั้งตกใจทั้งดีใจ สายตาของเขาเป็นประกาย:“ซือมิ่ง ท่านรู้ได้อย่างไร? หรือว่าท่านรู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

อู๋เป่ยพยักหน้า แล้วให้เขานั่งลง:“พลังในร่างกายของนาย มาจากบรรพบุรุษของนายคนใดคนหนึ่ง นายที่เป็นแค่คนเซียนยังไม่สามารถควบคุมมันได้ แต่มันพยายามที่จะอยู่ในร่างกายของนาย ผลลัพธ์นายก็เห็นแล้ว พลังนี้ทำให้นายเหมือนตายทั้งเป็น ตกอยู่ในสภาพร่างกายที่ไม่สมประกอบ”

เฟ่ยเหลียนรีบถาม:“ซือมิ่ง เช่นนั้นผมจะหายไหม? ขอตอบอย่างไม่ปิดบังนะ ผมรู้สึกว่าตัวผมทนได้มากสุดอีกแค่สิบคืนที่พระจันทร์เต็มดวง”

อู๋เป่ยจ้องดวงตาทั้งสองข้างของเขา แล้วพูดเน้นออกมาทีละคำ:“ฉันสามารถช่วยนายได้! แต่หลังจากนี้เป็นต้นไป นายต้องจงรักภักดีกับฉัน ทำได้หรือเปล่า?”

เฟ่ยเหลียนนั้นรู้ดีว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงหนึ่งปี พอได้ยินว่าอู๋เป่ยสามารถช่วยเขาได้ ตนเองก็ดีใจเป็นอย่างมาก แล้วรีบพูด:“เฟ่ยเหลียนเต็มใจทำครับ!”

อู๋เป่ยพยักหน้า:“ดี! อีกเดี๋ยวนายอย่าพึ่งไป”

เฟ่ยเหลียนถอยไป ถังปิงอวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความอยากรู้:“พลังในร่างกายเขา สรุปแล้วมันคืออะไรกันแน่?”

“บรรพบุรุษของเขาบางคนแข็งแกร่งมาก เลยถ่ายทอดพันธุ์กรรมบางอย่างมาให้เขา เดิมทีพันธุ์กรรมนี้ไม่สามารถถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เฟ่ยเหลียนคนนี้ถึงได้รับความสามารถพลังนั้นมาจากบรรพบุรุษเขา น่าเสียดายที่เขาควบคุมมันไม่เป็น ในทางกลับกัน พลังนี้กลับเป็นตัวที่ทำร้ายเขา”

ถังปิงอวิ๋น:“งั้นนายจะรักษาเขายังไง?”

อู๋เป่ย:“สอนให้เขาใช้ประโยชน์จากพลังนี้อย่างถูกต้อง หรือไม่ก็เอาพลังนี้ออกไป”

ถังปิงอวิ๋นถอนหายใจเบาๆ:“นายนี่รู้เยอะจริงๆ งั้นนอกจากสองคนนี้แล้ว ยังมีใครอีกไหม?”

อู๋เป่ย:“ยังมีอีกสองสามคนที่ดูแล้วฉลาด ฉันจะเก็บพวกเขาไว้ แล้วถ่ายทอดวิชาลอบสังหารให้” ขณะที่พูด เขาก็เรียกหาหัวหน้าฝ่ายบริหาร ให้เรียกเก้าคนที่เหลือมา

เก้าคนนี้ มีทั้งผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงระดับต่ำ บางคนก็แค่สมาชิกธรรมดาทั่วไป บางคนก็เป็นนักฆ่าที่มีประสบการณ์โชกโชน อายุมากอายุน้อยปะปนกันไป คนที่อายุมากที่สุดอยู่ที่สี่สิบกว่าปี ส่วนคนที่อายุน้อยนั้นอยู่ที่ยี่สิบต้นๆ เก้าคนนี้ เป็นผู้หญิงสามคน ที่เหลือเป็นผู้ชาย

ทั้งเก้าคนยืนอยู่ตรงหน้าอู๋เป่ย ไม่รู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร พวกเขาเลยตื่นเต้นเล็กน้อย

อู๋เป่ยยิ้มแล้วพูด:“ที่เรียกพวกนายมา เพราะต้องการจะฝึกฝนให้พวกนายเป็นการเฉพาะ ฉันฝึกฝนพวกนาย แล้วพวกนายก็ไปฝึกฝนให้คนอื่นๆต่อ”

คนเหล่านี้ต่างก็มองหน้ากัน ฝึกฝนเป็นการเฉพาะ? ฝึกฝนอะไร?

อู๋เป่ย:“คืนนี้ พวกนายทั้งเก้าคนอย่าพึ่งไปไหน ฉันจะให้พวกนายได้รู้ ว่าวิชาลอบสังหารแท้จริงเป็นยังไง!”

ไม่นาน ทุกคนก็แยกย้าย มีสิบเอ็ดคนที่ยังอยู่ที่นี่ ในจำนวนนั้นรวมเฟ่ยเหลียนและหลี่อาซื่ออยู่ด้วย

พวกเขาถูกอู๋เป่ยเรียกไปที่ชั้นดาดฟ้าของสำนักงานใหญ่ โดยปกติแล้วที่นี่ใช้สำหรับฝึกฝนและเป็นสถานที่พักผ่อน เขาเรียกทั้งเก้าคนมาตรงหน้า แล้วถ่ายทอดวิชาให้ทีละระดับ

ระดับวิชาที่ว่านี้ เรียกว่าระดับผีสางเทวดา แบ่งออกเป็นระดับผี และระดับเทพ ในระดับผีนั้นแบ่งได้อีกสามระดับ ความสามารถนั้นทำให้ผู้คนหวาดกลัวราวกับผีสางเทวดา

ตอนนี้ที่อู๋เป่ยถ่ายทอดให้ ก็คือระดับผี!

วิชาระดับนี้ เขาก็ไม่เคยฝึกจริงจัง ตอนนี้คือเรียนไปด้วยถ่ายทอดไปด้วย เขาพูดถึงทฤษฎีก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มปฏิบัติ คนที่อยู่ในที่นี่ ต่างก็เลียนแบบท่าทางของเขา ฝึกฝนระดับผี

แต่ทว่า พวกเขาพึ่งจะฝึกฝนได้ไม่นาน จู่ๆก็ท้องฟ้าก็เกิดแปรปรวนขึ้นมา ผ่าลงมาบนพื้น มีสองคนที่บาดเจ็บ เขาพ่นเลือดออกมา สีหน้าซีดเผือด

อู๋เป่ยแปลกใจอย่างมาก ในตอนที่เขาฝึกให้ตัวเองนั้น กลับไม่ได้รู้สึกว่ากินแรงแต่อย่างใด แต่ต่อมา พอคิดดูดีๆก็เข้าใจขึ้นมา วิชากำลังกายที่เขาฝึกนั้น ทำให้ระดับผีสางเทวดานี้ไม่ยากเกินไปสำหรับเขา

เขาเลยอธิบายให้ฟังอีกรอบ:“พวกนายฝึกฝนต่อ ฝึกจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้”

พูดจบ เขาก็เรียกเฟ่ยเหลียนไปที่ห้องทำงานตามลำพัง เฟ่ยเหลียนตื่นเต้นมาก เขาไม่รู้เลยว่าอู๋เป่ยจะช่วยเขาอย่างไร

อู๋เป่ยบอกให้เขานั่งลง แล้วพูด:“เฟ่ยเหลียน ฉันจะลองช่วยให้นายควบคุมพลังนี้ได้ หรือไม่ก็กำจัดมันทิ้งไปเลย ขั้นต่อไป นายต้องให้ความร่วมมือฉันเต็มที่ ไม่ต้องเกร็งล่ะ”

เฟ่ยเหลียนพยักหน้า:“ครับ!”

อู๋เป่ยยกหมัดขวาขึ้น กดลงไปที่ใจกลางสันหลังของเขา เตรียมที่จะใช้ยาพลังชีวิตสีม่วงซ่อมแซมส่วนกล้ามเนื้อที่ถูกพลังมหาศาลนั่นทำลาย แต่ทันใดนั้น เมล็ดเต๋าในจุดชีพจรจู่ๆก็เต้นขึ้นมา ทำให้เกิดแรงดึงดูดมหาศาล

ทันใดนั้น พลังในร่างกายของเฟ่ยเหลียนก็พุ่งออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ หลังจากนั้นก็ไหลเข้าไปในจุดชีพจรตามแขนของอู๋เป่ย จนถูกเมล็ดเต๋ากลืนกิน!

หลังจากที่เมล็ดเต๋ากลืนกินพลังนี้แล้ว ก็สกัดมัน ทำให้มันบริสุทธิ์ หลังจากนั้นก็ปลดปล่อยพลังบริสุทธิ์ออกมา พลังนี้ง่ายต่อการควบคุมอย่างมาก หมุนเวียนอยู่ในร่างกายของอู๋เป่ยรวมกับพลังชีวิตสีม่วง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ